×

TMB แจ้งผลประกอบการปี 62 กำไรสุทธิลดลง 37.74%

20.01.2020
  • LOADING...

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า ปี 2562 ที่ผ่านมา มีความท้าทายหลายด้านทั้งภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในธนาคาร ซึ่งทาง TMB มีโครงการรวมกิจการ ซึ่งหลังจากขั้นตอนการซื้อหุ้นธนาคารธนชาต เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562  

 

ในงบการเงินรวมของ TMB จะรวมผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาตในฐานะบริษัทย่อยเข้ามา โดยด้านงบดุลจะรวมผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาต ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ขณะที่งบกำไรขาดทุนนั้น จะรวมผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาต เฉพาะช่วงวันที่ 4-31 ธันวาคม 2562 

ทั้งนี้ ผลประกอบการสำคัญ ณ สิ้นปี 2562 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2561 ได้แก่

  • รายได้จากการดำเนินงานรอบ 12 เดือน ปี 2562 ตามงบการเงินอยู่ที่ 39,821 ล้านบาท ลดลง 17.11% จากปี 2561 ที่อยู่ระดับ 48,042 ล้านบาท ปรับลดลงจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยปี 2561 มีรายได้พิเศษจากการขายหุ้น TMBAM 65% จำนวน 12,000 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษดังกล่าวออกไป รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในปี 2562 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 11%

ด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 26,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 มาจากรายได้จากเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น และการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยการให้เช่าซื้อ และสัญญาเช่าการเงินจากธนาคารธนชาต ทั้งนี้รายได้จากการดำเนินงานในปี 2562 ปรับตัวดีขึ้น 10% โดยประมาณ

  • กำไรสุทธิปี 2562 อยู่ที่ 7,222 ล้านบาท ลดลง 37.74% จากปี 2561
  • สัดส่วนหนี้เสีย (NPL) อยู่ที่ 2.30% โดยมีอัตราส่วนสำรองฯ ต่อหนี้เสียยังคงอยู่ที่ 120% โดยทั้งปี 2562 TMB มีการตั้งสำรองฯ รวม 10,337 ล้านบาท 
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (งบการเงินรวม) อยู่ที่ 20,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3% จากปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายของธนาคารธนชาต และปี 2562 มีค่าใช้จ่าย one-time หลายรายการ เช่น ค่าใช้จ่าย Employee Retirement Benefit ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับแก้ไขใหม่ ค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาโครงการรวมกิจการ (Advisory Fee) เป็นต้น
  • สินทรัพย์ตามงบการเงินรวมอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2561 ที่อยู่ระดับ 0.9 ล้านล้านบาท 
  • ด้านเงินฝากเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 0.6 ล้านล้านบาท
  • ด้านสินเชื่อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 0.7 ล้านล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของธนาคารธนชาต และสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับรายย่อยของ TMB)

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนการทำธุรกรรมการขายหุ้น บลจ.ธนชาต หรือ TFUND ทาง TMB จะรับรู้รายการขายดังกล่าวจากธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทลูก แต่ TMB จะไม่มีการบันทึกกำไรจากรายการนี้ เนื่องจากในการรวมกิจการ TMB ดำเนินการบันทึกและรับรู้มูลค่าของ TFUND เข้ามาด้วย Fair Value แล้ว ดังนั้น การที่ธนาคารธนชาตขายหุ้น TFUND ออกไป 25.1% ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4 นั้น จึงไม่มีการบันทึกกำไร โดยสำหรับ TFUND ส่วนที่เหลือ 49.9% ที่ธนาคารธนชาตถืออยู่ TMB จะรับรู้รายได้เข้ามาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (Profit Sharing from Associate Company)

 

“สำหรับปี 2563 นี้ ผู้บริหารชุดใหม่ที่เป็นการประสานความร่วมมือระหว่างผู้บริหารจากทั้งสองธนาคาร พร้อมเดินหน้าสานพันธกิจการรวมกิจการ เพิ่มศักยภาพของธนาคารในการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 10 ล้านราย และในส่วนของเป้าหมายทางการเงินปี 2563 นี้ อยู่ระหว่างการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในปลายสัปดาห์นี้” ปิติ กล่าว

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising