ผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE คาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลครั้งแรกช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากควบรวมกับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC ครบ 2 ปี
ทรู คาด จ่ายปันผล ครั้งแรก ครึ่งปีหลังนี้
ซิกเว เบรกเก ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2568 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่บริษัทสามารถสร้างกำไรสุทธิได้เป็นครั้งแรกหลังการควบรวมธุรกิจจำนวน 1.6 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ซิกเวยอมรับว่ายังไม่พอใจกับการเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้ไว้ที่ 2-3% และ EBITDA เติบโต 8-10% ในปี 2568 โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และให้ความสำคัญกับลูกค้ามากขึ้น
จากเป้าหมายที่วางไว้ “หมายความว่าอีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้จำเป็นจะต้องเห็นรายได้เติบโตดีกว่าไตรมาสแรก ขณะเดียวกันเราตั้งเป้าที่จะจ่ายเงินปันผลในปีนี้ หมายความว่าเราจำเป็นจะต้องทำกำไรให้ได้อย่างต่อเนื่อง” ซิกเวกล่าว
ทั้งนี้ นกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) ของ TRUE คาดว่าบริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกภายหลังการควบรวมได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ส่วนผลประกอบการของบริษัทที่ดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนสำคัญมาจากผลของการ synergy กันระหว่าง TRUE และ DTAC ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลง 37% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
หากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุง (Normalized Net Profit) จำนวน 4.3 พันล้านบาท โดยในไตรมาสนี้บริษัทบันทึกผลกระทบเชิงลบครั้งเดียว (One-Time Costs) 2.9 พันล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการด้อยค่าสินทรัพย์จากการพัฒนาเครือข่าย
ด้าน EBITDA ของบริษัทเพิ่มขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 2.53 หมื่นล้านบาท โดยอัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้น 4.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 61.2%
ในส่วนของรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าบริการเชื่อมต่อโครงข่าย) เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 4.13 หมื่นล้านบาท แต่ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาลและรายได้จากการโรมมิ่งภายในประเทศที่ลดลง
ซิกเวเชื่อ AI เปลี่ยนโฉมธุรกิจ
ซิกเวกล่าวต่อว่า การควบรวมทรูและดีแทคเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งสำคัญ “เป้าหมายคือการสร้างบริษัทที่แข็งแกร่งพอที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digitalization) ของประเทศไทย และ AI คือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น”
หนึ่งในภารกิจหลักที่ซิกเวให้ความสำคัญคือแนวคิด ‘AI for All Thais’ ครอบคลุมตั้งแต่การให้บริการ AI แก่องค์กรขนาดใหญ่ ภาครัฐ SMEs ไปจนถึงผู้บริโภครายย่อย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เทคโนโลยี AI เป็นสิ่งที่จับต้องได้และเกี่ยวข้องกับทุกคน
ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซิกเวเชื่อว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้าอย่างสิ้นเชิง “AI มีศักยภาพที่จะทำให้ลูกค้าทุกคนกลายเป็นหนึ่งกลุ่มเป้าหมาย เพราะเราควรจะสามารถรู้จักลูกค้าแต่ละคนในลักษณะที่เราสามารถให้บริการที่เป็นส่วนตัวแก่พวกเขาได้”
นอกเหนือจากระดับบุคคล AI ยังถูกมองเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ‘สร้างสังคมสมัยใหม่’ (Modern Society) ทั้งเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกัน (Internet of Things – IoT)
“ทุกสิ่งควรจะเชื่อมต่อผ่านบริการอินเทอร์เน็ต รวมถึงเซ็นเซอร์ขนาดเล็กบนเครื่องจักร ไฟจราจร กล้องวงจรปิด เพราะจากนั้นคุณจะสามารถทำให้เมืองเป็นดิจิทัลและขับเคลื่อนด้วย AI ได้” ซิกเวกล่าว
ปัจจุบันทรูกำลังอยู่ในกระบวนการรวมเครือข่ายของทรูและดีแทคเข้าเป็นเครือข่ายเดียวที่ทันสมัยและรองรับอนาคต โดยเริ่มที่จังหวัดภูเก็ตเป็นแห่งแรก และตั้งเป้าจะแล้วเสร็จทั่วประเทศภายในเดือนกันยายน 2568