วันนี้ (13 สิงหาคม) ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความเห็นของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวขอบคุณที่ผู้จัดการชุมนุมคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เข้าร่วม เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศยกเลิกการชุมนุมเมื่อวานนี้ โดยให้เหตุผลว่าอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาก่อความไม่สงบ และหากกลุ่มนักศึกษาต้องการแสดงความคิดเห็นภายใต้กรอบกฎหมายก็สามารถติดต่อมายังคณะกรรมาธิการได้ ซึ่งปัจจุบันทางคณะกรรมาธิการได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และพร้อมรับฟังเสียงเรียกร้องของนักศึกษา
“ในคณะกรรมาธิการเป็นคนรุ่นใหม่ เราอยากเห็นการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง รับฟังข้อเรียกร้องที่เป็นประโยชน์และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายเข้าสู่กระบวนการ เพียงแต่อย่าละเมิดสิทธิผู้อื่นหรือก้าวล่วงในเรื่องที่ละเอียดอ่อนอันเป็นการสร้างเงื่อนไขและกลายเป็นชนวนขัดแย้งแตกแยก จนทำให้ไทยที่กำลังได้เปรียบเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 ได้ไวกว่าประเทศอื่นต้องสะดุดถอยหลังลง ซึ่งก็พูดกันบ่อยๆ มิใช่หรือว่าอยากให้ไทยเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในอาเซียน และนี่คือโอกาสของเรา” ทิพานันกล่าว
ทิพานันกล่าวต่อไปว่าเท่าที่ตนสังเกตการณ์การชุมนุม มีเพียงแกนนำบางคนที่ไม่ได้เป็นนักศึกษาเท่านั้นที่ฉวยโอกาสเวทีปราศรัยสุ่มเสี่ยงเหมือนจงใจชงกระแสให้กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าหรือไม่ เพราะสอดคล้องกับแนวทางและข้อความต่างๆ ที่ปิยบุตรเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการปฏิวัติ การล่มสลายของสถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศ รวมถึงขณะนี้ก็ได้มี ‘ภาพถ่าย’ การประชุมระหว่างปิยบุตรและแกนนำนักศึกษาที่แชร์ต่อกันทางสื่อโซเชียลมีเดีย จนมีประชาชนสงสัยและตั้งคำถามว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังหรือแทรกแซงม็อบนักศึกษาจริงหรือ ถ้าอยู่เบื้องหลังจริงก็น่าอับอายที่คนเคยเป็นอาจารย์จะหลบอยู่ใต้เวทีนักศึกษา
“สำหรับ พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เคยออกมาขอโทษกรณีโพสต์รูปหมิ่นเหม่ ก้าวล่วง จากคดีความที่ถูกสังคมวิจารณ์ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่บังควร และพูดว่าขอให้วิญญูชนไม่สนเรื่องในอดีต ให้ตัดสินใจกันในเรื่องของปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันก็ได้ออกมาประสานเสียงสนับสนุนข้อเรียกร้อง 10 ข้อนี้ทันที โดยรีบโหนกระแสเต็มตัว สังคมจึงสามารถตัดสินได้ว่ามีเจตนาก้าวล่วงได้แล้วใช่หรือไม่ และที่เคยพูดว่าไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองใดมีค่าพอที่เราจะตายเพื่อมัน ดังนั้นจึงเป็นเหตุทำให้พรรณิการ์และพวกทำตัวอยู่เบื้องหลัง ผลักน้องๆ นักศึกษาไปเป็นด่านหน้ากำบังใช่หรือไม่ ไม่ละอายต่อบาปบ้างหรือ” ทิพานันกล่าว
“นอกจากนี้ขอให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ออกมาสนับสนุนข้อเรียกร้อง 10 ข้อดังกล่าว ระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการกระทำส่วนตัวหรือเป็นมติพรรค และขอแนะนำพรรคก้าวไกลศึกษาข้อกฎหมายให้ถ่องแท้ว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 2 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 45, 92 และอยู่ในขอบเขตการกระทำของพรรคการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. สมาชิกพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพิธาควรทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในกรณีที่พรรคถูกยุบ และกรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดด้วยหากมีผู้ร้องเรียนการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายข้างต้น” ทิพานันกล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
