อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้น (Primary Vote) ของพรรครีพับลิกัน ที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ วานนี้ (23 มกราคม) โดยเอาชนะคู่แข่งหลักเพียงคนเดียวอย่าง นิกกี เฮลีย์ อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ไปด้วยคะแนนเสียง 55% ต่อ 43.5% ตามข้อมูลจาก CNN
ชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นครั้งนี้ส่งผลให้ทรัมป์เข้าใกล้การเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้เขาสามารถเอาชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐไอโอวา ซึ่งถือเป็นผู้สมัครรีพับลิกันคนแรกที่คว้าชัยชนะได้ทั้ง 2 รัฐนับตั้งแต่ปี 1976
ขณะที่เฮลีย์แสดงความยินดีต่อชัยชนะของทรัมป์ แต่เตือนว่าการแข่งขันยังห่างไกลจากคำว่าสิ้นสุด โดยเธอเตรียมพร้อมสำหรับสนามเลือกตั้งถัดไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่รัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเฮลีย์เกิดและดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ 2 สมัย และมั่นใจว่าทรัมป์จะต้องเผชิญ ‘ช่วงเวลาที่ยากลำบาก’ ในการชิงชัยที่รัฐนี้ แม้ว่าโพลสำรวจคะแนนนิยมในรัฐนี้จะยังเป็นทรัมป์ที่มีคะแนนนำหน้าเฮลีย์
ทั้งนี้ คาดว่าผลเลือกตั้งที่ออกมาจะเพิ่มแรงกดดันและกระแสเรียกร้องจากสมาชิกรีพับลิกันให้เฮลีย์ถอนตัวจากการชิงตัวแทนพรรค หลังจากที่ รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ถอนตัวไปก่อนหน้านี้และหันไปสนับสนุนทรัมป์
โดยเฮลีย์ประกาศคำมั่นว่า เธอจะเดินหน้าชิงตัวแทนรีพับลิกันต่อไปจนถึงวัน Super Tuesday ช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นวันสำคัญที่จะมีการจัดเลือกตั้งขั้นต้นของรีพับลิกันใน 15 รัฐและ 1 เขตแดนในวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ แต่การคว้าชัยชนะเป็นตัวแทนรีพับลิกันหรือแม้กระทั่งชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีก็อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากทรัมป์ยังเผชิญโทษทางอาญา 4 คดีจากความผิดหลายกระทง รวมถึงความพยายามพลิกผลเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 และการเก็บเอกสารลับหลังออกจากทำเนียบขาวในปี 2021
โดยผลสำรวจหน้าคูหา หรือ Exit Poll พบว่าผู้ลงคะแนนเกือบครึ่งมองว่า ทรัมป์ไม่เหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนพรรคหากถูกศาลตัดสินความผิด
ภาพ: Jabin Botsford / The Washington Post via Getty Images
อ้างอิง: