เศรษฐกิจสิงคโปร์มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวในไตรมาส 2 จากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของสิงคโปร์
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์อยู่ในทิศทางการขยายตัวช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจหดตัว 0.6% จากพิษวิกฤตการเงินทั่วโลก
รัฐบาลได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2019 ลงเหลือ 0-1% จากระดับ 1.5-2.5% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอลงในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ขณะที่ GDP ไตรมาส 2 หดตัวลง 3.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอเป็นผลพวงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เนื่องจากสิงคโปร์พึ่งพาการส่งออกอย่างมาก ขณะที่จีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ และกำลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่อาจฉุดเศรษฐกิจขยายตัวช้าสุดในรอบ 27 ปี
รัฐบาลสิงคโปร์คาดว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะเผชิญกับคลื่นลมมรสุมตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ เซียน เฟนเนอร์ นักเศรษฐศาสตร์แห่ง Oxford Economics วิเคราะห์ว่า ด้วยแนวโน้มที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ คาดว่าการส่งออกและการบริการที่เกี่ยวกับการค้าจะชะลอตัวลงและฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในไตรมาสที่ 3
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: