×

TikTok ขุมทรัพย์ใหม่ ‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ เดินหน้าลุยตลาดทุกเซ็กเมนต์ พร้อมใช้ดิจิทัลดึงลูกค้าใหม่ ย้ำไม่กังวลการทะลักของแบรนด์จีน

19.03.2024
  • LOADING...

หลังจากที่ปิดปี 2566 ด้วยการทำกำไรสูงสุดที่ 726 ล้านบาทนับตั้งแต่เปิดบริษัท บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM โดยตั้งเป้าว่าอีก 3 ปีจากนี้จะต้องโตต่อด้วยกลยุทธ์ INDEX NEXTPERIENCE & BEYOND + SUSTAINABLE FUTURE ที่เน้นการตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่ การนำเทคโนโลยีมาใช้ และความยั่งยืนให้มากขึ้น

 

สำหรับปีที่ผ่านมาทางบริษัทเห็นได้ชัดว่า พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคขยับไปอยู่ในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น โดยอัตราการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์นั้นพุ่งขึ้น 16.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ที่เปลี่ยนไป และแม้ว่าสัดส่วนของรายได้จากช่องทางดังกล่าวจะยังเป็นเพียงประมาณ 1 ใน 6 ของยอดรายได้จากการค้าปลีก แต่ ILM ก็มองว่า ออนไลน์เป็นประตูสำคัญที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้

 

ในปี 2566 TikTok กลายเป็นเมกะเทรนด์แห่งปี ทำให้ ILM เห็นโอกาสและตัดสินใจเพิ่ม TikTok Shop เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำตลาดและจำหน่ายสินค้า โดยข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ทางบริษัทจัดหาทีมงานไว้สำหรับ Live Streaming โดยเฉพาะ ส่งผลให้ Index Living Mall เป็นผู้ขายที่มียอดสูงสุดในหมวดสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของปี 2566 

 

“สิ่งที่เราเห็นคือ คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบการซื้อของด้วยการดูไลฟ์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และเมื่อผลตอบรับดีเราจึงจับทางได้ว่าเทรนด์ผู้บริโภคเป็นเช่นนี้ จนเราต้องสร้างทีมไลฟ์ขายของมาเพื่อตอบสนองความต้องการในตลาด อีกทั้งช่องทางออนไลน์ยังทำให้การเข้าถึงลูกค้าง่ายและทั่วถึงขึ้นมากก็การเปิดหน้าร้าน” กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

พูดถึงการขยายฐานลูกค้า คนรุ่นใหม่ก็เป็นกลุ่มที่ ILM มองว่าเป็นหนทางของการเติบโตในอนาคต ทางบริษัทจึงเน้นกลยุทธ์ที่สามารถการสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ด้วยการจับกระแสและตามให้ทันเทรนด์ที่คนรุ่นใหม่สนใจอยู่ ณ ช่วงเวลานั้นๆ เช่น การสร้างเวิร์กช็อป เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถทำคอนเทนต์และแบ่งปันไปสู่ชุมชนของพวกเขาได้ แต่ทั้งนี้ กลยุทธ์ก็จะต้องให้ความสำคัญดังกล่าวควบคู่การรักษาฐานลูกค้าเดิมด้วย

 

มากไปกว่านั้น บริษัทจะมีการให้โฟกัสกับไลน์สินค้าแบรนด์ Furinbox เพิ่มขึ้น เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เน้นความประหยัด ซึ่งมีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ในประเทศและเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสร้างยอดขายได้มาก รวมทั้งจะเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของ ILM ต่อไป

 

ในส่วนแผน 3 ปีของ ILM จุดโฟกัสคือ การขยายขอบเขตธุรกิจด้วยการเปิด Index Living Mall สาขาใหม่เฉลี่ย 1-2 สาขาต่อปี โดยหนึ่งในสาขาที่เตรียมเปิดไตรมาส 4 ปี 2567 นี้คือ ‘DecorScape’ ที่ทาง ILM ปักหมุดไว้ให้เป็น Lifestyle Mall แห่งใหม่ใจกลางทองหล่อสำหรับกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการหาเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านในระดับพรีเมียม ซึ่งงบลงทุนสำหรับโปรเจกต์นี้อยู่ร่วม 150 ล้านบาท ที่มีรูปแบบอาคาร 3 ชั้น บนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร

 

อีกทั้งในไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทก็กำลังขยาย Little Walk อีก 1-2 สาขา ได้แก่ สาขารัตนาธิเบศร์ กับงบ 550 ล้านบาท บนพื้นที่ 12 ไร่ ประกอบด้วย Index Living Mall ขนาด 6,340 ตารางเมตร และพื้นที่ร้านค้าเช่า 10,100 ตารางเมตร 

 

พร้อมทั้งแผนรีโนเวตสาขาเดิมใหม่ที่ Index Living Mall สาขาเชียงใหม่กับอุดรธานี และยังมี Index Living Mall สาขาสระบุรี ที่เป็นอาคารประหยัดพลังงานรายแรกของธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะเปิดบริการไตรมาส 1 ปี 2568 

 

ในฝั่งของต่างประเทศ ปัจจุบันขยายไปแล้ว 12 สาขา ใน 6 ประเทศ ได้แก่

 

– เวียดนาม 2 สาขา

– เมียนมา 4 สาขา

– สปป.ลาว 1 สาขา

– กัมพูชา 2 สาขา

– เนปาล 2 สาขา

– มัลดีฟส์ 1 สาขา

 

โดยปี 2567 เตรียมขยายเพิ่มอีก 4 สาขา ที่เวียดนาม 2 สาขา ณ เมืองโฮจิมินห์ และเมียนมา 1 สาขา ณ เมืองมัณฑะเลย์ อีกทั้งประเดิมการขยายตลาดไปยังอินเดียที่เมืองปุเณ 

 

“ปัจจัยที่ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่เราเข้าไป เพราะเศรษฐกิจยังมีศักยภาพในการเติบโตค่อนข้างมากอย่างที่เห็นที่ปีที่แล้ว และเราเชื่อว่าปีนี้ก็จะดีขึ้นอีก แต่อีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญคือ ตลาดเฟอร์นิเจอร์ของอินเดียเองก็ยังไม่ได้มีสภาพการแข่งขันที่สูงมาก” กฤษชนกกล่าวเสริม

 

ในเรื่องของการแข่งขัน โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นข่าวร้อนเรื่องการล้นทะลักของสินค้าจีนในไทย หรือแม้แต่การขยายสาขาของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ต่างประเทศ กฤษชนกให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก แต่ตนไม่ได้มองเหตุการณ์นี้เป็นภัยคุกคาม แต่กลับมองเป็นโอกาสที่ทำให้อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ต้องปรับตัวให้สามารถแข่งขันในตลาดได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising