×

The 1975 จุดเริ่มต้น มิตรภาพ ความเจ็บปวด และการก้าวมาเป็นวงดนตรีสำคัญของชาวมิลเลนเนียล

15.01.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins. Read
  • The 1975 คือวงดนตรีจากแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ประกอบไปด้วย แมทธิว ฮีลีย์ (ร้องนำ, กีตาร์), อดัม ฮานน์ (กีตาร์), รอส แมคโดนัลด์ (เบส) และจอร์ช แดเนียล (กลอง) พวกเขาฟอร์มวงขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่สมัยที่ทุกคนยังเป็นวัยรุ่นและเรียนไฮสคูลอยู่ที่โรงเรียนวิล์มสโลว์เมื่อปี 2002 และหลังจากนั้นพวกเขาผ่านการโชว์ตามงานภายใต้ชื่อวงมาหลายชื่อ อาทิ Me and You Versus Them, Forever Drawing Six, Talkhouse, The Slowdown, Bigsleep และ Drive Like I Do ก่อนจะมาจบที่ชื่อ The 1975
  • ทางวงเคยได้รางวัลศิลปินยอดแย่จาก NME นิตยสารดนตรีชื่อดังในปี 2014 ก่อนที่อีก 2 ปีต่อมาพวกเขาจะนำสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 อย่าง I Like It When You Sleep, for You Are So Beautiful yet So Unaware of It อัลบั้มชื่อยาวที่มีความป๊อปขึ้นมากจากอัลบั้มแรกมาผงาดขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ต Album of the Year ของ NME
  • ช่วงซัมเมอร์ของปี 2017 ในขณะที่วงกำลังไปได้สวย แมทธิวกลับตกอยู่ในช่วงเวลาอันยากลำบาก เพราะตอนนั้นเขาเสพติดเฮโรอีนอย่างหนัก แต่โชคดีที่ตอนนั้นทางวงกำลังจะเริ่มทำอัลบั้มใหม่อย่าง A Brief Inquiry Into Online Relationships พอดี มันจึงทำให้แมทธิวตระหนักได้ว่าเขาต้องสลัดอาการติดยาออกไปก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินแก้

 

 

“80s คือยุคของ The Smiths, 90s เป็นช่วงเวลาของวง Oasis แม้ผมจะเลือก Radiohead, ปี 2000s เป็นยุคทองของวงอย่าง Arctic Monkeys แต่สำหรับช่วงเวลานี้ มันคือยุคสมัยของพวกผม” ประโยคนี้กล่าวโดย แมทธิว ฮีลีย์ ฟรอนต์แมนของวง The 1975 ผู้ที่เชื่อและนิยามวงดนตรีของเขาว่าเป็นวงแห่งยุคสมัยปัจจุบัน

 

The 1975 คือวงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟป๊อปร็อกจากแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ประกอบไปด้วย แมทธิว ฮีลีย์ (ร้องนำ, กีตาร์), อดัม ฮานน์ (กีตาร์), รอส แมคโดนัลด์ (เบส) และจอร์ช แดเนียล (กลอง) พวกเขาฟอร์มวงขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่สมัยที่ทุกคนยังเป็นวัยรุ่นและเรียนไฮสคูลอยู่ที่โรงเรียนวิล์มสโลว์ มณฑลเชชเชอร์ เมื่อปี 2002 ซึ่งการแสดงแรกของวงเกิดขึ้นในงานที่จัดโดยเจ้าหน้าที่สภาท้องถิ่นของเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ และหลังจากนั้นพวกเขาผ่านการโชว์ตามงานแสดงดนตรีหรือคอนเสิร์ตต่างๆ ภายใต้ชื่อวงมาหลากหลายชื่อ อาทิ Me and You Versus Them, Forever Drawing Six, Talkhouse, The Slowdown, Bigsleep และ Drive Like I Do ก่อนจะมาจบที่ชื่อ The 1975 และชื่อนี้แมทธิวได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่เขาดันไปเปิดหนังสือกวีเล่มหนึ่งของนักเขียนชาวอเมริกัน แจ็ค เครูแอ็ก ซึ่งด้านหลังของหนังสือเล่มนั้นมีตัวหนังสือระบุเอาไว้ว่า “1 June, The 1975”

 

ทั้ง 4 คนทำเพลงและเดินทางผ่านกาลเวลาด้วยกันมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ก่อนที่โลกจะได้รู้จักกับ The 1975 แบบจริงจังและเป็นวงกว้างมากขึ้นในปี 2013 จากอัลบั้มเดบิวต์ซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มแรกในชื่อ ‘The 1975’ ชื่อเดียวกับชื่อวง

      

 

 

หากใครติดตามและเป็นแฟนเพลงของ The 1975 หรือ ‘เดอะ หนึ่งเก้าเจ็ดห้า’ ชื่อที่แฟนเพลงชาวไทยคุ้นหูมาตั้งแต่ต้น ก็คงจะทราบดีว่าทางวงเคยได้รางวัลศิลปินยอดแย่จาก NME นิตยสารดนตรีชื่อดังของสหราชอาณาจักรในปี 2014 ก่อนที่อีก 2 ปีต่อมา พวกเขาจะนำสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 อย่าง I Like It When You Sleep, for You Are So Beautiful yet So Unaware of It อัลบั้มชื่อยาวที่มีความป๊อปขึ้นมากจากอัลบั้มแรกมาผงาดขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ต Album of the Year ของ NME สื่อที่เคยบอกว่าพวกเขาเป็นวงดนตรีที่ห่วยแตกที่สุด และยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่พวกเขาพาอัลบั้มที่ 2 ทะยานขึ้นอันดับหนึ่งใน NME List เป็นอัลบั้มแห่งปี 2016 แล้ว พวกเขายังได้รับรางวัลศิลปินที่เล่นสดได้ดีที่สุดของ NME ในปีถัดมาอีกด้วย


พวกเขาแสดงให้แฟนเพลงและคนทั้งโลกได้เห็นว่าคำวิจารณ์หรือความคิดเห็นลบๆ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกเขามักจะนำมันมาเป็นพลังในการสร้างสรรค์งานให้ออกมามีความแปลกใหม่และดีกว่าเดิมอยู่เสมอ

 

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น ช่วงซัมเมอร์ของปี 2017 ในขณะที่วงกำลังไปได้สวย แมทธิวกลับตกอยู่ในช่วงเวลาอันยากลำบาก เพราะตอนนั้นเขาเสพติดเฮโรอีนอย่างหนัก ซึ่งมันส่งผลให้เขาจมอยู่กับความเครียดและความวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตแย่ลงไปอีก ช่วงเวลานี้มันเป็นเหมือนฝันร้ายของเขา แต่โชคดีที่ตอนนั้นทางวงกำลังจะเริ่มทำอัลบั้มใหม่อย่าง A Brief Inquiry Into Online Relationships พอดี มันจึงทำให้แมทธิวตระหนักได้ว่าเขาต้องสลัดอาการติดยาเสพติดออกไปก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินแก้


แมทธิวตัดสินใจเข้ารับการบำบัดและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองที่สถานบำบัดบนเกาะบาร์เบโดสเป็นเวลา 6 สัปดาห์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ปี 2017 เขาก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาได้ และเมื่อฟรอนต์แมนอย่างเขากลับมาก็ถึงเวลาที่ The 1975 ต้องเดินหน้ากันต่อ


“ผมมีอีกหลายสิ่งที่สำคัญในชีวิต” เขากล่าวหลังก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาได้

 

 

 

นับตั้งแต่เดบิวต์จนถึงปัจจุบัน The 1975 โด่งดังและมีฐานแฟนเพลงมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า สังเกตได้จากการประกาศทัวร์ในหลายเมืองทั่วโลก การได้ขึ้นเป็น Headliner ครั้งแรกของเทศกาลดนตรีชื่อดังอย่าง Reading and Leeds ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม และการขายบัตรคอนเสิร์ตของพวกเขาที่กระแสตอบรับจากแฟนเพลงดีมากจนทำให้บัตร sold out อย่างรวดเร็วในหลายๆ เมือง รวมทั้งโชว์ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ประเทศไทยของเราด้วยที่บัตรขายหมดภายในเวลาไม่กี่นาที

 

ส่วนอัลบั้มใหม่ที่เพิ่งปล่อยออกมาไม่นานอย่าง A Brief Inquiry Into Online Relationships อัลบั้มที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่และหลากหลายของแนวดนตรีก็ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกจากสื่อหลายสำนักว่าเป็นอัลบั้มที่ยอดเยี่ยม และหากสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่าการทำงานตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มล่าสุดของ The 1975 นั้นมีความหลากหลาย มีซาวด์ดนตรีเป็นเอกลักษณ์ และไม่เคยยึดติดกับแนวเพลงใดเป็นพิเศษ พวกเขาชอบทำและทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยครั้งหนึ่ง The 1975 เคยถูกเรียกว่าเป็นวงอินดี้ป๊อป, อินดี้ร็อก, ป๊อป, ร็อก, ป๊อปร็อก, อิเล็กโทรป๊อป, ฟังก์ร็อก แต่ดูเหมือนว่าในปัจจุบันเราไม่สามารถไปจำกัดความพวกเขาได้อีกแล้วว่าเป็นวงแนวนั้นแนวนี้ เพราะทุกครั้งที่เราเห็น The 1975 ออกอัลบั้มใหม่ พวกเขาจะกลับมาพร้อมกับงานที่มีส่วนผสมแปลกใหม่และต่างไปจากเดิมเสมอ อีกทั้งในอัลบั้มก็จะเต็มไปด้วยเพลงที่มีความหลากหลายทางแนวดนตรี ไม่จำกัดเฉพาะแนวไหนเป็นพิเศษ

 

 

 

แมทธิวบอกว่าเขาได้รับอิทธิพลทางดนตรีมาจากศิลปินอย่าง Talking Heads, My Bloody Valentine และไมเคิล แจ็คสัน แต่บุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิดในการทำงานกับเขามากที่สุดคือ จอห์น ฮิวจ์ส ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เจ้าของผลงานอย่าง Home Alone, The Breakfast Club และ Ferris Bueller’s Day Off


สิ่งต่างๆ เหล่านี้น่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกและพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกินจริงจากสิ่งที่แมทธิวกล่าวไว้เลย พวกเขาคือหนึ่งในวงดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งยุคสมัยปัจจุบัน แต่ถามว่าพวกเขาใช่วงดนตรีที่ดีที่สุดเลยไหม อันนี้ก็คงไม่มีใครสามารถตอบและตัดสินได้ แต่สิ่งหนึ่งที่พูดได้แน่นอนเลยคือเวลานี้พวกเขากำลังพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดชนิดที่ไม่ว่าอะไรก็หยุดไม่อยู่อีกแล้ว

 

สำหรับแฟนๆ ชาวไทยของ The 1975 ก็ต้องอดใจรอกันหน่อย เพราะอีกไม่นานพวกเขาก็จะกลับมาแสดงสดๆ ให้พวกเราได้ดูตรงหน้ากันอีกครั้งในวันที่ 13 กันยายนนี้ ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี หลังจากที่เคยมาครั้งหนึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เชื่อเหลือเกินว่าแฟนเพลงชาวไทยของ 4 หนุ่มจากเมืองแมนเชสเตอร์คงตั้งตารอคอยให้ถึงวันนั้นเร็วๆ และหากนับวันรอตั้งแต่วันนี้ ผมว่ามันก็ไม่นานเท่าไรนะครับ


อีกแค่ 8 เดือนเท่านั้นเอง…

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising