ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมถูกลงมติรับรองให้ถอดถอนจากตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยสำนักข่าว AP รายงานว่า ส.ส. ที่เตรียมโหวตสนับสนุนมีจำนวนมากกว่า ส.ส. ที่คัดค้าน ขณะที่ทรัมป์ได้ส่งจดหมายถึง แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประณามสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ผลักดันเรื่องนี้ พร้อมระบุว่า ตนตกเป็นเหยื่อของความพยายามรัฐประหาร
แม้จนถึงขณะนี้ยังไม่มี ส.ส. จากพรรครีพับลิกันคนใดที่แสดงตัวว่า จะโหวตถอดถอนทรัมป์ แต่สมาชิกเดโมแครตที่ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง ซึ่งรวมถึง ส.ส. ใหม่ในเขตฐานเสียงของทรัมป์ ได้ประกาศอย่างชัดเจนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาจะโหวตเห็นชอบให้ถอดถอนทรัมป์
สำหรับการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มขึ้นในวันนี้ (18 ธันวาคม) โดยจะเกี่ยวข้องกับญัตติถอดถอนจากความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ และขัดขวางกระบวนการตรวจสอบของสภาคองเกรส
ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่า พยายามดึงรัฐบาลต่างชาติมาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 โดยการกดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดฉากสอบสวนข้อกล่าวหาคอร์รัปชันของ โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากเดโมแครต ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของทรัมป์
ด้านทรัมป์ ซึ่งปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอด ได้ส่งจดหมายถึงเปโลซีเพื่อคัดค้านกระบวนการถอดถอน พร้อมกล่าวหาว่า เดโมแครตพยายามบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมและใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อกำจัดเขาให้พ้นจากตำแหน่ง
ทรัมป์ยอมรับว่า จดหมายฉบับนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรจากที่เป็นอยู่ เพียงแต่ต้องการแสดงจุดยืนคัดค้าน เพื่อบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์
ทรัมป์นับเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ถัดจาก แอนดรูว์ จอห์นสัน และ บิล คลินตัน ที่ถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง แต่ในอดีตยังไม่เคยมีครั้งไหนที่ประธานาธิบดีถูกถอดถอนสำเร็จ ซึ่งแม้ครั้งนี้ญัตติถอดถอนอาจผ่านความเห็นชอบในสภาล่าง แต่ก็คาดว่า จะไม่ผ่านการรับรองในวุฒิสภาที่มี ส.ว. รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก โดยขั้นตอนนี้ต้องใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 จึงจะถอดถอนสำเร็จ ซึ่งหมายความว่า เดโมแครตต้องการเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 67 เสียง แต่ปัจจุบันรีพับลิกันมี ส.ว. จำนวน 53 ที่นั่ง ขณะที่เดโมแครตมี 45 ที่นั่ง ต่อให้รวมกับ ส.ว. อิสระอีก 2 เสียง ที่ส่วนใหญ่โหวตให้เดโมแครต ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: