×

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยส่งสัญญาณกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ‘โตชิบา ไทยแลนด์’ เล็งเปิดตัวสินค้าใหม่ 39 รายการ หวังโต 15% ในช่วงครึ่งปีหลัง

27.08.2023
  • LOADING...
โตชิบา ไทยแลนด์

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของไทยไม่รวมโทรทัศน์ มีอัตราการเติบโตประมาณ 14% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 การเพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากช่วงฤดูร้อนที่ยาวนานผิดปกติ ซึ่งทำให้ความต้องการเครื่องปรับอากาศพุ่งสูงขึ้นถึง 36% เครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มขึ้น 15% หม้อหุงข้าวเพิ่มขึ้น 6% แม้ว่าไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าจะมียอดขายลดลงก็ตาม

 

ท่ามกลางแนวโน้มของตลาดนี้ ‘โตชิบา ไทยแลนด์’ รายงานว่ามีอัตราการเติบโต 15% ไม่รวมยอดขายเครื่องปรับอากาศ โดยโตขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า ได้แก่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ และหม้อหุงข้าว เมื่อเทียบกับปี 2565 ในสินค้าทุกกลุ่มนี้แบรนด์โตชิบาติดอันดับท็อป 3 ทั้งหมด

 

“ในปีนี้ เครื่องซักผ้าและไมโครเวฟของเราไต่ลำดับขึ้นมาได้ดีมาก จนไมโครเวฟของเรากลายเป็นแบรนด์ที่มีมาร์เก็ตแชร์เป็นที่ 1 ของตลาด” อเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าว พร้อมเสริมว่า การเติบโตมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ไป 31 รุ่น ทั้งเป็นรุ่นที่ทดแทนรุ่นเดิม และขยายกลุ่มสินค้าใหม่ โดยเน้นการเจาะสินค้ากลุ่มพรีเมียมมากขึ้น 

 

สำหรับครึ่งปีหลังโตชิบาประเมินว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้น เห็นได้ชัดว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยและเดินทางท่องเที่ยวเยอะขึ้น ทำให้อัตราการบริโภคสูงขึ้น รวมไปถึงภาคอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่เริ่มขยายตลาดอย่างจริงจัง ส่งผลให้อัตราการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น

 

ภาพรวมที่เริ่มสดใสทำให้โตชิบาตั้งเป้าเติบโต 15% ซึ่งหัวหอกที่จะทำให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้มาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 39 รายการ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ ดีไซน์ รวมไปถึงราคา แบ่งเป็นตู้เย็น 21 รุ่น เครื่องซักผ้า 4 รุ่น หมวดเครื่องครัว 6 รุ่น และเครื่องใช้ในบ้านอีก 8 รุ่น

 

ตลอดจนขยายช่องทางการขายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเพิ่มจำนวนไลน์อัพสินค้าเข้าร้านค้าอีก 10% โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า Mid to High สำหรับแคมเปญใหญ่ของวงการอีคอมเมิร์ซในช่วง 11.11 และ 12.12 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 30% โดยทุ่มงบเพิ่ม 20% สำหรับกระตุ้นการขายและเตรียมพร้อมสำหรับเพิ่มไลน์สินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่มีขายเฉพาะในช่องทางออนไลน์เท่านั้น เพื่อไม่ให้แย่งตลาดกับช่องทางอื่น

 

ส่วนสุดท้ายคือการทำตลาดทั้งการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เกิดการรับรู้และความเชื่อมั่นทั้งในลูกค้าที่เป็นฐานเดิมของโตชิบา รวมไปถึงฐานลูกค้าใหม่ที่เป็นกลุ่ม Young Gen 

 

“แม้สถานการณ์ในปี 2566 จะดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่บริษัทฯ ไม่เคยประมาท โดยจัดทำการรีวิวแผนในทุกไตรมาส เพื่อพร้อมรับสำหรับการเปลี่ยนแปลง โตชิบาโชคดีที่มีฐานการผลิตป้อนสินค้าให้ทั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการประชุมกับทีมการตลาด ทีมขาย และทีมบริการทุกเดือน เพื่อหาแนวทางในการทำงานที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิดยอดขายที่มากขึ้น รวมไปถึงงานบริการที่ดีขึ้น” แม่ทัพโตชิบา ไทยแลนด์ กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising