ครั้งแรก! True IDC Experience Center สัมผัสเบื้องหลังการผสานธุรกิจสู่โลกดิจิทัล

หากพูดถึง Data Center หรือ Cloud อาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่รู้ไหมว่าที่จริงแล้วอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด

 

การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย การช้อปปิ้งออนไลน์ หรือการสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ ฯลฯ วิถีชีวิตแบบดิจิทัลที่คุ้นเคยเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่มีผู้ให้บริการด้าน Data Center หรือ Cloud

 

Data Center และ Cloud ธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

องค์กร บริษัท หรือธุรกิจที่ต้องการปรับตัวสู่โลกดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตหรือเพิ่มโมเดลการหารายได้ใหม่ๆ ด้วยการใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วย จะเลือกผู้ให้บริการด้าน Data Center และ Cloud อย่างไร

 

THE STANDARD พูดคุยกับ คุณธีรพันธุ์ เจริญศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ True IDC ผู้นำด้านการให้บริการ Data Center และ Cloud ระดับอาเซียน ถึงประเด็นเหล่านี้ ในสถานที่สุดพิเศษ True IDC Experience Center ที่ทาง True IDC ตั้งใจเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม เพื่อทำความรู้จักและเข้าใจโลกของ Data Center และ Cloud ทุกคนจะได้เห็นเบื้องหลังการทำงานจริงของเจ้าหน้าที่ และได้มีโอกาสสัมผัสกับเบื้องหลังระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่ขับเคลื่อนโลกดิจิทัลให้ก้าวไปข้างหน้า

 

 

Data Center และ Cloud คืออะไร

 

Data Center เปรียบเหมือนคอนโดที่แบ่งห้องหรือพื้นที่ให้องค์กรธุรกิจเข้ามาเช่าและใช้งาน แต่ต้องนำเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ หรืออุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาเอง

 

คุณธีรพันธุ์เริ่มต้นด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า “ในอดีตหากองค์กรธุรกิจต้องการจะทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับดิจิทัล นอกจากจะต้องซื้อคอมพิวเตอร์ของตัวเองแล้ว ต้องสร้างพื้นที่เพื่อเก็บคอมพิวเตอร์ และยังต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญมาคอยดูแล ส่งผลให้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ปัจจุบันนี้องค์กรหรือบริษัทต่างๆ สามารถเช่าพื้นที่เพื่อเก็บคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านผู้ให้บริการด้าน Data Center ที่ได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นให้เหมาะสมกับการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ และมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลระบบให้ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ซึ่งบริการที่ว่านี้ทาง True IDC ได้ริเริ่มและพัฒนามากว่า 20 ปีแล้ว”

 

Cloud เปรียบเหมือนโรงแรมที่ตกแต่งพร้อมสำหรับการอยู่อาศัย สามารถเข้ามาอยู่ได้โดยผู้ให้บริการได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว

 

คุณธีรพันธุ์ขยายความต่อไปว่า “จากยุคที่องค์กรหรือบริษัทต้องลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง มาสู่ยุคที่สามารถเช่าคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Hardware และ Software แปลว่าตอนนี้หากองค์กรหรือธุรกิจต้องการทำระบบหลังบ้านหรือให้บริการทางด้านดิจิทัล ก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เอง แต่สามารถเช่าใช้กับผู้ให้บริการได้ โดยทาง True IDC มีระบบ Cloud อย่าง True IDC Cloud ที่พร้อมตอบโจทย์ธุรกิจไทย ทั้งยังเป็นพาร์ตเนอร์กับผู้ให้บริการ Cloud ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Amazon Web Services (AWS), Alibaba Cloud, Google Cloud, Huawei Cloud และ Microsoft Azure ฯลฯ ซึ่ง True IDC ยังมีบริการ Cloud Consulting Services พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนอย่างครบวงจร

 

“อีกหนึ่งความฝันของเราคือการช่วยให้องค์กร ธุรกิจขนาดกลางหรือเล็ก สามารถให้บริการด้านดิจิทัลได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่งเสริมให้สตาร์ทอัพไทยเติบโตแข่งขันในตลาดได้มากขึ้น”

 

 

 

องค์กรหรือธุรกิจควรเลือกผู้ให้บริการอย่างไร

 

หากองค์กรหรือธุรกิจต้องการปรับตัวหรือยกระดับธุรกิจด้วยดิจิทัล สิ่งที่จะต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกคือการหา Pain Point หรือโจทย์ของธุรกิจตัวเองให้เจอ เพื่อค้นหาผู้ให้บริการด้าน Data Center หรือ Cloud ที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าสำหรับธุรกิจของตัวเองมากที่สุด

 

“โจทย์เริ่มมาจากธุรกิจว่าต้องการนำ IT มาใช้ตอบโจทย์ความต้องการอย่างไร เช่น หากธนาคารแห่งหนึ่งต้องการให้บริการ Mobile Application และมี Server มี Storage เป็นของตัวเองเป็นจำนวนมาก แปลว่าเขาต้องการพื้นที่ที่ให้เช่าเพื่อวางอุปกรณ์พวกนี้ บริการด้าน Data Center จึงดูจะตอบโจทย์มากที่สุด

 

“แต่หากเป็นธุรกิจย่อมๆ อย่างเช่นร้านกาแฟ เขาอาจต้องการพัฒนาระบบเพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้า อยากทำเว็บไซต์เพื่อโปรโมตให้ร้านกาแฟของเขาเป็นที่รู้จัก หรือต้องการจัดทำโปรโมชันเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ สเกลของเขาอาจไม่จำเป็นต้องซื้อลงทุนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เป็นของตัวเอง แต่สามารถใช้บริการ Cloud ได้”

 

สิ่งสำคัญที่คุณธีรพันธุ์เน้นย้ำคือ “เลือกผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานที่ดี และมั่นใจได้ว่าระบบของธุรกิจเราจะสามารถใช้งานได้อย่างเสถียรและราบรื่นในทุกๆ วัน”

 

 

 

True IDC Experience Center…เปิดประตูสู่โลกดิจิทัล

 

หลังจากเป็นผู้ให้บริการในอุตสาหกรรม Data Center มาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ยิ่งมองเห็นว่า Data Center และ Cloud จะยิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของการเปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้ True IDC Experience Center เพื่อให้บุคคลทั่วไป ตลอดจนภาคธุรกิจได้เข้ามาเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์เบื้องหลังโลกดิจิทัล

 

“True IDC Experience Center สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Infinite Reflection to Your Digital Journey จุดหมายของเราคือการนำประสบการณ์และเทคโนโลยีของเรามาเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้เรียนรู้ เปรียบเสมือน Live Learning Hub ที่จะเผยให้เห็นว่าเบื้องหลังแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เราใช้งาน ตลอดจนระบบต่างๆ เบื้องหลังความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของเราทุกคนมาจากไหน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ ได้แก่ Data Center Space และ Cloud Space”

 

• Data Center Space

ในโซนนี้จะประกอบด้วยห้องที่โชว์อุปกรณ์ที่ใช้งานใน Data Center จริงๆ เช่น ตู้ Rack สำหรับใส่อุปกรณ์ Server และ Storage ต่างๆ ระบบทำความเย็น ระบบระบายความร้อน ระบบเน็ตเวิร์ก ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่การจำลองสถานที่มาให้เราดูเท่านั้น แต่พิเศษตรงที่อุปกรณ์ต่างๆ ที่เราเห็นคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานจริงๆ และอยู่ในระหว่างใช้งานจริงทั้งหมด

 

 

คุณธีรพันธุ์เล่าว่า เบื้องหลังแอปพลิเคชันที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้มาจากขุมพลังของอุปกรณ์เหล่านี้ จะเห็นได้ว่า ในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการทางดิจิทัลต้องอาศัยเครื่องประมวลผลที่มีคุณภาพสูง ดังนั้นต้องมีระบบที่รองรับให้ใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่งเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล

 

 

นอกจากนี้ยังมี The Command Center ที่คอยทำหน้าที่ตรวจสอบและเฝ้าระวังอุปกรณ์ทุกๆ อย่างในศูนย์ Data Center หากจุดไหนมีความผิดปกติจะมีเซ็นเซอร์คอยแจ้งเตือนมาที่ห้องนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

 

 

 

ถัดมาจะเป็น 360° Virtual Data Center Experience ที่เราสามารถเดินทัวร์ Data Center ของทาง True IDC ที่ได้การรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก Uptime Institute ในรูปแบบ Virtual Tour มองเห็นทุกๆ โซน โดยปกติแล้วพื้นที่ Data Center ถือเป็นพื้นที่หวงห้าม สามารถเข้าได้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งจุดนี้ทุกคนจะได้เห็นภาพห้องต่างๆ ใน Data Center อย่างเต็มรูปแบบ เช่น Data Hall ห้องที่ใช้ในการจัดเก็บคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ห้อง Electric Generator ที่ดูแลระบบไฟฟ้าของทั้งศูนย์ ห้องแบตเตอรี่สำรอง รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด 10 ขั้นตอน ซึ่งจุดนี้ถือเป็นโซนที่ค่อนข้างเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะไม่ค่อยมีผู้ให้บริการรายไหนในไทยที่เปิดให้เห็นรายละเอียดทั้งหมดแบบนี้

 

• Cloud Space

 

หากใครยังจินตนาการไม่ออกว่าโลกของ Cloud แทรกซึมอยู่ในโลกประจำวันของเรามากน้อยแค่ไหน Cloud Space คือโซนที่จะช่วยทำให้เราได้เข้าใจมากขึ้น

 

 

โซนนี้ประกอบด้วย Cloud Showcase ที่จะฉายภาพให้เห็นว่าเทคโนโลยี Cloud อยู่เบื้องหลังบริการที่เราคุ้นเคยอะไรบ้าง ซึ่งทาง True IDC มีส่วนในการร่วมพัฒนาด้วย

 

ตัวอย่างเช่น True VROOM แพลตฟอร์มห้องประชุมเสมือนจริงที่ใช้เทคโนโลยี Cloud จากหลากหลายผู้ให้บริการมาสร้างเป็นแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ภายใต้แบรนด์คนไทย ที่ทาง True IDC เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มนี้

 

หรืออย่าง Smart Farming ที่ใช้เทคโนโลยี Cloud ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดความเสี่ยงในการทำการเกษตรให้กับเกษตรกรไทย ปัจจุบันถูกนำไปใช้งานจริงในฟาร์มของ CP Group

 

 

นอกจากนี้หากผู้ประกอบการหรือธุรกิจที่สนใจในเทคโนโลยี Cloud อยากนำเทคโนโลยี Cloud มาปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มการวางโครงสร้างพื้นฐาน สามารถมาเรียนรู้ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน Cloud Terminal ที่จะช่วยแนะนำโครงสร้างพื้นฐานเบื้องต้นที่ควรจะมีทั้งหมดตามความต้องการ

 

ดูโครงสร้างพื้นฐานแล้วต้องการคำปรึกษาหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ยังมี Cloud Clinic หรือศูนย์ให้คำปรึกษาด้านบริการ Cloud ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการอยู่ตลอดเวลา พร้อมตอบทุกปัญหา คลายทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับบริการ Cloud

 

 

เส้นทางความสำเร็จของ True IDC ในการเป็นผู้ให้บริการเบอร์ 1 ด้าน Data Center ของไทย คือสิ่งที่เน้นย้ำว่าวิสัยทัศน์คือคีย์สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ หากย้อนกลับมาที่ชีวิตของเรา วันนี้ทักษะด้านดิจิทัลคือหนึ่งในทักษะจำเป็นแห่งศตวรรษที่ 21 การเปิดใจเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ นี้จะช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าและไม่ตกขบวน

 

คุณธีรพันธุ์ทิ้งท้ายว่า ในระยะ 4-5 ปีหลังที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจ Data Center และ Cloud ยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดขึ้น ปัจจุบัน True IDC กำลังขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม Data Center

 

“ด้วยทักษะความสามารถของบุคลากร และจุดเด่นทางด้านภูมิศาสตร์ของไทย เราสามารถเป็น Digital Hub ของอาเซียนได้อย่างแน่นอน”