สำหรับใครที่ไม่เคยได้ยินแบรนด์ที่ใช้ชื่อว่า Thinx คงจะตื่นเต้นถ้าได้รู้ว่าแบรนด์สุดเก๋นี้ทำโปรดักต์อะไร
Thinx มีสโลแกนว่า ‘For People With Periods’ หรือถ้าแปลเป็นไทยก็คือ ‘เพื่อทุกคนที่มีประจำเดือน’ โดย Thinx โปรโมตสินค้าตัวเองว่าเป็นกางเกงในที่ทำจากเส้นใยชนิดพิเศษที่ผ่านการวิจัยและพัฒนามาแล้ว โดยผู้ใส่สามารถใส่กางเกงในของ Thinx ตอนมีประจำเดือนโดยที่ไม่ต้องใส่ผ้าอนามัยอีกต่อไป
นอกจากความน่าสนใจที่ทำให้ Thinx ติดอันดับ Most Innovative Companies ประจำปี 2017 โดย Fast Company แล้ว Thinx ยังมีการแบรนดิ้งและโปรโมตแบรนด์ที่สร้างความฮือฮาไม่น้อยทีเดียว
Period
ก่อนหน้าที่จะมาเป็น Thinx ในทุกวันนี้ Miki Agrawal 1 ใน 3 ของผู้ก่อตั้งแบรนด์ เคยลองทำรีเสิร์ชและพบว่าในยุคศตวรรษที่ 20 มีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยเรื่องประจำเดือนของผู้หญิงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น นั่นคือเมื่อปี 1931 ที่ผ้าอนามัยถูกคิดค้นขึ้น ปี 1969 มีการเพิ่มแผ่นกาวไว้ใต้แผ่นผ้าอนามัยเพื่อไม่ให้ผ้าอนามัยเคลื่อนที่ (ซึ่งก่อนหน้านั้นผู้หญิงเราก็ต้องหาที่หนีบ หรือเข็มกลัดเพื่อยึดผ้าอนามัยให้อยู่กับที่) และครั้งสุดท้ายคือในช่วงปี 1980 ที่มีการใช้ menstrual cups หรือถ้วยอนามัยซึ่งก็ไม่เป็นที่นิยมอยู่ดี
เธอจึงตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมโลกเราถึงยังไม่มีวิวัฒนาการ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยพัฒนาด้านสุขอนามัยของผู้หญิง และแก้ปัญหาเกี่ยวกับการมีประจำเดือนที่ผู้หญิงทุกคนต้องเจออีก
ประกอบกับการที่เธอได้เดินทางไปแอฟริกาใต้ และพบว่ามีเด็กจำนวนหนึ่งที่ไม่ไปโรงเรียน เมื่อลองถามเหตุผลก็ได้คำตอบว่าพวกเธอกำลังอยู่ใน ‘Week of Shame’ หรือช่วงสัปดาห์ที่กำลังมีประจำเดือนและไม่มีผ้าอนามัยใช้ ทำให้ถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อ หลังจากนั้นมิกิได้ไปค้นคว้าเพิ่มเติมและพบว่า ยังมีนักเรียนอีกกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกที่ต้องหยุดโรงเรียนขณะมีประจำเดือน เธอจึงปิ๊งไอเดียร่วมกับฝาแฝดของเธอ Radha Agrawal และชวน Antonia Saint Dunbar เพื่อนอีกคนมาสร้างแบรนด์ Thinx ด้วยกัน
Miki Agrawal
Thinx
โปรดักต์กางเกงในของ Thinx แต่ละตัวประกอบด้วยผ้าพิเศษ 4 ชั้น ชั้นแรกคือผ้าที่ช่วยลดกลิ่นและลดความชื้น ชั้นที่ 2 เป็นผ้าที่มีความสามารถในการดูดซึม ชั้นที่ 3 เป็นตัวกันให้ไม่ให้ของเหลวรั่วซึม และชั้นสุดท้ายเป็นตัวเกราะที่คลุมทุกชั้นเข้าไว้ด้วยกัน แม้จะมีถึง 4 ชั้น แต่ Thinx ก็ให้ความรู้สึกเบาบางเหมือนกางเกงในทั่วไปนี่แหละ มาพร้อมกับดีไซน์ที่หลากหลาย เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ตั้งแต่ทรง Hiphugger, Boyshorts, Highwaist, Sport, Cheeky และอีกมากมาย
การสวมกางเกงในจะครอบคลุมการใช้งานราว 10 ชั่วโมง และซักทำความสะอาดเพื่อใช้ซ้ำได้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ตัวละ 24 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 785 บาทไทย ล่าสุด Thinx ยังมีโปรดักต์อื่นๆ นอกจากกางเกงในอย่างผ้าอนามัยและเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายด้วย
ที่น่าสนใจคือ Thinx แทบจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่มาพร้อมข่าวฉาวอย่างไม่เคยหยุด เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวโปรดักต์ (ที่ก็ดูน่าสนใจด้วยตัวของมันอยู่แล้ว) ไปจนถึงการสร้างสรรค์โฆษณาเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
Meng Shui หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Thinx ต้องการจะลบภาพเดิมๆ เกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์อนามัยของสตรีที่เราเคยเห็นกัน อย่างผู้หญิงใส่กระโปรงผ้าพลิ้วที่วิ่งในทุ่งหญ้า ฟ้าโล่ง การเทสต์ผ้าอนามัยด้วยน้ำสีฟ้า ที่ทั้งหมดทั้งมวลเธอบอกว่ามันดู ‘เลี่ยง’ การพูดถึงเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงโดยตรง ซึ่งแตกต่างจากความเป็นจริงที่มันวุ่นวาย และเลอะเทอะกว่านั้น เธอและทีม Thinx จึงต้องการทำสิ่งที่แตกต่าง ด้วยการใช้ภาพวาดประกอบรูปอวัยวะเพศของผู้หญิง เกรปฟรุต และน้ำสีแดงมาใช้ในปรินต์แอดตรงๆ เสียเลย แต่อย่างไรก็ตาม Thinx ก็ยังคงความเหมาะสม ไม่หวือหวา และคุมแบรนดิ้งสไตล์โมเดิร์น-มินิมัลได้อย่างลงตัว
Thinx ยังนำเอาปรินต์แอดของตัวเองไปโผล่บนซับเวย์กลางเมืองนิวยอร์ก ซึ่งแน่นอนว่ากลายเป็นเรื่องเป็นราวพอสมควร เพราะ MTA และ Outfront Media ที่เป็นผู้ควบคุมดูแลโฆษณาที่ได้รับอนุญาตให้โชว์ในสถานีรถไฟใต้ดิน ไม่ยอมอนุมัติโฆษณาของ Thinx สักที เพราะพวกเขาเห็นว่ามัน ‘ไม่เหมาะสม’ และ ‘ส่อความหมายเกินไป’ อย่างการใช้คำว่า ‘period’ ที่แปลว่าประจำเดือนชัดๆ การใช้รูปเกรปฟรุตผ่าครึ่ง (แทนอวัยวะเพศหญิง) การใช้รูปไข่ดิบ (แทนการตกไข่) รวมทั้งรูปถ่ายนางแบบสวมกางเกงใน แม้เธอจะใส่เสื้อคอเต่าก็ตาม
ฝั่งแบรนด์ Thinx ก็สู้กลับด้วยการยกตัวอย่างโฆษณาที่ได้รับอนุญาตให้ติดในรถไฟใต้ดินตัวอื่นๆ ที่มีภาพผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำบิกินีเต็มตัว หรือโฆษณาคลินิกเสริมหน้าอกที่สื่อความหมายชัดเจน จนในที่สุดเราก็มีโอกาสได้เห็นโฆษณา Thinx พร้อมภาพถ่ายและอาร์ตไดเรกชันสุดเท่ติดอยู่เต็มรถไฟใต้ดินในนิวยอร์ก และกลายเป็นที่สนใจและเป็นที่รู้จักในที่สุด ภายหลัง Thinx ยังเพิ่มนายแบบที่เป็นผู้ชายที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้วและมีประจำเดือนในโฆษณาด้วยเช่นกัน
https://www.instagram.com/p/93pM4wIJKb/?utm_source=ig_embed
นอกจากนี้ Thinx ยังมาพร้อมแคมเปญช่วยเหลือสังคมน่ารักๆ โดยกางเกงใน Thinx ทุกๆ ตัวที่ถูกซื้อไป ทางแบรนด์จะบริจาคผ้าอนามัย 1 แพ็กให้กับผู้หญิงที่อาศัยในประเทศยูกันดา ผ่านบริษัทตัวแทน AFRIpads พร้อมทั้งบริจาคเงินให้กับองค์กร Fistula Foundation ที่ช่วยเหลือสตรีเกือบ 1 ล้านคนที่ประสบปัญหาโรคซึมเศร้าหลังคลอดอีกด้วย
Recommended Items
Hiphugger กางเกงในรุ่นขายดีของ Thinx ที่ทดแทนการใส่ผ้าอนามัยได้ถึง 2 แผ่น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า