×

เลือกตั้ง 2566 : ธีระชัย ห่วงเงินดิจิทัล 1 หมื่นเพื่อไทย ยังมีข้อควรปรับปรุง เข้าข่ายผิดธรรมาภิบาล เสี่ยงข้อมูลบุคคลรั่วไหล

โดย THE STANDARD TEAM
18.04.2023
  • LOADING...
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล

วันนี้ (18 เมษายน) ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ แสดงความคิดเห็นกรณี ‘เงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำได้จริงหรือไม่’ ว่าเป็นนโยบายที่ไม่สามารถทำได้จริง เนื่องจากเห็นว่าเหรียญดิจิทัลเพื่อไทยที่จะส่งเข้าไปในกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นออกแบบให้สามารถใช้ชำระหนี้ระหว่างประชาชนด้วยกันได้ แต่ในเนื้อหาทางเศรษฐกิจและในข้อเท็จจริง เหรียญดิจิทัลเพื่อไทยมีสภาพเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งต้องเข้าบังคับภายใต้พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 

 

“ผมมีความเห็นว่า ถึงแม้กฎหมายกำหนดว่ายื่นขออนุญาตจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ก็ตาม แต่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้แก่เอกชน เพราะพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 บัญญัติให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นองค์กรเดียวที่มีอำนาจและหน้าที่ในการออกเงินตรา” ธีระชัยกล่าว

 

ธีระชัยกล่าวต่อไปว่า ในเชิงวิชาการจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ประกอบด้วย โครงการออกแบบให้มีการส่งเหรียญเข้าไปในระบบดิจิทัล โดยระบุว่า เป็นแนวคิดเหมือนกันกับการใช้คูปองจากรัฐบาล โดยมีการแจกคูปองให้กับประชาชนและประชาชนนำไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการ ลักษณะอย่างนี้จะเป็นการใช้รอบเดียว แต่แนวทางในการออกแบบของเหรียญดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยเป็นเหรียญที่สามารถนำมาใช้บนการชำระหนี้ระหว่างประชาชนด้วยกันได้ 

 

“ลักษณะของเหรียญเช่นนี้มิถือว่าเป็นการออกเงินตราอย่างหนึ่ง และเมื่อมีสภาพเป็นเงินตราก็จะเข้าบังคับพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคและเป็นประเด็นที่ควรจะต้องมีการปรึกษาเพื่อจะหาทางออกให้เรียบร้อยก่อน เพราะในแง่ของกฎหมายระบุเอาไว้ว่า กรณีการออกเงินตราสามารถขออนุญาตจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ก็ตาม แต่ตามความเห็นของผม รัฐมนตรีกระทรวงการคลังที่จะมาอนุญาตให้เอกชนรายใดรายหนึ่งให้ออกเงินตราทำไม่ได้ เพราะพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทยถูกบัญญัติให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจในการออกเงินตราเท่านั้น” ธีระชัยกล่าว

 

ธีระชัยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เหรียญดิจิทัลเพื่อไทยเป็นบล็อกเชนที่เก็บข้อมูลการใช้จ่าย 54 ล้านคนโดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน ซึ่งจะเป็นการเปิดให้บริษัทเอกชนสามารถล้วงลึกข้อมูล ซึ่งเป็นประโยชน์ทางการตลาดและเป็นข้อมูลที่มีมูลค่าสูงนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งมีความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหลทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนรายบุคคลได้

 

ซึ่งรัฐบาลชุดต่อไปจำเป็นต้องมีการวางแผนแม่บทพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลสำหรับประเทศ แต่โครงการที่ใช้เหรียญดิจิทัลเพื่อไทยเช่นนี้ไม่สามารถต่อยอดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างแท้จริง จะต้องเป็นการใช้เหรียญดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น

 

“โครงการทำนองนี้พัฒนาในแง่ซอฟต์แวร์ไม่ยากนัก แต่พิจารณาแง่ซอฟต์แวร์อย่างเดียวไม่พอ จำเป็นจะต้องมีการพิจารณาครบทุกด้าน ทุกแง่ทุกมุม ทั้งในแง่ธรรมาภิบาล ทั้งแง่ผลได้ผลเสียต่อเอกชนและต่อประชาชนส่วนรวม ในความเห็นของผม โครงการตามที่ออกแบบไว้ยังไม่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ” ธีระชัยกล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising