“ดร.ศุภวุฒิ ชี้ไทยต้องเร่งยืนบนเวทีโลก สร้าง Rule-based Trade ลดพึ่งพาสหรัฐฯ แนะควรเข้าร่วม CPTPP และ OECD
เร่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 14 ให้เร็วขึ้น ปรับโครงสร้างประชากรสู้สังคมสูงวัย วางยุทธศาสตร์เชื่อมจีน สร้างรางรถไฟ เดินหน้าพลังงานสีเขียว และวางตัวเป็น ‘Geopolitical Safe Zone’ ของโลก
ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ
ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวบนเวที THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ที่จัดขึ้นวันนี้ (7 พฤศจิกายน) เป็นวันสุดท้าย ในหัวข้อ ‘Rewiring the Global Supply Chain’ ยุทธศาสตร์ใหม่เปลี่ยนเกมโลกว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก Geopolitics (ภูมิรัฐศาสตร์) – Geo-Economics การแบ่งขั้ว 2 มหาอำนาจที่รุนแรง รวดเร็ว และกำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ ประเทศไทยควรมุ่งสร้างความเข้มแข็งบนเวทีโลกผ่าน 4 แนวทางสำคัญ
1.สร้างระบบการค้าระหว่างประเทศแบบ Rule-based Trade
ไทยควรยกระดับบทบาทในเวทีการค้าโลก โดยไม่ยึดโยงกับสหรัฐฯ เพียงฝ่ายเดียว แต่สร้างระบบการค้าที่มี “กฎเกณฑ์ที่เป็นธรรม” มากกว่าการเปิดเสรีแบบ FTA เดิม ๆ ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมความตกลง CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) และการเร่งรัดการเข้าเป็นสมาชิก OECD
พร้อมกันนี้ ไทยควรใช้โอกาสจากการเป็นเจ้าภาพการประชุม IMF ในปีหน้า เพื่อแสดงศักยภาพและผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 ควบคู่กับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและเสริมภาพลักษณ์ประเทศ
2. ปรับโครงสร้างข้อมูลด้านประชากรและสังคมสูงวัย
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ โดยจะมีประชากรสูงอายุถึงกว่า 20 ล้านคนในอนาคตอันใกล้ จึงจำเป็นต้องบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อยกระดับสุขภาพคนไทย และขยายบริการด้านสุขภาพไปสู่ชาวต่างชาติ
3. ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการรับมือ Climate Change
ไทยควรสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน (Green Energy) โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ เช่น Data Center ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะเปิดให้เอกชนสามารถใช้สายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อส่งต่อพลังงานสะอาดไปยังผู้ผลิตรายอื่นได้ เนื่องจากพลังงานเป็นต้นทุนหลักของการผลิต และลูกค้าทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสีเขียวมากขึ้น
4.เดินหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง เชื่อมโยงไทย-จีน
จีนต้องการให้ไทยเร่งเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟจีน-ไทย ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์นี้ โดยการเชื่อมต่อดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ของจีน ที่จะเชื่อมเส้นทางขนส่งสินค้าการเกษตร เช่น ทุเรียน จากไทยและลาวไปสู่ตลาดจีนโดยตรง
ดร.ศุภวุฒิ สรุปทิ้งท้ายว่า “ในท้ายที่สุด ไทยและอาเซียนต้องกำหนดบทบาท ของตนเองให้ชัดเจน ในฐานะ ‘Geopolitical Safe Zone’ ของโลก เพื่อสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างมหาอำนาจ โดยการรวมกลุ่มของประเทศตลาดเกิดใหม่อย่าง BRICS อาจไม่ตอบโจทย์บทบาทดังกล่าวของไทยได้ทั้งหมด แต่ไทยควรเดินหน้าเข้าร่วม CPTPP-OECD”


