×

ถอดรหัสแนวคิด ‘แตกต่างอย่างชาญฉลาด’ ของ The Strand Thonglor คอนโดมิเนียมลักชัวรี ที่จะทำให้คุณอยากใช้ชีวิตทุกวินาทีอยู่แต่ในบ้าน [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
20.02.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) คือโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบ MixedUse ภายใต้แนวคิด ‘Essentially More’ ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มคนที่นิยมการใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมาอยู่อาศัยในย่านทองหล่อได้เป็นอย่างดี
  • นี่เป็นโครงการแรกที่บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมลงทุนกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 4,800 ล้านบาท
  • The Strand Thonglor สร้างขึ้นบนอาคารสูง 30 ชั้น นอกจากส่วนเรสซิเดนซ์ทั้งหมด 198 ยูนิต แบ่งเป็น 4 รูปแบบ พร้อมพื้นที่ Commercial Area ตอบครบทุกโจทย์ไลฟ์สไตล์ กิน ดื่ม เที่ยว พักผ่อนและออกกำลังกาย

ครั้งแรกที่ได้ยินว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวย่านทองหล่อ อดไม่ได้ที่จะเผลอตั้งคำถามในใจว่า ‘ทองหล่อยังมีพื้นที่ตรงไหนให้สร้างคอนโดมิเนียมได้อีก และคงไม่ต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่ดึงจุดขาย ติดรถไฟฟ้า เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง’ แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับ ธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘The Smart Difference: แตกต่างอย่างชาญฉลาด’ กลับพบว่า The Strand Thonglor มีจุดขายที่มากกว่าแค่คอนโดมิเนียมทำเลดี  แต่นี่คือนิยามใหม่ของคำว่า ‘บ้าน’ ที่ทำให้คุณอยากใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ของคุณทุกวินาที

 

จับมือกับเบอร์หนึ่งด้านอสังหาริมทรัยพ์เมืองไทย เพื่อสร้างมาตรฐานระดับโลกให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย

ชื่อของบริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยังถือเป็นน้องใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ แต่ถ้าดูจากประสบการณ์ของผู้บริหารทั้งสองท่าน น่าจะทำให้วงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยตื่นตัวได้ไม่น้อย ธัญญ่า-ธัญทิพ เจียรวนนท์ ดีกรีด้านสาขาการออกแบบสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ศิลปะจาก The University of Pennsylvania เคยร่วมงานกับ Ogilvy & Mather New York และ Sotheby’s and Hong Kong Land (ภายใต้ Jardine Group) ในฮ่องกง และมีโอกาสดูแลบริหาร The Landmark ที่ฮ่องกง ก่อนตัดสินใจกลับมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการโครงการ MQDC ดูแลโครงการของผู้ถือหุ้น

 

 

ในขณะที่ชวิน อรรถกระวีสุนทร หลังจากคว้าเกียรตินิยมจาก London School of Economics and Political Sciences (LSE) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็มีโอกาสได้ฝึกงานที่ J.P. Morgan New York ก่อนจะกลับมาทำงานที่  J.P. Morgan ประเทศไทย เขาถูกยกให้เป็นมือขวาของหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ประธานบริหาร ทำหน้าที่ดูแลด้านวาณิชธนกิจ เป็นเวลากว่า 4 ปี นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ด้านธุรกิจการโรงแรมจากการทำหน้าที่ดูแลจัดการการลงทุนกลุ่มในเอเชียและญี่ปุ่นที่โรงแรมดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล

 

ด้วยความมุ่งมั่นของทั้งคู่ที่จะนำมาตรฐานระดับโลกมาสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ร่วมลงทุนและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ‘เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ – The Strand Thonglorมูลค่ามากกว่า 4,800 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด ‘Essentially Moreนำเสนอประสบการณ์การอยู่อาศัยในรูปแบบ MixedUse ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย และชื่นชอบการใช้ชีวิตที่มีเสน่ห์ของย่านทองหล่อ การทำงานร่วมกันครั้งนี้ MQDC จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน แบ่งปันองค์ความรู้ที่ยอดเยี่ยมในการออกแบบและการก่อสร้างในระดับสากล ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาดและกลยุทธ์การขาย

 

สองนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่กับเบอร์หนึ่งด้านอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย จะสร้างความแตกต่างภายใต้มาตรฐานระดับโลกได้อย่างไร?


ทิศทางอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยในทัศนะของคนรุ่นใหม่
สองหนุ่มสาวนักพัฒนาอสังหาฯ ไฟแรงเชื่อว่า หากมองในระยะยาวศักยภาพอสังหาฯ ของเมืองไทยน่าจะยังพัฒนาได้อีกไกล ชวินเสริมแนวคิดนี้ว่า “ผมเชื่อว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ไม่ได้มองอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุน ดูจากศักยภาพในการกู้เงินก็จะเห็นว่าส่วนมากมักเป็นสินค้าส่วนบุคคล อาทิ รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ สัดส่วนการซื้อบ้านยังน้อย แต่ถ้าพฤติกรรมตรงนี้เปลี่ยนจะช่วยให้การแข่งขันด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ผู้บริโภคสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ และจริงๆ ต่างชาติเองก็เห็นศักยภาพของคนไทย เช่น ตอนนี้เงินบาทแข็งตัว เปรียบเทียบกับประเทศอื่นก็เห็นชัดแล้วว่า ถึงแม้การเมืองไทยอาจจะไม่มั่นคงเท่าประเทศอื่น แต่โดยรวมแล้ว การเงินและสถาบันอื่นๆ มันแข็งพอ และโครงสร้างเศรษฐกิจยืดหยุ่นพอที่จะทำให้ต่างชาติมองว่าเราเป็นประเทศที่มีศักยภาพได้ ก็น่าจะเห็นการเข้ามาลงทุนในระยะยาวมากกว่าปัจจุบัน”

 

ทำเลการแข่งขันสูง คู่แข่งเยอะ โจทย์ที่ The Strand ตีแตก  
ทำเลย่านทองหล่อถือเป็นข้อได้เปรียบในหลายด้านเมื่อเทียบกับอสังหาฯ อื่นๆ ที่อยู่รอบนอก แต่คู่แข่งในย่านทองหล่อและเส้นรถไฟฟ้าในเมืองเองก็ถือเป็นคู่แข่งที่จะมองข้ามไม่ได้ ธัญญ่าเล่าถึงวิธีคิดตั้งแต่เริ่มหาทำเลว่า “ตอนหาที่ดิน โจทย์แรกคือ ต้องเป็นโลเคชันที่เด็ดจริง เพราะเราตั้งบริษัทใหม่ คนยังไม่รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ธัญญ่ามองว่าการสร้างแบรนด์ให้คนรู้จักสำคัญ ไม่เพียงเท่านั้นต้องสร้างคุณภาพด้วย จึงตั้งใจเลือกทำเลตรงนี้ ตอนออกแบบโครงการธงหลักของเราคือ ‘ต้องแตกต่าง’ แต่ไม่ได้แตกต่างเพื่อแตกต่างเท่านั้น ต้องแตกต่างในด้านฟังก์ชันที่อยู่บนเหตุและผลของการออกแบบและการอยู่อาศัย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงครีเอตให้ตึกนี้มี Commercial Area เรามองว่ากลางซอยทองหล่อมีพื้นที่ไลฟ์สไตล์เยอะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ช้อปปิ้ง บาร์ ในขณะที่ปากซอยทองหล่อยังไม่ค่อยมีอะไรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ด้วยทำเลติดรถไฟฟ้า ทราฟฟิกเยอะ ใกล้ๆ กันก็มีการพัฒนาทั้งสำนักงานและคอนโด เราจึงอยากให้ The Strand เป็นจุดศูนย์กลางของสังคมด้านหน้าทองหล่อ”

 

ขอบคุณรูปภาพจาก PIA Interior Company Limited

 

ความแตกต่างอย่างชาญฉลาดที่ The Strand Thonglor สร้างขึ้นบนอาคารสูง 30 ชั้น  นอกจากส่วนเรสซิเดนซ์ทั้งหมด 198 ยูนิต แบ่งเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1-Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 48.10-55 ตารางเมตร จำนวน 124 ยูนิต, 2-Bedroom (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 73-90.60 ตารางเมตร จำนวน 63 ยูนิต, Duplex (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) มอบความกว้างขวางบนพื้นที่ขนาด 110.40 ตารางเมตร จำนวน 5 ยูนิต และ Penthouse (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ) มอบความกว้างขวางบนพื้นที่ขนาด 184.20 ตารางเมตร จำนวน 6 ยูนิต ยังมีพื้นที่ MicroOffice & Business Lounge, Allday dining, Speakeasy Bar และพื้นที่สวนสาธารณะ The Strand Parkบริเวณด้านหน้าโครงการฯ ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการฯ และเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนในบริเวณนั้น นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ใช้สอยที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัว เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่สามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัย

 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการยังคิดขึ้นมาให้รองรับกับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย อาทิ The Playroom และ Tutor Room บริเวณชั้น 6 ในส่วนของชั้น 27 ยังมี The Clubhouse, Fitness, Swimming Pool, Children’s Pool และ Meditation Studio ส่วนตัว สระว่ายน้ำเป็นแบบอินฟินิตีระบบน้ำเกลือ ความยาว 25 เมตร รวมถึง Rooftop Terrace และ Putting green เอาใจนักกอล์ฟโดยเฉพาะ หรือแม้แต่ Residential Lobby ที่ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวสูง

 

ไลฟ์สไตล์ที่ถอดออกมาจากการคิด ‘คิดเพื่อผู้บริโภค’ และ ‘คิดอย่างผู้บริโภค’
“เราอยากทำโครงการที่เราอยากเข้ามาอยู่เอง และมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของเช่นเดียวกัน” ชวิน พูดเปิดประเด็น “เรามองว่าต่อจากนี้ไปไลฟ์สไตล์มันจะเริ่มเปลี่ยน เราจึงต้องปรับตัวเพื่อไปรองรับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ในอนาคต อย่างตอนนี้ ความสะดวกคือความลักชัวรีอีกรูปแบบหนึ่ง เราจึงพยายามตีโจทย์การออกแบบให้มีความหรูหราเหนือกาลเวลา ในขณะเดียวกันก็เติมเต็มไปกับโลเคชันทองหล่อ ความสะดวกสบายใครก็ให้ได้ แต่สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือ คอมมูนิตี้ในโครงการ แทนที่คุณจะออกไปข้างนอกเพื่อใช้ชีวิต คุณสามารถใช้ชีวิตที่นี่ได้ทุกวินาที” ธัญญ่า พูดเสริม

 

 

ชวิน ยังกล่าวอีกว่า “จริงๆ เราใช้เวลาในทองหล่อค่อนข้างเยอะ บางคนวันเสาร์-วันอาทิตย์ก็แฮงเอาต์อยู่แถวนี้ เลยคิดว่าถ้าเรามีที่แฮงเอาต์แล้วมีคอนโดอยู่ข้างบนคงเจ๋งดีนะ ลงมาชั้นล่างมีอาหาร มีสวนสาธารณะ มีบาร์ที่สามารถพบปะผู้คนได้ มีคนมาแฮงเอาต์ที่นี่ตลอดเวลา ผมคิดจริงๆ นะว่า ถ้าเราได้อยู่ที่นี่จริงๆ จะเป็นยังไง เลยเห็นด้วยว่าควรจะมี All Day dining และ Speakeasy Bar ที่นี่”

 

งานออกแบบที่ให้มากกว่าชีวิตสมาร์ทๆ

“บางทีเราก็ต้องคิดอย่างนักธุรกิจว่าสุดท้ายแล้ว ลูกค้าเขาต้องการอะไร หรือมีอะไรที่เขาคิดว่าไม่จำเป็น และมีผลต่อราคาที่เขาต้องจ่าย” ธัญญ่า กล่าวต่อว่า “เรื่องการออกแบบพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยเป็นสิ่งที่ธัญญ่าลงดีเทลเองค่ะ ธัญญ่าต้องดูแบบเองเพื่อให้มั่นใจว่ามันตอบโจทย์ที่สุด เรื่องฮวงจุ้ยควบคู่ไปด้วยนะคะ เฟอร์นิเจอร์ควรจะวางตรงไหนให้ลงตัว สุดท้ายแล้ว อยากให้แต่ละห้อง คนไม่ต้องคิดหนักที่จะซื้อ เห็นแล้วเข้าใจเลยว่านี่คือห้องที่ออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่อยู่แล้วสบายที่สุด”  

 

ด้านชวินมองว่า “คาแรกเตอร์ลูกบ้านน่าจะเป็นคนที่เปิดกว้าง ชอบสังสรรค์ และต้องการความลักชัวรีภายในพื้นที่ของเขา ไลฟ์สไตล์เป็นคนที่ชอบทั้งเรื่องศิลปะและงานดีไซน์ เป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะ ได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตามาหลายที่ เห็นอะไรมาหลายอย่าง และเข้าใจว่าคุณค่าจริงๆ ของสิ่งที่คุณมีคืออะไร”

 

 

ธัญญ่าพูดเสริมประเด็นเรื่อง ‘คุณค่า’ ไว้ว่า “ความหรูหราอาจหมายถึงการให้ความสำคัญกับของที่มีคุณค่ากับเขาจริงๆ กับทำเลแบบนี้ เพราะคอนเซปต์ของ The Strand Thonglor ในตอนเริ่มต้นยังสะท้อนกลับไปที่คอนเซปต์ของบริษัทว่า เราอยากเป็น Developer ที่สร้างของที่มีนิยามว่า ‘Future Proof’ ตอนนี้โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก มันยิ่งท้าทายว่า สามปีจากวันนี้ ห้าปีจากวันนี้ มันจะยังรู้สึกใหม่หรือเปล่า เราใช้ความคิดเดียวกับตอนที่เราออกแบบโครงการ เราไม่อยากดีไซน์โครงการที่แค่ตามเทรนด์ แต่ยึดหลักของรสนิยมที่อยู่เหนือกาลเวลา บางคนถามว่า The Strand Thonglor มันนิ่งมากเลย นี่คือความหรูหรา คลาสสิก ร่วมสมัย อีก 10 ปีจากนี้มันก็ยังดูทันสมัย”  

 

ความร่วมสมัยจากการออกแบบยังผสมกลมกลืนไปกับนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย The Strand Thonglor ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำ เลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพระดับโลก อาทิ ระบบ ‘Automatic Parking’ ที่จอดรถอัตโนมัติครบทุกยูนิต และเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ ‘Destination Control Lift’ ลิฟต์โดยสารที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับ และความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัย โดยสามารถตรวจสอบสถานะบุคคล พร้อมชั้นที่พัก เพื่อนำไปยังห้องพักโดยตรง เหมือนกับมีลิฟต์ส่วนตัวทุกยูนิต ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานภายในอาคารอีกด้วย

 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โครงการนี้เป็นการร่วมทุนกับ MQDC แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนอย่าง Well-being ธัญญ่าบอกว่าทุกยูนิตจะมีการันตีที่อยู่อาศัย 30 ปี หากมีปัญหาด้านโครงสร้างทางโครงการยินดีรับผิดชอบ “ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเราเลยค่ะ ยังมีอีกหลายส่วนที่เราไม่ได้นำมาเป็นจุดขาย เช่น เครื่อง ERV ที่ช่วยสกรีนค่าคาร์บอนไดออกไซด์ในห้อง หากมีค่าสูงเกินจนส่งผลต่อสุขภาพเครื่องจะเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศ หรือกระจก IGU Laminate เป็นกระจกสามชั้น กันเสียง กันแดดได้ดีที่สุด เราใช้รอบทั้งตึกเลย ที่เราไม่นำมาเป็นจุดขายเพราะมองว่ามันเป็นมาตรฐานที่เราต้องทำเพื่อช่วยโลกอยู่แล้ว”


The Strand Thonglor วางตัวให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมทองหล่ออย่างมีเสน่ห์  
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะของผู้พัฒนาอสังหาฯ จะต้องรื้อถอนตึกเก่าเพื่อสร้างตึกใหม่ หรือพัฒนาพื้นที่โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อมของคนในชุมชน ซึ่งธัญญ่าเอง กล่าวว่า เป็นอีกเรื่องที่เราไม่มองข้ามเลย เพราะเราทำธุรกิจพัฒนาอสังริมทรัพย์ จริงอยู่ว่าเราต้อรื้อถอนตึกเก่าๆ ออกไป แต่เราก็อยากจะคืนอะไรกลับไปสู่สังคมโดยรอบด้วย” ชวินยังแสดงทัศนะเพิ่มเติมอีกว่า “ทองหล่อเหมือนอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงทั้งในซอยทองหล่อหรือหน้าถนนสุขุมวิทก็ตาม เรามาเพื่อพัฒนาปากซอยทองหล่อ แต่ขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนสังคมของคนทองหล่อ เพราะจุดที่เราอยู่แต่ก่อนเป็นศูนย์กลางของสังคมตรงนี้เลยก็ว่าได้ เราเลยอยากจะสร้างตรงนี้ให้เป็นศูนย์กลางคอมมูนิตี้ เหมือนเสริมเสน่ห์ให้กับย่านทองหล่อมากกว่า”  

 

 

เมื่อการแข่งขันในตลาดอสังหาฯ สูงขึ้น ผลพลอยได้จะตกเป็นของผู้บริโภค
“จริงๆ ตอนนี้เราก็แข่งกันที่จะเป็นเจ้าที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของความสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า หรือสเปกใครดีกว่ากัน ใครจอดรถได้มากกว่า ใช้วัสดุดีกว่า เพราะสุดท้ายคนก็เปรียบเทียบคุณภาพของสินค้ากับราคาที่เขาต้องจ่าย แต่เรามองว่าการแข่งขันของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ จริงๆ แล้วมันดีนะ เพราะมันทำให้ทุกคนพยายามพัฒนาโครงการให้ดีกว่าคู่แข่ง จะว่าไปตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ดีกว่าโครงการที่ฮ่องกงด้วยซ้ำ คุณภาพอสังหาฯ ของเมืองไทยระดับลักชัวรี เทียบกับโครงการที่นิวยอร์ก ลอนดอน ฮ่องกงได้เลย Developer ทุกคนตั้งใจมากๆ ในการออกแบบ ในการพัฒนา ทุกคนพยายามที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าโครงการได้มาตรฐาน สุดท้ายแล้วผลประโยชน์ทั้งหมดก็ตกเป็นของผู้บริโภค เพราะทุกคนพยายามแข่งขันกันที่จะเป็น The Best”

 

วันที่ได้นั่งคุยกับผู้บริหารทั้งสองท่านของ The Strand Thonglor เราทราบมาว่าตอนนี้ทางโครงการขายไปแล้วประมาณ 50% และมีความสนใจจากชาวต่างชาติมากขึ้น (ดังนั้นพิสูจน์ว่าโครงการลักชัวรียังอยู่ในความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์) จะเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์เลยก็คงไม่ใช่ ถ้าเรียกว่าเป็นนิมิตหมายอันดีของอสังหาฯ เมืองไทยดูจะตรงกว่า ตัวเลขด้านบนตีความหมายได้ว่า นับจากนี้ไปนิยามคำว่า ‘บ้าน’ ของคนยุคใหม่จะเปลี่ยนไปจริงๆ เราไม่ได้มองหาบ้านเพื่อเป็นที่พักอาศัยเท่านั้น แต่บ้านจะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับการใช้ชีวิต เหมือนที่ธัญญ่ากล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “เราอยากให้คนที่เดินเข้ามาที่ The Strand Thonglor แล้วรู้สึกว่าที่นี่มีชีวิตชีวา เพราะความเป็นบ้านมันต้องมี ‘ชีวิต’ อยู่ในนั้น”

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising