อดีตขุนคลังไม่เชื่อข่าวลือ เศรษฐา ทวีสิน เตรียมปลด เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ เพราะร่วมงานกันไม่ได้ ชี้ทำไม่ง่าย เพราะมีกฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครอง มองความเห็นผู้ว่าฯ ธปท. เรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัลเป็นการให้ข้อมูลเชิงวิชาการ ไม่มีอคติทางการเมืองแอบแฝง ซึ่งนายกฯ ควรรับฟัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา (19 กันยายน) ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือในโซเชียลมีเดียว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ หลังจากผู้ว่าฯ ธปท. ได้ออกมาให้ความเห็นถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาลว่า ควรมีการปรับเงื่อนไขการแจกให้เฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพื่อประหยัดงบประมาณ และการดำเนินนโยบายของรัฐบาลควรคำนึงถึงเสถียรภาพทางการคลัง
โดยข้อความของอดีตรัฐมนตรีคลังมีเนื้อหาระบุไว้ดังนี้
‘ปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ไม่ง่าย’
มีคนส่งรูปไปตามโซเชียลมีเดีย อ้างว่า รัฐมนตรีคลังจะปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เพราะขัดนโยบาย ทำงานร่วมกันไม่ได้อย่างแรง
ผมไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จัดทำรูปนี้ แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็นความจริงได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ข้อมูลความรู้ไว้ดังนี้
“เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ กล่าวถึงหารือกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในเรื่องนโยบายเงิน Digital Wallet 10,000 บาท ว่า
“ต้องรอดูความชัดเจนของรูปแบบในการทำนโยบายดังกล่าวก่อน ซึ่งถ้าออกมาเป็น Digital Asset แบงก์ชาติยืนยันมาตลอดว่าไม่สนับสนุน เพราะจะกลายเป็นตัวกลางชำระเงิน ไม่เอื้อต่อเสถียรภาพ
“แต่หากเป็น E-Money ก็เป็นรูปแบบที่มีอยู่ในระบบปัจจุบัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นต้องดูว่าไปเกิดอุปสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจและผลกระทบการคลังอย่างไร
“รวมทั้งการดำเนินนโยบายต่างๆ ควรเป็นรูปแบบเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มากกว่า เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องการเงิน 10,000 บาท”
ผมขอแนะนำนายกฯ เศรษฐา ว่า ควรรับฟังความเห็นของผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเชิงวิชาการ ไม่มีอคติทางการเมืองแอบแฝง
ส่วนแนวคิด ถ้าหากสมมติจะมีรัฐมนตรีคลังรายใดต้องการจะปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาตินั้น ควรทราบว่ามีกฎหมายตีกรอบป้องกันเอาไว้
ได้แก่ พ.ร.บ. ธปท. มาตรา 28/19 ที่ระบุว่า นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา 28/18 แล้ว ผู้ว่าการฯ พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
- ตาย
- ลาออก
- ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 28/17
- (คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่
- คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี หรือการเสนอของรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ธปท. เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรงหรือหย่อนความสามารถ โดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง
ดังนั้นตาม (4) รัฐมนตรีคลังจะต้องพิสูจน์ให้คณะรัฐมนตรีเห็นว่าผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ มีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งไม่สามารถรวมถึงความเห็นขัดแย้งเรื่องนโยบาย
ส่วนตาม (5) ก็ต้องผ่านด่านคณะกรรมการ ธปท. เสียก่อน เฉพาะกรณีบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรงหรือหย่อนความสามารถ โดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง ซึ่งยิ่งเป็นไปไม่ได้
แต่ยิ่งหนักกว่านั้นก็คือ กระแสสังคมที่จะประณามรัฐมนตรีคลังผู้นั้น จะเข้าข่ายเป็นการลุแก่อำนาจ Abuse of Power
และจะกระทบกระเทือนความเชื่อมั่นของสังคมโลกอย่างรุนแรง
จึงขอให้ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ สบายใจได้ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่
