เปลี่ยนบ้านให้เป็นศิลปะที่อยู่อาศัยได้ แปลงสินทรัพย์ให้ไม่มีวันตาย

เมื่อความสำเร็จเดินทางมาถึงจุดสูงสุด การเลือกที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นเพียงการหาที่พักพิง แต่คือการสร้างอาณาจักรส่วนตัวที่สะท้อนทุกมิติของชีวิตที่ซึ่งมีอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ถูกนิยามแตกต่างออกไป ไม่ใช่เพียง ‘บ้านหรู’ แต่คือ ‘Trophy Property’ สินทรัพย์ที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานแห่งความสำเร็จ ที่ซึ่งทุกตารางนิ้วไม่ได้วัดค่าด้วยราคา แต่ด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวิสัยทัศน์ของผู้ครอบครอง

สถานที่เหล่านี้คือพื้นที่ที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางอันยาวไกล คือผืนผ้าใบสะท้อนรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ และคือรากฐานที่แข็งแกร่งของความมั่งคั่งที่กำลังจะถูกส่งต่อไปยังอนาคต การเลือกสรรอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จึงไม่ใช่แค่การตัดสินใจลงทุน แต่คือการจารึกตำนานบทหนึ่งของตระกูล

เมื่อความหลงใหลในสถาปัตยกรรมมาบรรจบกับศาสตร์แห่งการบริหารสินทรัพย์ การเปลี่ยนพื้นที่แห่งความสุขให้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งที่ทรงพลังที่สุดจึงเกิดขึ้น ซึ่งปรัชญาการมองสินทรัพย์ที่ลึกซึ้งเช่นนี้เองที่สอดคล้องกับแนวคิดของ UOB Privilege Banking ที่เข้าใจและให้คุณค่ากับทุก Passion & Lifestyle จึงพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมทุกความหลงใหลให้กลายเป็นความมั่งคั่ง ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ เข้ากันกับไลฟ์สไตล์ของผู้มีความมั่งคั่งทุกท่าน ดังที่ตั้งใจนำเสนอผ่านบทความพิเศษนี้

นิยามของบ้านที่มีชีวิต เจาะลึกสถาปัตยกรรมระดับไอคอน

Trophy Property มีหัวใจร่วมกันคือ ‘ความพิเศษหนึ่งเดียว’ ที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ และมักปรากฏใน 3 รูปแบบหลักซึ่งแต่ละรูปแบบมีกลไกการสร้างมูลค่าที่แตกต่างกัน

หนึ่งคือ The Heritage Estate หรือคฤหาสน์เก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้คือการลงทุนใน ‘เรื่องราว’ ที่ประเมินค่าไม่ได้ คุณค่าของสินทรัพย์ไม่ได้มาจากตัวอาคารเท่านั้น แต่มาจากประวัติความเป็นมา (Provenance) ที่ทำให้เป็นที่หมายปองของนักสะสมทั่วโลก

ตัวอย่างระดับโลกคือ Villa Leopolda ณ French Riviera ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีมูลค่าประเมินสูงกว่า 500 ล้านยูโร หรือคฤหาสน์ในย่าน Knightsbridge ของลอนดอนที่ราคาสูงกว่า 200 ล้านปอนด์ สินทรัพย์เหล่านี้คือ ‘Safe Haven’ ที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประวัติศาสตร์ที่เงินไม่สามารถซื้อได้

สองคือ The Architectural Masterpiece หรือบ้านที่รังสรรค์โดยสถาปนิกระดับโลก ที่ซึ่งชื่อของผู้ออกแบบคือ ‘แบรนด์’ ที่การันตีมูลค่า เช่นผลงานของสถาปนิกในตำนานอย่าง แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ (Frank Lloyd Wright) ซึ่งบ้านที่ออกแบบโดยเขาอย่าง Ennis House ในลอสแอนเจลิส ถูกขายไปในราคา 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หรือเพนท์เฮาส์ที่ออกแบบโดย ซาฮา ฮาดิด (Zaha Hadid) ในนิวยอร์กที่สามารถทำราคาได้สูงถึง 20-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การครอบครองบ้านเหล่านี้จึงไม่ต่างจากการครอบครองผลงานศิลปะชิ้นเอก ที่มีแนวโน้มมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงเมื่อเวลาผ่านไป

และสามคือ The Branded Residence หรือโครงการที่อยู่อาศัยที่บริหารโดยแบรนด์โรงแรมหรูระดับโลก นี่คือการลงทุนในไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบและผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้

รายงานจาก Savills บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกชี้ว่า โครงการ Branded Residences โดยเฉลี่ยมีราคาสูงกว่าโครงการหรูทั่วไปในทำเลเดียวกันถึง 31% ซึ่งเป็น ‘ส่วนต่างของความสมบูรณ์แบบ’ ที่นักลงทุนยินดีจ่ายเพื่อแลกกับคุณภาพ การบริหารจัดการระดับโลก และศักยภาพในการปล่อยเช่าที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

กลยุทธ์การลงทุนผ่าน Trophy Property

Trophy Property ถูกจัดเป็น ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ (Alternative Investment) ที่ทรงประสิทธิภาพในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ เนื่องจากมูลค่าไม่ได้เคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น แต่ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเฉพาะตัวอย่างความหายากและเรื่องราว ทำให้เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่มั่นคงและยั่งยืน

ข้อมูลจาก Knight Frank Prime Global Cities Index ในไตรมาสแรกของปี 2024 เผยว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในเมืองสำคัญทั่วโลกยังคงเติบโตเฉลี่ย 4.1% ต่อปี แม้เผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ สินทรัพย์เหล่านี้จึงเป็นเครื่องมือชั้นดีในการปกป้องความมั่งคั่งจากภาวะเงินเฟ้อ (Capital Preservation) และสร้างการเติบโตในระยะยาว

นอกจากการเติบโตของมูลค่าแล้ว สินทรัพย์เหล่านี้ยังสามารถสร้าง ‘กระแสเงินสด’ จากการปล่อยเช่า และที่สำคัญคือสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อ ‘ต่อยอดความมั่งคั่ง’ (Leverage) โดยเจ้าของสามารถนำมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ไปใช้ระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจหรือลงทุนในโอกาสใหม่ๆ ทำให้สินทรัพย์ไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ทำงานสร้างความมั่งคั่งได้อย่างต่อเนื่อง

ศิลปะแห่งการธำรงคุณค่า การบริหารจัดการ และการส่งต่อมรดก

หัวใจของศิลปะแห่งการธำรงคุณค่า คือความเข้าใจว่าการครอบครอง Trophy Property เป็นมากกว่าสิทธิ์ แต่คือภารกิจในการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีชีวิต ซึ่งต้องอาศัยความใส่ใจในทุกรายละเอียด

ตั้งแต่การบำรุงรักษาที่ต้องใช้ช่างฝีมือชั้นครูและวัสดุเฉพาะทางเพื่อคงสภาพดั้งเดิม ไปจนถึงการวางโครงสร้างการถือครองผ่านบริษัทของครอบครัว (Family Office) หรือกองทรัสต์ เพื่อสร้างเกราะป้องกันและเสริมประสิทธิภาพทางภาษี

เมื่อการธำรงคุณค่าในปัจจุบันสมบูรณ์แล้ว ขั้นต่อไปคือการส่งต่อคุณค่านั้นสู่อนาคตผ่าน ‘การวางแผนมรดก’ (Estate Planning) เพราะการส่งต่อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและความผูกพันทางใจมหาศาลเช่นนี้ จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรัดกุมและมองการณ์ไกล เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน การส่งต่อบ้านจึงไม่ใช่เพียงการโอนกรรมสิทธิ์ แต่คือการส่งมอบความภาคภูมิใจและแต่งตั้งทายาทให้เป็นผู้สืบสานตำนานของตระกูลคนต่อไป

ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกสรรและบริหารจัดการ Trophy Property อย่างมีวิสัยทัศน์ คือจุดบรรจบที่สมบูรณ์แบบที่สุดระหว่างความหลงใหลส่วนตัว ศิลปะ และกลยุทธ์ทางการเงินที่เฉียบคม เป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตปัจจุบัน พร้อมกับวางรากฐานอันแข็งแกร่งเพื่ออนาคตของครอบครัว

สอดคล้องกับแนวคิดของ UOB Privilege Banking ที่พร้อมจะ ‘ใส่ใจทุกเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณ’ ทั้งในมิติความมั่งคั่งทางการเงิน และไลฟ์สไตล์ที่ช่วยเติมเต็มชีวิต