×

Travel Trend 2023: จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในวงการท่องเที่ยวปี 2023

06.01.2023
  • LOADING...

หลังโลกเหี่ยวเฉาจากการแพร่ระบาดมานานเกือบ 3 ปีเต็ม ในที่สุดโลกก้าวพ้นสู่ยุคหลังโควิดอย่างเป็นทางการ ผู้คนจำนวนมากกลับมาเดินทางลัดฟ้าไปมาหาสู่กันอีกครั้ง พรมแดนระหว่างประเทศเปิดออก นักเดินทางปักหมุดยังจุดหมายปลายทางที่เคยคิดถึงอีกครั้ง

 

ขณะที่ปี 2022 เป็นการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางที่เราคุ้นเคยเพื่อเยียวยาความโหยหาและคิดถึง ในปี 2023 นักเดินทางจะมองหาประสบการณ์ที่ก้าวไปอีกระดับ ลึกซึ้งมากขึ้น เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ใส่ใจสิทธิประโยชน์มากขึ้น ขณะเดียวกันบิ๊กเทรนด์อย่างการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกกลับซึมลึกเข้าสู่วิถีนักเดินทางอย่างเป็นธรรมชาติ กลายเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่นักเดินทางต่างพึงใส่ใจและปฏิบัติ

 

โลกแห่งการท่องเที่ยวในปี 2023 จะมีหน้าตาเช่นไรนั้น นี่คือ 7 เทรนด์ท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ 

 

 

ทริปเดินทางเพื่อพัฒนาตนเองจะได้รับความสนใจ

หลังจากเดินทางเพื่อการพักผ่อนและสนุนสนานในช่วงปลายปี 2022 ช่วงกลางปี 2023 เป็นต้นไป ผู้คนจะเริ่มมองหาทริปเดินทางที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น หรืออาจเป็นการเดินทางที่มีส่วนช่วยพัฒนาหรือเพิ่มคุณภาพชีวิตตนเอง การเลือกเนื้อหากิจกรรมกลายเป็นตัวแปรหลักในการตัดสินใจการเดินทาง แทนจุดหมายปลายทางหรือเมืองต่างๆ จากประเทศทั่วโลก หลายโรงแรมและรีสอร์ตพยายามสร้างจุดเด่นเพื่อดึงดูดนักเดินทาง ตัวอย่างเช่น หลายคนอาจปักหมุดเดินทางไป Kamalaya Resort สมุย เพราะอยากร่วม Wellness Programs เพื่อบำบัดอาการต่างๆ ของตน หรือนักเดินทางอาจเลือกปักหมุดยังภูเก็ต พังงา บาหลี เพื่อเรียนเซิร์ฟโดยเฉพาะ 

 

 

ทีวีกำลังเข้ามาแทนที่ Instagram ในฐานะผู้มีอิทธิพลด้านการเดินทาง

Set Jetting หรือ Film Tourism ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ทว่าการแพร่ระบาดของโควิดทำให้เทรนด์นี้หวนกลับมาอีกครั้ง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้คนใช้วันหยุดไปกับการดูรายการในสตรีมมิงมากกว่าออกนอกบ้าน หลายจุดหมายปลายทางในละคร ภาพยนตร์ สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาอยากเดินทาง หรืออยากเป็นดั่งตัวเอก 

 

ข้อมูลล่าสุดจาก Netflix เผยว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำรายการ ละคร และภาพยนตร์ กลายเป็นสถานที่ชื่นชอบของนักเดินทาง เช่น ปารีส กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง มียอดจองที่พักในปี 2023 สูงกว่าช่วงแพร่ระบาดมากถึง 20% เป็นผลมาจากซีรีส์เรื่อง Emily in Paris (อ้างอิงจากรายงานของ Expedia) หรือหลายคนเลือกเดินทางไปนิวซีแลนด์อีกครั้งเพื่อสัมผัสประสบการณ์ของ Middle Earth จาก The Lord of the Rings: The Rings of Power 

 

 

นิยามใหม่ของ All-Inclusive ที่ได้คุณภาพมากกว่าเดิม

แพ็กเกจที่พักแบบ All-Inclusive ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักเดินทางระดับลักชัวรีเท่าไร เพราะพวกเขาเชื่อว่าคุณภาพของเครื่องดื่มและอาหารนั้นไม่ดีเท่ากับการจ่ายเอง ทว่าหลังการแพร่ระบาดโควิด พฤติกรรมของนักเดินทางเปลี่ยนไป พวกเขาพยายามหลีกหนีความวุ่นวายจากผู้คน และเลือกใช้ที่พักมากดาวมาปรนเปรอตัวเองในวันหยุด แทนที่จะออกไปเที่ยวด้านนอก 

 

ในปี 2023 เราจึงเห็นโรงแรมและรีสอร์ตหรูหันมาจัดแพ็กเกจแบบ All-Inclusive มากขึ้น และเป็น All-Inclusive แบบคุณภาพ ที่สร้างนิยามใหม่ให้แก่บริการ All-Inclusive ไม่ได้แค่เสิร์ฟแต่อาหารแบบบุปเฟต์ หรือบังคับทำกิจกรรมที่ไม่น่าสนใจ แต่อาหารที่รวมอยู่เหล่านั้นจะต้องเลือกสั่งได้ อร่อย และมีคุณภาพ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่มีให้ทำตลอดการเข้าพักจะเป็นกิจกรรมยอดนิยมหรือเอื้อต่อชุมชน แน่นอนว่าตอนนี้มีหลายที่พักเริ่มทำกันบ้างแล้ว เช่น The Gallivant ที่สหราชอาณาจักร, Les Maisons de Campagne ของฝรั่งเศส หรือ Ikos แห่งใหม่ในมายอร์กา

 

 

คุณภาพการนอนกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนตัดสินใจเลือกที่พัก

ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด การนอนเป็นแค่กิจวัตรประจำวันของการนักเดินทาง แต่ปัจจุบันปัญหาออฟฟิศซินโดรม ความวุ่นวาย ความเครียดของคนเมือง ส่งผลให้คนหลับนอนหลับยากขึ้น การนอนอย่างมีคุณภาพจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักเดินทางเลือกคำนึงก่อนตัดสินใจเลือกที่พักใดที่พักหนึ่ง เตียงนอนนอนดีไหม? มีเมนูหมอนให้เลือกสรรหรือเปล่า หรือถ้ารายใดเป็น Wellness Retreat ก็อาจดูลึกถึงว่ามีโปรแกรมบำบัดเพื่อการนอนหรือไม่ อย่างไรก็ดี Sleep Tourism เป็นเทรนด์ที่ก่อตัวอย่างเงียบๆ ในปีที่ผ่านมา มีหลายโรงแรมเริ่มโปรโมตนักเดินทางด้วยการนอน มีการผุด Sleep Concierge ขึ้นเพื่อดูแลเรื่องการนอนของแขกโดยเฉพาะ รวมถึงแบรนด์เครื่องนอนชื่อดัง Hästens ของสวีเดน ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดโรงแรมเพื่อนอนหลับเป็นของตนเองในชื่อ Hästens Sleep Spa Hotel ทางตอนกลางของโปรตุเกส 

 

 

การท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกซึมลึกสู่วิถีนักเดินทางอย่างเป็นธรรมชาติ

ภาวะโลกรวนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่คนทั่วโลกต่างตระหนักและจำต้องช่วยกันพยุง ก่อนที่โลกของเราจะก้าวข้ามเข้าสู่จุดที่ไม่สามารถหวนกลับได้ เมื่อธรรมชาติเปลี่ยน พฤติกรรมเราต้องเปลี่ยนตาม ในปีนี้มาตรฐานความยั่งยืนและดูแลสิ่งแวดล้อมจะเป็นนโยบายหลักที่คนในวงการท่องเที่ยวใส่ใจและคำนึงเป็นสิ่งแรก รีสอร์ตและโรงแรมใหญ่ล้วนเลิกใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกอื่นๆ ด้วย นักเดินทางไม่ว่าจะเป็นสายบุกป่าฝ่าดง หรือนอนเอื่อยในโรงแรม ต่างหันมาสนับสนุนโรงแรมและผู้ประกอบการที่คำนึงถึงความยั่งยืนเป็นอันดับแรก ฉะนั้นใครไม่ปรับเปลี่ยนอาจกลายเป็นตัวเลือกรั้งท้ายสำหรับนักเดินทาง 

 

และไม่ใช่แค่โรงแรมที่พักเท่านั้น แต่พฤติกรรมสนับสนุนความยั่งยืนยังส่งให้ผลนักเดินทางเลือกเดินทางแบบไฮบริด คือ การเดินทางหลายรูปแบบในหนึ่งทริป เช่น ใช้เครื่องบินเดินทางข้ามพรมแดนในเส้นทางระยะไกล และเลือกนั่งรถไฟ รถบัส หรือเรือ แทนการนั่งเครื่องบินในเส้นทางระยะสั้น หรือเลือกเที่ยวแบบโรดทริปหลังจากนั่งเครื่องบินมาแล้วหนึ่งต่อ

 

 

ที่พักแบบบูติก ยูนีก และมีดีไซน์ จะได้รับความนิยมมากกว่าโรงแรมใหญ่

โควิดทำให้นักเดินทางสนใจโรงแรมใหญ่ด้วยเหตุผลเรื่องมาตรฐานความสะอาด และการเผชิญโรคระบาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้พวกเขาพบว่าประสบการณ์เดินทางแปลกใหม่ก็สำคัญต่อการใช้ชีวิต นั่นทำให้ที่พักแบบ Boutique Hotel หรือ Airbnb อย่างเช่น ปราสาทเก่า กระโจมกลางป่า บ้านต้นไม้ หรือที่พักอื่นๆ ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ ได้รับความนิยมมากขึ้นในปีนี้ โรงแรมใหญ่ยังคงได้รับความนิยมเช่นเคย แต่ผู้คนจะหันเหไปสรรหาความแปลกใหม่เพื่อประสบการณ์ชีวิตมากกว่า

 

 

Work from Roam คือนิยามใหม่ของ Work from Home

แม้จะเป็นเทรนด์ที่เราไม่ชอบเท่าไรนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกหลังโควิดนั้นหมุนมาทางนี้จริงๆ การแพร่ระบาดใหญ่ทำให้คนทั่วโลกหันมาปรับพฤติกรรมการทำงานแบบ Work from Home คือไม่จำเป็นต้องมาทำงานยังที่ทำงาน แต่อยู่บ้านก็สามารถทำงานได้ พอพรมแดน การทำงานแบบ WFH ยังคงอยู่ หากแต่ปรับเปลี่ยนเป็น Work from Roam อย่างไรน่ะเหรอ ในเมื่อจะทำงานที่บ้าน หรือคาเฟ่ ก็สามารถทำงานแบบ Remote Working ได้เหมือนกัน ผู้คนจึงตัดสินใจเดินทางพร้อมกับทำงานในวันปกติไปด้วย อารมณ์วันนี้บ้านของฉันอยู่ที่โรงแรมหนึ่งในลอนดอน แต่อีกวันบ้านก็อยู่ในฝรั่งเศส เมื่อโลกหมุนมาทางนี้ นักเดินทางจึงมองหาที่พักที่เหมาะสมกับการทำงาน เช่น มีห้องกว้าง มีปลั๊กเยอะ อินเทอร์เน็ตแรง หรือมี Co-working Space อยู่ใกล้ๆ เป็นต้น

 

ภาพ: Shutterstock, Netflix, Airbnb, Hästens

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X