คงไม่ต้องอธิบายว่า ‘Tia Lee’ คือใคร ทำไมเธอถึงกลายเป็นดาวเด่นที่กำลังเปล่งประกายไปทั่วโลก โดยเฉพาะปี 2023 เรียกว่าเป็นปีทองของเธอเลยก็ว่าได้ การคัมแบ็กของซูเปอร์สตาร์ชาวไต้หวัน ราชินี C-Pop และไอคอนิกแฟชั่นแห่งยุค ได้ตอกย้ำว่าจะไม่มีใครสามารถโค่นบัลลังก์ของราชินี Tia Lee ลงได้
เรื่องราวการเดินทางของเธอไม่ได้ถูกจับตาในฐานะศิลปิน C-Pop เท่านั้น แต่เธอยังถูกวางตำแหน่งให้เป็นแฟชั่นไอคอนระดับโลก ใครจะลืมภาพที่เธอปรากฏตัวในชุดเดรสและเสื้อคลุมกูตูร์ของ Julien Macdonald ในงาน Fall/Winter 2023 ได้ลง เธอเป็นเซเลบริตี้เพียงหนึ่งเดียวที่ Julien Macdonald เลือกให้สวมชุดของเขาก่อนจะนำเสนอเป็นครั้งแรกในงานแสดงคอลเล็กชัน Julien Macdonald Fall/Winter 2023 หรือแม้แต่เสื้อโค้ตหรูหราและแว่นกันแดดจากแบรนด์ Moncler Genius ที่เธอใส่เข้าร่วมงานแสดงคอลเล็กชัน Moncler Spring 2023 ที่ London Fashion Week
จะว่าไป Tia มีโอกาสพบปะพูดคุยกับดีไซเนอร์และดาราชั้นนำ เช่น David Koma, Richard Quinn, Justin Bieber, Alicia Keys, Swizz Beatz และ Pharrell Williams มาโดยตลอด การที่เธอได้ขึ้นปกนิตยสารระดับโลกในชุดจากแบรนด์แฟชั่นหรู เช่น Louis Vuitton, Saint Laurent, Gucci, Prada, Burberry และ Bottega Veneta รวมถึงแบรนด์แฟชั่นระดับภูมิภาค เช่น LEE Y.LEE Y, Shushu Tong และ RE/DONE จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรค้านสายตา
เริ่มจาก Vogue HK ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ตามมาด้วย Rollacoaster (UK) นับจากนั้นเป็นต้นมา ตลอดปี 2023 เธอขึ้นปกนิตยสารระดับโลกมากมายทั้ง TMRW (UK), Flaunt (US), Marie Claire HK, ICON Malaysia, ELLE Thailand, Harper’s BAZAAR Thailand และส่งท้ายปี 2023 กับนิตยสาร Grazia Middle East ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ตอกย้ำการเป็นแฟชั่นไอคอนที่มีอิทธิพลระดับโลกอย่างแท้จริง
GOODBYE PRINCESS ทุบสถิติยอดคนดูใน YouTube สูงถึง 174 ล้านวิว
อีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาของเธอคือ ปรากฏการณ์เพลง GOODBYE PRINCESS
Tia เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนักว่า เพลง GOODBYE PRINCESS เปรียบเสมือนตัวแทนและการเดินทางของเธอในช่วงเริ่มต้นอาชีพการทำงานสายนี้ เป็นการบอกลาต่อตัวตนเก่า และเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนที่มีบุคลิกแข็งแกร่งและกล้าหาญยิ่งขึ้น
จริงๆ แล้ว GOODBYE PRINCESS ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังไม่ปล่อยเพลงอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ กระแสที่กลายเป็น Talk of the Town บนโลกออนไลน์ถูกพุ่งความสนใจไปที่แคมเปญ Pre-Release ‘GOODBYE PRINCESS’ แอนิเมชันขนาดสั้น 6 ตอน ที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ Tia ในอุตสาหกรรมดนตรีและความบันเทิง เพียง 10 ชั่วโมงก็มียอดคนดูกว่า 11 ล้านครั้ง และสามารถคว้าสถิติใหม่ของวงการ C-Pop ด้วยยอดชมมากกว่า 100 ล้านวิวภายในหนึ่งเดือน จนถึงตอนนี้ GOODBYE PRINCESS ทุบสถิติยอดคนดูใน YouTube สูงถึง 174 ล้านวิวแล้ว
ซิงเกิล GOODBYE PRINCESS เป็นเพลง C-Pop เพลงแรกที่ได้ Swizz Beatz โปรดิวเซอร์ระดับพระกาฬ ผู้รังสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซให้กับศิลปินดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Madonna, Britney Spears, Beyoncé, Justin Bieber หรือ Jay-Z มาโปรดิวซ์ให้
ความสำเร็จของแคมเปญ #EmpowerHer
ความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของ ‘GOODBYE PRINCESS’ ยิ่งทำให้บัลลังก์ราชินี C-Pop ของเธอแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ไม่ใช่แค่ความสามารถที่ทำให้เธอกุมหัวใจคนทั่วโลก หากแต่เป็นแนวคิดของเธอที่มักจะสอดแทรกแนวคิดการ Empower และการส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้คน
Tia สนับสนุนการเสริมพลังของผู้หญิงตลอดอาชีพของเธอ เธอเคยบอกว่า เพลงและมิวสิกวิดีโอ GOODBYE PRINCESS อ้างอิงจากการเดินทางของเธอ และเธอก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องราวที่ทุกคนเชื่อมโยงได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักจะถูกตัดสินจากสังคม
“ฉันหวังว่า ‘GOODBYE PRINCESS’ จะปลุกเร้าจิตใจให้ผู้หญิงมองเห็นความแข็งแกร่งที่อยู่ข้างในตัวเอง และสนับสนุนกันให้ตระหนักถึงความเป็นจริงของตนเอง” และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอเปิดตัวแคมเปญ #EmpowerHer เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลกยอมรับตัวตนที่แท้จริงและเอาชนะความท้าทาย
แคมเปญ #EmpowerHer มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมแนวคิด ‘Female Empowers Female’ เธอจับมือกับองค์กรการกุศลที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงเป็นหลัก ได้แก่ Women in Music (สหรัฐอเมริกา), Beats by Girlz (ยุโรป แอฟริกา และอเมริกา), Teen’s Key (ฮ่องกง) และ Daughters Of Tomorrow (สิงคโปร์) ซึ่งระดมทุนได้มากถึง 3.8 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 480,000 ดอลลาร์สหรัฐ และกลายเป็นแคมเปญที่โดนใจผู้หญิงจำนวนมากทั่วโลก และได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อทั่วโลก
จับตาปรากฏการณ์แคมเปญ #EmpowerHer และความปังกว่าเดิมในปี 2024
ปี 2024 ราชินี C-Pop จะสานต่อแคมเปญ #EmpowerHer ด้วยผลงานเพลงและคอนเสิร์ตตลอดปี 2024 มีข่าวว่าเพลงที่จะเปิดตัวในปีนี้จะยึดธีมเพลงเร็วที่ให้จังหวะสนุกสนานจนต้องขยับตัวตาม และจะเป็นการร่วมคอลแลบทำเพลงกับเซเลบริตี้ท่านอื่นๆ
นอกจากเพลงและเอ็มวีที่ Tia กำลังเตรียมตัวอย่างหนักทั้งการร้องและการเต้น เธอยังเตรียมคอนเสิร์ตครั้งใหญ่เพื่อให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดและรู้จักตัวตนของเธอมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเธอจะยังคงทำงานร่วมกับองค์กรการกุศลและแคมเปญการกุศลที่
สนับสนุนการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2024
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากกับความสำเร็จตลอดปี 2023 และหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม พวกคุณจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของฉันมากยิ่งขึ้น” Tia กล่าว