×

ทรัมป์ป่วนค้าโลก ขู่รีดภาษีใครบ้างก่อนศาลสั่งเบรก เจ้าตัวไม่ถอย ยื่นอุทธรณ์! ‘ไทยยูเนี่ยน-เดลต้า’ จับตากระทบครึ่งปีหลัง

29.05.2025
  • LOADING...
ทรัมป์ป่วนค้าโลก

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหลายรายการ โดยให้เหตุผลว่าภาษีเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการผลิตของสหรัฐฯ และจ้างงานคนในประเทศ 

 

ทรัมป์ต้องการลดช่องว่างระหว่างมูลค่าของสินค้าที่สหรัฐฯ ซื้อจากประเทศอื่น และสินค้าที่ขายให้กับประเทศเหล่านั้น และอ้างว่าอเมริกาถูก ‘คนโกง’ และ ‘ปล้นสะดม’ โดยชาวต่างชาติมานาน

 

แต่นับจากคำประกาศก็ทำให้เศรษฐกิจโลกปั่นป่วน และอาจทำให้สินค้าของผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้นเสียเอง

 

มีเพียงสหราชอาณาจักรที่บรรลุข้อตกลงเรื่องภาษีนำเข้า ส่วนประเทศอื่นๆ ก็หวังว่าจะบรรลุข้อตกลงกับทำเนียบขาวได้ในเร็ววัน

 

ทว่าก่อนที่จะครบกำหนดที่ทรัมป์ยืด 90 วัน ล่าสุด วันนี้ (29 พ.ค.) ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (US Court of International Trade) มีคำตัดสินว่า มาตรการกำแพงภาษีทั่วโลก (Global Tariff) ส่วนใหญ่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำนั้นขัดต่อกฎหมาย

 

แม้ผลกระทบโดยตรงของคำตัดสินของศาลยังไม่ชัดเจน แต่ทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว

 

กว่า 2 เดือน นับจากวันปลดแอก 2 เม.ย. ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี ใครบ้างที่โดนหางเลข?

 

สหภาพยุโรป (EU)

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่าจะให้ขึ้นภาษี 50% สำหรับสินค้าทั้งหมดจากสหภาพยุโรปที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ

 

ในตอนแรกเขาเสนอให้ขึ้นภาษี 20% สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ของสหภาพยุโรป แต่ได้ลดลงเหลือ 10% จนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเจรจา โดยเขียนในโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “การหารือกับสหภาพยุโรปไม่ได้ผลอะไรเลย!” ดังนั้น ภาษีใหม่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน”

 

แต่วันถัดมา ทรัมป์ระบุว่าเพิ่งได้รับแจ้งว่า EU ติดต่อมาเพื่อเร่งกำหนดวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องดี และหวังว่าพวกเขาจะยอมเปิดตลาดให้กับสหรัฐอเมริกาในที่สุด เหมือนกับที่เขาเรียกร้องจากจีน ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า EU มีท่าที “ดึงเกม” ในการเจรจากับทำเนียบขาวเรื่องข้อตกลงการค้าอย่างมาก

 

จีน

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ และจีนได้เพิ่มภาษีศุลกากรอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่ปัจจุบันได้บรรลุข้อตกลงในการลดภาษีอย่างมีนัยสำคัญ

 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

 

หลังจากวันที่ 2 เมษายน ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ แต่บางประเทศ รวมถึงจีน ก็ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่า ในวันนั้นจีนตอบโต้กลับด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ และการเพิ่มภาษีดังกล่าวส่งผลให้สหรัฐฯ จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 145% เมื่อวันที่ 9 เมษายน และจีนจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ บางส่วน 125%

 

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และจีนได้ ‘พักรบ’ ภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมด ยกเว้น 10% ในช่วงที่ชะลอออกไป 90 วัน 

 

มาตรการดังกล่าวจะทำให้สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลงเหลือ 30% ขณะที่จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลงเหลือ 10%

 

แคนาดาและเม็กซิโก

แคนาดาและเม็กซิโกก็ตกเป็นเป้าหมายของทรัมป์มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน เมื่อเขาประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากทั้งสองประเทศ 25% และเก็บภาษีพลังงานของแคนาดา 10% แต่ทรัมป์ก็ ‘กลับลำ’ เลื่อนและยกเว้นภาษีหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งแคนาดาจึงประกาศเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์บางรุ่นที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 เมษายน

 

เหล็กและอะลูมิเนียม

ภาษีนำเข้า 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมดที่เข้าสู่สหรัฐฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะเหล่านี้ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม

 

รถยนต์

ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน รถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศถูกเรียกเก็บภาษี 25% ซึ่งขยายเวลาให้ครอบคลุมถึงเครื่องยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ ที่นำเข้ามาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม

 

สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

วันที่ 12 เมษายน มีการประกาศยกเว้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภทจากจีนและที่อื่นๆ รวมถึงสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ แต่ในเวลาต่อมาทรัมป์เตือนว่าสัมปทานดังกล่าวอาจหมดลง

 

ส่งผลให้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% ‘ขั้นต่ำ’ สำหรับ iPhone ของ Apple ที่ไม่ได้ผลิตในอเมริกา

 

ภาพยนตร์

วันที่ 4 พฤษภาคม ทรัมป์ต้องการเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับภาพยนตร์ต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของชาวอเมริกัน

 

ระงับวีซ่านักเรียน

วันที่ 28 พฤษภาคม ทรัมป์ออกคำสั่งไปยังสถานทูตและสถานกงสุลทั่วโลกให้ระงับการรับจองคิวสำหรับการยื่นขอวีซ่าของนักศึกษาต่างชาติเป็นการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีการออกระเบียบปฏิบัติสำหรับการตรวจสอบโซเชียลมีเดียของผู้สมัครวีซ่าเรียบร้อยแล้ว

 

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ กับวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ อย่าง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งทรัมป์เชื่อว่าเป็นฝ่ายซ้ายเกินไป 

 

สะเทือนหุ้น เศรษฐกิจโลก!

นับตั้งแต่วันประกาศภาษี เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นโลกอย่างมาก ซึ่งบริษัทต่างๆ ขายหุ้นในธุรกิจของตน หลายคนได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นในตลาดหุ้น แม้ว่าจะไม่ได้ลงทุนในหุ้นโดยตรงก็ตาม เนื่องจากผลกระทบต่อเงินบำนาญ การจ้างงานและอัตราดอกเบี้ย

 

มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งโดยปกติถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ก็ลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเช่นกัน

 

ราคาหุ้นตกต่ำลง ส่งผลอย่างไร ทำไมดอลลาร์สหรัฐตกจึงมีความสำคัญ

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปี 2025 อันเป็นผลจากภาษีศุลกากรอีกด้วย

 

โดยคาดว่าสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด และระบุว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นในปี 2025

 

ขณะที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งครบ 100 วัน กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวลงในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2025 หลังจากเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสก่อนหน้า

 

ท่ามกลางประธานาธิบดียืนกรานว่านโยบายของเขาได้ผล แต่อีกเสียงที่มีอิทธิพลภายในพรรครีพับลิกันของเขาเองได้เข้าร่วมกับพรรคเดโมแครตฝ่ายค้านและผู้นำต่างประเทศในการโจมตีมาตรการดังกล่าว 

 

เพราะราคาสินค้าที่นำเข้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นบางส่วนหรือทั้งหมด

 

ผู้ผลิต adidas และ Mattel ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกหลายแห่ง ต่างเห็นตรงกันว่าจะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าชาวอเมริกันมากขึ้น

 

จนบริษัทบางแห่งอาจตัดสินใจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศน้อยลง ซึ่งอาจทำให้สินค้าที่มีจำหน่ายมีราคาแพงขึ้น คาดว่าต้นทุนของสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ โดยใช้ส่วนประกอบนำเข้าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

ภาษีทรัมป์กระทบ ‘ไทยยูเนี่ยน-เดลต้า’ หวั่นกดดันกำไร

แม้ว่าล่าสุด ศาลการค้าสหรัฐได้สั่งห้าม แต่ดูเหมือนรัฐบาลทรัมป์ ‘ไม่ยอม’ และอาจประวิงเวลา เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อ 

 

Nikkei Asia รายงานว่า สำหรับบริษัทเอกชนไทย อย่าง ‘ไทยยูเนี่ยน’ ผู้ผลิตและส่งออกปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ลง ขณะที่ ‘เดลต้า ประเทศไทย’ ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ก็ห่วงว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นหลังเดือนกรกฎาคม

 

โดยไทยยูเนี่ยน ผู้ผลิตแบรนด์ ‘Chicken of the Sea’ ในสหรัฐฯ ได้ปรับลดเป้าการเติบโตของยอดขายทั้งปี จากเดิมที่คาดไว้ 3-4% เหลือเพียง 1-3% 

 

การปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะส่งผลให้ยอดขายลดลงมากถึงราว 27 ล้านดอลลาร์ หรือราว 900 ล้านบาท บริษัทระบุว่าจะปรับลดการลงทุนปีนี้ลงมากถึง 2,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของสภาพคล่องเงินสด

 

ขณะที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน โดย วิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย กล่าวในการแถลงข้อมูลแก่นักลงทุนว่า นโยบายภาษีสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป

 

“แม้แนวโน้มความต้องการจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปจนถึงเดือนมิถุนายน จากคำสั่งซื้อช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนที่การชะลอเก็บภาษีเพิ่มเติม ที่จะสิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้นหากอัตราภาษีเกิน 15% ลูกค้าจะไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้

 

ภาพ: Demetrius Freeman / The Washington Post via Getty Images

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising