กลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายอาร์เมเนียจำนวนมากทยอยอพยพออกจากภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคไปยังอาร์เมเนีย ภายหลังกองทัพอาเซอร์ไบจานเข้ายึดครองพื้นที่พิพาทตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
โดยนายกรัฐมนตรีนิโคล ปาชินเนียน ระบุว่า การอพยพมีขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวอันตรายจากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์กลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนีย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พิพาทนากอร์โน-คาราบัคกว่า 1.2 แสนคน และจนถึงขณะนี้มีกลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนียอพยพออกจากพื้นที่แล้วกว่า 6.5 พันคน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลอาเซอร์ไบจานยืนยันว่า ต้องการรวมกลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนียกลับคืนมาเป็น ‘พลเมืองที่เท่าเทียมกัน’
โดย อิลฮัม อาลิเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ให้คำมั่นว่าจะรับประกันสิทธิและความปลอดภัยของชาวอาร์เมเนียที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ แต่หลายฝ่ายยังแสดงความไม่เชื่อมั่น เนื่องจากความขัดแย้งและการสู้รบนองเลือดระหว่างอาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจานในพื้นที่นากอร์โน-คาราบัค ซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1980 ทวีความตึงเครียดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในพื้นที่พิพาทที่มีความขัดแย้งยืดเยื้อมากที่สุดของโลก
ขณะที่รัฐบาลอาเซอร์ไบจาน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ระบุว่า ชาวอาร์เมเนียซึ่งเป็นชาวคริสต์ สามารถอพยพออกจากพื้นที่นากอร์โน-คาราบัคได้หากต้องการ
ที่ผ่านมาภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน แต่พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นอยู่ภายใต้การครอบครองของกลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนียมานานกว่า 3 ทศวรรษ
อ้างอิง: