จากที่เคยเติบโตดีมาตลอด แต่ที่สุดแล้วในไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2022 เจ้าพ่อ Apple ก็พลาดเป้าจากยอดขายที่นักวิเคราะห์คาดหวังไว้ในรอบ 7 ปี แถมยังมียอดขายต่ำกว่าปีก่อนหน้าถึง 5% ซึ่งเป็นยอดขายที่ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019
ทิม คุก ผู้เป็นแม่ทัพของ Apple กล่าวว่า 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมคือ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ปัญหาการผลิตในจีนที่ส่งผลกระทบต่อ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max และสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคโดยรวม ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกอ่อนแอลง
“ในปัจจัยที่สาม ผมจะบอกว่าเป็นเพียงสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย และทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องนี้จากผม” คุกกล่าวกับ CNBC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ขายฝันให้นักลงทุน? เมื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เรียกปี 2023 ว่า ‘ปีแห่งประสิทธิภาพ’ เน้นลดค่าใช้จ่าย นำ AI มาช่วย แม้ยังขาดทุนจาก Metaverse กว่า 4.5 แสนล้านบาท
- ‘อินเดีย’ กำลังเบียด ‘จีน’ ตกกระป๋อง เมื่อ Apple ต้องการผลักดันให้มีสัดส่วนการผลิตสินค้ามากถึง 25%
- ยักษ์กำลังจะถูกล้ม? นักวิเคราะห์มอง Apple และ Google เสี่ยงถูก ‘Disrupt’ ที่สุดในรอบทศวรรษ
เมื่อมองเข้าไปในผลประกอบการของ Apple สามารถแบ่งออกมาได้ดังนี้
- รายได้รวม: 1.17 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 5.49% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- ยอดขาย iPhone: 6.578 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 8.17% เมื่อเทียบปีต่อปี
- ยอดขาย Mac: 7.74 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 28.66% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- ยอดขาย iPad: 9.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29.66% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- รายได้จากผลิตภัณฑ์อื่นๆ: 1.348 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- รายรับจากธุรกิจบริการ: 2.077 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ผลงานที่พลาดเป้าและเป็นครั้งแรกที่ Apple พลาดการคาดการณ์ยอดขายช่วงปลายปีของนักวิเคราะห์ตั้งแต่ปี 2015 ทำให้รายงานของ Bloomberg ระบุว่า หุ้นร่วงลงกว่า 5.6% หลังเผยแพร่ผลประกอบการ
ที่สำคัญนี่ยังแสดงถึงการถดถอยจากความสำเร็จของ Apple ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งได้แรงหนุนจากความต้องการคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อใช้ทำงานและเรียนออนไลน์จากที่บ้าน
“โลกยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อไปจนถึงสงครามในยุโรปตะวันออก ไปจนถึงผลกระทบที่ยาวนานของการแพร่ระบาด และเราต่างทราบดีว่า Apple ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อมัน” คุกกล่าวในระหว่างการพูดคุยกับนักวิเคราะห์ “แต่ไม่ว่าเราจะเผชิญกับสภาวะใด แนวทางของเราก็ยังเหมือนเดิมเสมอ เรามีความรอบคอบและตั้งใจ”
คุกยอมรับว่า สภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทายส่งผลกระทบต่อยอดขาย iPhone, ยอดขาย Mac และยอดขายอุปกรณ์สวมใส่ เช่น Apple Watch ยอดขาย iPhone และ Mac ลดลงทุกปี หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ซึ่งรวมถึงหูฟัง เช่น AirPods และอุปกรณ์สวมใส่ เช่น Apple Watch ลดลงกว่า 8%
สำหรับยอดขาย Mac ลดลงเนื่องจากเป็นการยากที่จะเปรียบเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่ง Apple เปิดตัวแล็ปท็อป MacBook Pro ระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ แต่ไม่มีการเปิดตัวที่คล้ายกันในช่วงไตรมาสเดือนธันวาคมของปีนี้
ท่ามกลางความผิดหวังยังมีแสงสว่างเล็กๆ อยู่ นั่นคือ Apple เปิดเผยว่ามีอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ 2 พันล้านเครื่อง ซึ่งรวมถึง iPhone, Mac, Apple Watch และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มขึ้นจากอุปกรณ์ที่ใช้งาน 1.8 พันล้านเครื่องที่เปิดเผยเมื่อปีที่แล้วในเดือนมกราคม
ตัวเลขนี้มีความสำคัญต่อนักลงทุนเนื่องจากเป็นการสรุปการเข้าถึงทั่วโลกของ Apple ซึ่งเจ้าพ่อไอทีสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากลูกค้าเหล่านั้นผ่านบริการหรือผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมอื่นๆ
อย่างไรก็ตามคุกกล่าวว่า Apple กำลังลดต้นทุนและชะลอการจ้างงาน แต่ก็ไม่ได้ประกาศเลิกจ้างเหมือนบริษัทเทคโนโลยีคู่แข่งหลายๆ แห่ง
“เรายังตระหนักดีว่าสภาพแวดล้อมที่เราอยู่นั้นยากลำบาก ดังนั้นเราจึงลดต้นทุน เรากำลังลดการจ้างงาน เรารอบคอบมากและพิจารณาคนที่เราจ้าง” คุกกล่าว
Apple คาดว่ารายได้ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วจะยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อไตรมาสที่ผ่านมายังคงมีอยู่ ไม่ได้ลดน้อยลงไป
ภาพ: Kevin Mazur / Getty Images
อ้างอิง: