การเลือกตั้งรอบไพรมารีที่เปิดฉากขึ้นในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา วันนี้ (28 กุมภาพันธ์) โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ต่างเป็นผู้ที่คว้าชัยชนะไปตามความคาดหมาย
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประธานาธิบดีไบเดนชนะการเลือกตั้งรอบไพรมารีในรัฐมิชิแกนไปอย่างสบายๆ แม้จะเผชิญกระแสต่อต้านจากผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตบางส่วนที่เรียกร้องให้บรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงโหวต ‘ไม่เลือกผู้สมัครคนใดเลย’ เนื่องจากไม่พอใจนโยบายของไบเดนที่สนับสนุนให้อิสราเอลทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อชัยชนะของไบเดนมากนัก
สำหรับทรัมป์ก็คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งรอบไพรมารีของพรรครีพับลิกัน เอาชนะคู่แข่งอย่าง นิกกี เฮลีย์ ไปได้อีกสนาม ซึ่งเฮลีย์ยืนยันว่าเธอยังไม่ยอมแพ้ และจะขอสู้ต่อจนกว่าจะถึงศึกเลือกตั้งขั้นต้น Super Tuesday ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม
ไบเดนเจอกระแสต่อต้านจากชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับและมุสลิม
สำนักข่าว CNN รายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการหลังจากที่มีการนับคะแนนไปแล้วราว 50% ซึ่งชี้ว่า แม้ไบเดนจะมีคะแนนนำลิ่วมาที่ 80.5% แต่สัดส่วนของผู้ที่ไม่เลือกลงคะแนนให้ใครเลยก็สูงตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 13.5%
รัฐมิชิแกนเป็นพื้นที่ที่มีชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับและมุสลิมอาศัยอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้จะเป็นผู้ที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต ขณะที่หลายคนลงคะแนนเสียงให้กับไบเดนในช่วงปี 2020 แต่พวกเขาก็ได้แสดงความไม่พอใจต่อนโยบายของไบเดนที่สนับสนุนให้อิสราเอลถล่มฉนวนกาซา จนมีชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนถูกสังหาร
แคมเปญ Listen to Michigan ซึ่งเรียกร้องให้ประชาชนลงคะแนนเสียง ‘ไม่เลือกใครเลย’ ระบุในแถลงการณ์ว่า “แคมเปญของเราได้รับชัยชนะในค่ำคืนนี้ ซึ่งเกินกว่าความคาดหมายของเราอย่างมาก ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตในมิชิแกนนับหมื่นคน ซึ่งหลายคนลงคะแนนเสียงให้ไบเดนในปี 2020 ไม่สนับสนุนการลงสนามเลือกตั้งครั้งใหม่ของเขาในรอบนี้ เนื่องจากสงครามในฉนวนกาซา”
แม้ไบเดนจะเอาชนะในการเลือกตั้งรอบนี้ได้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นชัดว่า ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะมองข้ามได้ และอาจเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนของไบเดนด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
เลือกตั้งสหรัฐ 2024 : ใครเปิดตัวลงชิงชัย เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 แล้วบ้าง?
-
ไบเดนคว้าชัยเลือกตั้งขั้นต้นรัฐนิวแฮมป์เชอร์ แม้ไร้ชื่อในบัตรลงคะแนน
ภาพ: Evelyn Hockstein / Reuters, Ronda Churchill / Reuters
อ้างอิง: