×

สื่อสหรัฐฯ เผย ทรัมป์เล็งหั่นงบกระทรวงการต่างประเทศเกือบ 50% รวมปิดสถานทูต ตัดงบ UN-NATO

16.04.2025
  • LOADING...
trump-state-department-cuts

The Washington Post และสื่อท้องถิ่นของสหรัฐฯ หลายสำนัก รายงานโดยอ้างบันทึกภายในของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าสำนักงานบริหารจัดการและงบประมาณ (Office of Management and Budget: OBM) ของทำเนียบขาว ได้ยื่น ‘ข้อเสนอแนะเบื้องต้น’ ให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปรับลดงบประมาณลงเกือบ 50% 

 

โดยข้อเสนอดังกล่าวครอบคลุมถึงการยกเลิกสนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการต่างๆ เช่น โครงการ Fulbright ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและการศึกษา และเป็นทุนการศึกษาที่ทรงเกียรติที่สุดโครงการหนึ่งของสหรัฐฯ ตลอดจนการเสนอให้ปิดสถานทูตในบางประเทศ และยกเลิกการสนับสนุนเงินทุนแก่องค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO)

 

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ยกเลิกการจัดสรรงบประมาณสนับสนุน สำหรับภารกิจรักษาสันติภาพของ UN โดยอ้างถึงความล้มเหลวในการปฏิบัติภารกิจในมาลี เลบานอน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 

 

ข้อเสนอการตัดงบประมาณดังกล่าวรวมอยู่ในเอกสารที่เรียกว่า ‘Passback’ ซึ่งเป็นการให้คำตอบของสำนักงานบริหารและงบประมาณ ต่อคำร้องของบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ สำหรับปีงบประมาณหน้า ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม 2025

 

โดยแผนหั่นงบประมาณ มาพร้อมกับท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กดดันให้ตัดลดการใช้จ่ายของรัฐบาลในวงกว้างขึ้น ตลอดจนลดบทบาทนำของอเมริกาบนเวทีระหว่างประเทศ

 

ยังไม่ใช่แผนขั้นสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตาม แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธข่าวการตัดลดงบประมาณดังกล่าวว่าเร็วเกินไป และชี้แจงว่า “ยังไม่มีแผนขั้นสุดท้ายหรืองบประมาณขั้นสุดท้าย”

 

“มีเพียงประธานาธิบดีทรัมป์เท่านั้นที่มีข้อมูลนั้น และเราจะได้เห็นในเร็วๆ นี้” 

 

ขณะที่บรูซ ปฏิเสธรายงานที่ว่า สหรัฐฯ อาจยุติการให้เงินสนับสนุน NATO โดยยืนยันว่า “ไม่เป็นไปตามความจริง” และเรียกการรายงานข่าวที่เกิดขึ้นว่าเป็นการสร้างความหวาดกลัว ซึ่งทำให้ผู้คนไม่พอใจ 

 

โดยเธอชี้ว่าสหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการเป็นพันธมิตรทางการทหาร และกำลังพยายามทำให้องค์กรนี้เป็นเครื่องมือยับยั้งสงครามที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ภาพ: Joshua Roberts / File / Reuters

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising