โตโยต้า มอเตอร์ส (Toyota) ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะปรับขึ้นเงินเดือนพนักงาน โดยถือเป็นการปรับขึ้นค่าแรงครั้งใหญ่ที่สุดของ Toyota ในรอบ 20 ปี ซึ่งการปรับขึ้นเงินเดือนดังกล่าวครอบคลุมถึงค่าแรงขั้นต่ำและโบนัสของพนักงาน Toyota ด้วย
รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการผลักดันการเพิ่มค่าแรงของญี่ปุ่น หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต้องการหลักฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของค่าแรงกับเงินเฟ้อที่อาจนำไปใช้สู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายได้
แถลงการณ์ของ Toyota ระบุว่า ได้ตกลงกับสหภาพแรงงานที่จะเพิ่มค่าตอบแทน ซึ่งรวมถึงค่าแรงพื้นฐานและโบนัสในการเจรจารอบแรก โดยกำหนดเส้นตายของการสรุปผลการเจรจานี้ไว้ไม่เกินเดือนมีนาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘นายกฯ-ผู้ว่าการแบงก์ชาติ’ ญี่ปุ่น เรียกร้องภาคเอกชนขึ้นค่าแรงพนักงานให้สูงกว่าเงินเฟ้อ จับตาผลเจรจาค่าจ้าง ตัวกำหนดนโยบาย BOJ
- เกิดอะไรขึ้นกับญี่ปุ่น เมื่อมนุษย์เงินเดือนค่าแรง ‘แทบไม่ขยับ’ มา 30 ปีแล้ว
- บริษัทแม่ของ Uniqlo ประกาศเพิ่มค่าจ้างของพนักงานในญี่ปุ่นขึ้น 40% ทำให้ผู้จบใหม่จะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 76,000 บาท
- เมื่อ ‘Uniqlo’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นเงินเดือน’ สร้างแรงกระเพื่อมให้ธุรกิจยกระดับค่าจ้าง เพื่อรักษาคนเก่งไม่ให้ลาออก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ Toyota ได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานทั้งหมด โดยแถลงการณ์ของ Toyota ระบุว่า โบนัสของบริษัทปี 2023 จะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน แต่ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างสำหรับพนักงานซึ่งระบุไว้ในหลายประเภท แต่ย้ำว่า เป็นปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี
ค่าแรงและผลตอบแทนคือตัวเลขสำคัญที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุอย่างชัดเจนว่า ต้องการเห็นการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจของประเทศจะมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้ขณะนี้แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะสูงกว่าเป้าหมาย 2% ที่ทาง BOJ กำหนดไว้ แต่ BOJ ก็ยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นมีเงินเดือนมาใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นคนปัจจุบัน กล่าวว่า การเติบโตของค่าจ้าง 3% เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับอัตราเงินเฟ้อให้คงที่ที่ 2%
อ้างอิง:
