×

TISCO – กำไรตามคาด แต่แนวโน้มอ่อนแอลง; ปรับคำแนะนำลง

17.01.2024
  • LOADING...
TISCO

เกิดอะไรขึ้น:

 

บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 จำนวน 1.78 พันล้านบาท (ลดลง 5%QoQ และ 1%YoY) ต่ำกว่าที่คาด 5% ในขณะที่กำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มขึ้น 1% ผลประกอบการโดยรวมค่อนข้างใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ โดยสรุปได้ดังนี้

 

  1. คุณภาพสินทรัพย์: NPL อยู่ในระดับทรงตัว QoQ โดย NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ถูกชดเชยโดยการตัดจำหน่าย NPL ของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจำนวนมาก สินเชื่อชั้นที่ 2 ลดลง 10%QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการผ่อนคลายสมมติฐานการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิต (SICR) แม้ Credit Cost จะเพิ่มขึ้น 22 bps QoQ สู่ 0.48% แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ LLR Coverage ลดลงจาก 206% ณ 3Q66 สู่ 190% ณ 4Q66

 

  1. การเติบโตของสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1%QoQ และ 7%YoY โดยเกิดจากสินเชื่อธุรกิจ (เพิ่มขึ้น 2%QoQ และ 33%YoY) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ (เพิ่มขึ้น 3%QoQ และ 15%YoY) และสินเชื่อ SMEs (เพิ่มขึ้น 9%QoQ แต่ลดลง 5%YoY) ในขณะที่พบการหดตัวในสินเชื่อเช่าซื้อ (ลดลง 1%QoQ และ 3%YoY) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (ลดลง 9%QoQ และ 17%YoY) 

 

  1. NIM ลดลง 8 bps QoQ (ลดลง 1 bps YoY) ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 11 bps QoQ (เพิ่มขึ้น 82 bps YoY) ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 22 bps QoQ (เพิ่มขึ้น 102 bps YoY)

 

  1. Non-NII เพิ่มขึ้น 2%QoQ (ลดลง 17%YoY) โดยเกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล (เพิ่มขึ้น 4%QoQ, ลดลง 9%YoY) ขณะที่มีขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินเล็กน้อย

 

อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง 13 bps QoQ, เพิ่มขึ้น 217 bps YoY (จากการขยายสาขา ‘สมหวัง เงินสั่งได้’ และค่าใช้จ่ายการตลาด) สู่ 48.43% 

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น TISCO ปรับขึ้น 2.55% สู่ระดับ 100.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 1.15% สู่ระดับ 1,407.02 จุด 

 

แนวโน้มกำไรปี 2567:

 

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 7% เพื่อสะท้อนเป้าหมายของ TISCO ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 5% โดยมีรายการที่สำคัญดังต่อไปนี้

 

  1. Credit Cost เพิ่มขึ้น: LLR Coverage ที่ลดลง และ NPL ที่สูงขึ้น ทำให้คาดว่า Credit Cost จะเพิ่มขึ้นจาก 0.27% ในปี 2566 สู่ 0.6% ในปี 2567 0.8% ในปี 2568 และ 1% (ระดับปกติ) ในปี 2569 TISCO คาดว่าราคารถมือสองจะลดลงเป็นเวลานาน ซึ่งจะส่งผลทำให้ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้ (LGD) ปรับตัวเพิ่มขึ้น บริษัทคาดว่าอัตราส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นอีกสู่ 2.5-2.75% ในปี 2567

 

  1. การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัว: ปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ลดลงจาก 8% สู่ 4% ชะลอตัวลงจาก 7% ในปี 2566 TISCO คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจจะชะลอตัวลง และจะใช้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตของสินเชื่อ โดยจะเติบโตที่ ~15% ได้อย่างต่อเนื่อง

 

  1. NIM ลดลง: คาดว่า NIM จะลดลง 12 bps ในปี 2567 โดยมีสาเหตุมาจากการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

 

  1. รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น: คาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้น 4% จากธุรกิจ Bancassurance ซึ่งเป็นผลมาจากการผนึกกำลังครั้งใหม่กับ Generali Life Assurance

 

  1. อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้สูง: คาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะยังอยู่ในระดับสูงที่ 49% จากการขยายสาขาสมหวัง เงินสั่งได้ เพิ่มอีก 200 สาขา (เทียบกับเพิ่มขึ้น 195 สาขาในปี 2566)

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนปรับลดคำแนะนำสำหรับ TISCO ลงสู่ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 108 บาท สู่ 103 บาทต่อหุ้น (PBV ปี 2567 ที่ 1.9 เท่า) และเชื่อว่าราคาหุ้น TISCO สะท้อนผลตอบแทนจากเงินปันผลที่คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ดีไปค่อนข้างมากแล้ว (5.7% สำหรับ 2H66 และ 7.7% สำหรับปี 2567)

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และตลาดทุนผันผวน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising