×

ทรูวิชั่นส์ ประกาศคว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกต่อเนื่องอีก 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2022/23 ถึง 2024/25 ยิงสดครบ 380 แมตช์ต่อฤดูกาล

28.03.2022
  • LOADING...
ทรูวิชั่นส์ ประกาศคว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกต่อเนื่องอีก 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2022/23 ถึง 2024/25 ยิงสดครบ 380 แมตช์ต่อฤดูกาล

วันนี้ (28 มีนาคม) ทรูวิชั่นส์ ผู้ให้บริการด้านเพย์ทีวีและสตรีมมิงผ่านทรูไอดีในประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ยืนยัน คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกต่อเนื่องอีก 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2022/23 ถึง 2024/25 ยิงสดครบ 380 แมตช์ต่อฤดูกาล

 

โดยแถลงการณ์ของทรูวิชั่นส์เปิดเผยว่า 

 

“ทรูวิชั่นส์ตอกย้ำความเป็น ‘คิงออฟสปอร์ต’ ผู้นำคอนเทนต์กีฬาระดับโลก ยืนยันการถือครองลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลอันดับ 1 ของโลก ต่อเนื่องอีก 3 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2022/23-2024/25 

 

“ลิขสิทธิ์ครบถ้วนแบบเบ็ดเสร็จเต็มรูปแบบ เชียร์สะใจผ่านทุกแพลตฟอร์มของกลุ่มทรู ทั้งบนทีวี สมาร์ทโฟน และออนไลน์ โดยทรูวิชั่นส์เป็นเพย์ทีวีเพียงรายเดียวของไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ให้แฟนบอลชมสดเต็มอิ่ม ครบทุกคู่ ทุกสนาม แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 380 แมตช์ต่อฤดูกาล รวม 1,140 แมตช์ ประเดิมเปิดสนาม 6 สิงหาคมนี้ สมาชิกที่ใช้บริการทรู เช่น ทรูวิชั่นส์, ทรูมูฟเอช, ทรูออนไลน์ และทรูไอดี จะได้ดูกันแบบเต็มที่” 

 

องอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดียของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

 

“ทรูวิชั่นส์เป็นเพียงรายเดียวของไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และไฮไลต์ สำหรับพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลใหม่นี้ ทรูวิชั่นส์ได้เตรียมความพิเศษมากมายเพื่อเพิ่มอรรถรสให้แฟนบอลได้เชียร์สะใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมงานนักพากย์มืออาชีพชั้นแนวหน้าของไทย หรือจะเลือกฟังเสียงบรรยายจากพรีเมียร์ลีกก็ได้ 

 

“พร้อมรับชมรายการพิเศษจากเหล่ากูรูลูกหนังที่จะมาร่วมวิเคราะห์ วิจารณ์ เจาะลึกการแข่งขัน ทั้งผลิตตรงจากพรีเมียร์ลีก และผลิตจากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นนำของเมืองไทย ร่วมด้วยรายการแมกกาซีนจากต่างประเทศ คอบอลต้องไม่พลาด สำหรับสมาชิกที่ใช้บริการทรู เช่น ทรูวิชั่นส์, ทรูมูฟเอช, ทรูออนไลน์ และทรูไอดี เตรียมพบกับความสนุก สด มัน กับสุดยอดแห่งลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลกฤดูกาลใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ที่นี่ที่เดียว”

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising