การลงทุนในมุมของคนทำธุรกิจอาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เรื่องของการวางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างกำไรอย่างเดียว ยิ่งธุรกิจที่มีเรื่องของสิ่งปลูกสร้างเป็นหนึ่งในต้นทุนด้วยแล้ว รายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องพิจารณายิ่งเยอะตาม เพื่อให้การลงทุนในระยะยาวคุ้มค่าที่สุด 

THE STANDARD คงไม่ชวนคุยลงลึกไปถึงกลยุทธ์แผนการตลาดของโครงการระดับ World Class แต่จะชวนมองดีเทลเล็กๆ ที่คนนอกอย่างเราๆ ไม่เคยสังเกต ทว่า สำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่ ‘อาคาร’ คือภาพลักษณ์ กลับมอง ‘สีทาอาคาร’ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ระดับ World Class ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี อาคารก็ยังดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ

เรากำลังพูดถึงโครงการระดับ World Class ในไทยกว่า 80% ที่ให้ความใส่ใจกับ ‘อาคาร’ ไม่ใช่ในแง่ของการออกแบบโครงสร้าง แต่คือรายละเอียดของ ‘สีทาอาคาร’ เช่น ศูนย์การค้าสยามพารากอน, อาคารสาทร, ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่, ตึกใบหยก, โรงแรมฮิลตัน หัวหิน, โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์, โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต และอีกมากมาย เพราะโครงสร้างอาคารที่ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ที่ดีและทิศทางในการดำเนินธุรกิจของผู้บริหารในการเลือกใช้ของที่มีคุณภาพเท่านั้น 

สินค้าคุณภาพดีระดับโลก ลงทุนเท่าไรก็คุ้มทุน
หากพูดถึงสีทาอาคารภายนอกในไทย บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคารและผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นแบบครบวงจรเบอร์หนึ่งของประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 48.7% ไม่แปลกใจที่โครงการระดับ World Class ในไทยให้ความไว้วางใจ 

ยิ่งโครงการขนาดใหญ่ สีทาอาคารคือต้นทุนที่ต้องจ่ายในจำนวนมหาศาล การเลือกสีทาอาคารคุณภาพดีระดับโลกอย่าง TOA SuperShield สีน้ำอะคริลิกแท้ 100% เกรดอัลตร้าพรีเมียม ผลิตจากอะคริลิกเกรดพิเศษ ให้การยึดเกาะพื้นผิวดีเยี่ยม ป้องกันสีลอกเป็นฝุ่นผง ป้องกันการกัดกร่อนจากมลภาวะเป็นพิษ ทนทานต่อการขัดถู ป้องกันคราบด่างและเกลือ ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ มาพร้อมนวัตกรรมแห่งอนาคต ‘Ti-Pure’ Titanium Triple Protection ด้วยโมเลกุลนาโนไทเทเนียมชนิดพิเศษที่ผ่านการเคลือบเสริมความแข็งแกร่งถึง 3 ชั้น ให้ฟิล์มสีแกร่งเสมือนเกราะปกป้องบ้านจากทุกสภาวะ ทนทานมากกว่าสีเกรดสูงทั่วไป 3 เท่า 

และเทคโนโลยี Self Cleaning ทำให้อาคารเหมือนใหม่อยู่เสมอ สีติดทนไม่ลอกล่อน ทนทานนานกว่า 15 ปี แม้ต้องเจอกับสภาวะอากาศที่แปรปรวน ทั้งลม ฝน พายุ แสงแดด ไอทะเล และน้ำทะเลที่มีความชื้นเค็มสูง จนทำให้โครงการชั้นนำชายทะเลส่วนใหญ่กว่า 80% ทั้งพัทยา ระยอง หัวหิน ชะอำ สมุย ภูเก็ต มั่นใจเลือกใช้สี SuperShield ด้วยบทพิสูจน์กว่า 40 ปี เช่น โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต, โรงแรม Ocean Marina Yacht Club Pattaya, โรงแรมอนันตรา หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ หรือแม้กระทั่งในภาวะที่น้ำท่วมขังนานกว่า 2 เดือน ฟิล์มสีก็ไม่ลอกล่อน เพียงแค่ขัดทำความสะอาดคราบสกปรกออก สีก็สวยงามเหมือนเดิม ช่วยลดต้นทุนในการรีโนเวตอาคารใหม่ไปได้เยอะ เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง 

No.1 Can Do ผู้นำตัวจริงที่ไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมพร้อมก้าวสู่ตลาด AEC  

การจะเป็น No.1 Can Do จนสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับโครงการชั้นนำระดับประเทศได้ การรักษาคุณภาพและมาตรฐานเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกสู่ตลาด TOA ในฐานะแบรนด์สีของคนไทยที่มีอายุยาวนาน 46 ปี ไม่หยุดนิ่งที่จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเสมอ และยังคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ ตั้งแต่ปี 2520 TOA ยกเลิกใช้สารตะกั่ว ปรอท และโลหะหนักในสีทาบ้านเป็นรายแรกในประเทศไทย 

ปี 2522 ปฏิวัติวงการตลาดสีน้ำพลาสติก (Latex PVAc Copolymer) โดยการนำนวัตกรรมสีน้ำอะคริลิกจากอเมริกา (100% Pure Acrylic Technology) มาใช้เป็นรายแรก ภายใต้แบรนด์สี ‘SuperShield’ สีเกรดซูเปอร์พรีเมียม เกรดคุณภาพสูงสุด เช็ดล้างทำความสะอาดตัวเองได้  (Self-Cleaning Technology) ทนทานนาน 15 ปี 

และปีนี้ TOA ตอกย้ำความเป็น No.1 ประกาศเดินหน้าสู่ AEC ขยายโรงงานผลิตสีภายในปี 2019 ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย (สร้างเสร็จแล้ว) ประเทศพม่า (อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง) และประเทศกัมพูชา (อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง) พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดผู้ใช้สีปกป้องพื้นผิวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ไม่ใช่ ‘สีทาอาคาร’ คุณภาพดีระดับโลกแบรนด์ไหนก็ได้ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับโครงการชั้นนำ แต่ต้องเป็นแบรนด์ No.1 Can Do ที่ไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมเพื่อผู้บริโภค