ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกกำหนดการเจรจาสันติภาพกับผู้นำตาลีบันและประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน ที่แคมป์เดวิด รัฐแมรีแลนด์ ในวันนี้ (8 ก.ย.) หลังตาลีบันยอมรับว่าได้ก่อเหตุโจมตีในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อเร็วๆ นี้ จนเป็นเหตุให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 1 นาย
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การเจรจาสันติภาพเพื่อยุติการสู้รบอันยาวนานของทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานมีความคืบหน้าไปมาก หลังสองฝ่ายจัดการเจรจาระดับผู้แทนที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ รวม 9 ครั้ง จนนำไปสู่เงื่อนไขที่สหรัฐฯ จะยอมถอนทหาร 5,400 คนออกจากอัฟกานิสถานภายใน 20 สัปดาห์ ขณะที่สหรัฐฯ มีทหารประจำการอยู่ที่นั่นราว 14,000 คน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผู้แทนเจรจาของฝ่ายสหรัฐฯ จะประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลสหรัฐฯ และตาลีบันได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพในหลักการแล้ว แต่ยังต้องรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งล่าสุดทรัมป์ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ว่าได้ยกเลิกนัดหมายพบปะกับผู้นำตาลีบันที่แคมป์เดวิดแล้ว ส่งผลให้ข้อตกลงสันติภาพระหว่างสหรัฐฯ และตาลีบันอาจยังไม่เกิดขึ้น
ทรัมป์ทวีตว่า เดิมทีผู้นำตาลีบันและประธานาธิบดีอัฟกานิสถานซึ่งเดินทางมาสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้จะประชุมกับเขาแบบลับๆ ที่แคมป์เดวิด แต่น่าเสียดายที่ตาลีบันยอมรับว่าได้ก่อเหตุโจมตีกรุงคาบูลจนมีผู้เสียชีวิต 12 ราย รวมทหารอเมริกัน 1 นาย ส่งผลให้ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการเจรจาทันที
การเชิญผู้นำตาลีบันมาเยือนสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นสัญญาณดีที่อาจนำไปสู่การยุติสงครามที่ยืดเยื้อ ขณะที่วันครบรอบเหตุวินาศกรรมที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 กำลังใกล้เข้ามา อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าการยกเลิกกำหนดการเจรจาในวันนี้จะส่งผลต่อข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันมาก่อนหน้านี้หรือไม่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: