วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ศาสตราจารย์ นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ขึ้นกล่าวสปีชในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024: BRAVE NEW WORLD เศรษฐกิจไทย ไล่กวดโลกใหม่ ในหัวข้อ The Next Frontier: Game-Changing Trends in Healthcare พรมแดนใหม่ เทรนด์พลิกวงการสุขภาพ โดยระบุว่า ‘ตัวเปลี่ยนเกม’ (Game Changer) ในวงการสุขภาพขณะนี้มีอยู่ 3 ด้านสำคัญ นั่นคือ
-
นวัตกรรมการรักษา เทรนด์ใหม่น่าจับตาในวงการสุขภาพ
ตลาดยาและอาหารเสริมเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดยามีมูลค่าอยู่ที่ 2.2 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดอาหารเสริมมีมูลค่าสูงถึง 8.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าค่าใช้จ่ายด้านเฮลท์แคร์ในปัจจุบัน
ศาสตราจารย์ นพ.ปิยะมิตร ชี้ว่านวัตกรรมการรักษาใหม่ๆ ที่ใช้ตัว ‘ยาใหม่’ ซึ่งเป็น Game Changer คือ ‘ยาที่มีชีวิต’ ที่เรียกว่า ‘Advanced Therapy Medicinal Products’ (ATMP) โดยนำเซลล์ในร่างกายคนมาใช้รักษาโรคผ่านการตัดต่อยีน เช่น การตัดต่อยีนในเม็ดเลือดขาว CAR T-cell Therapy เพื่อทำให้เม็ดเลือดขาวจัดการกับมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนนำไปสู่การจัดตั้งบริษัท Genepeutic Bio Company Limited (GNPT) โดยเป็นการร่วมทุนของ Thai Foods Group Public Company Limited กับ สวทช.
การตัดต่อยีนยังทำได้ในอีกหลายโรค เช่น ธาลัสซีเมีย โดยตัดต่อยีนธาลัสซีเมียให้ปกติแล้วใส่กลับไปในร่างกายคนเดียว เพื่อให้ผลิตเม็ดเลือดแดงที่ปกติได้ นอกจากนี้ Xenotransplantation ก็จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางการรักษาที่น่าสนใจ โดยการนำอวัยวะหมูมาตัดต่อยีน เพื่อให้ความสามารถในการทำปฏิกิริยาจำเพาะ (Antigenicity) ของหมูลดลง เหมือนได้เนื้อเยื่อ (Tissue) ของคนมากขึ้น ในอนาคตไทยอาจมีฟาร์มหมูที่มีคุณภาพสูง มีการติดเชื้อน้อยมากๆ หรือเลี้ยงหมูปลอดเชื้อได้ ก็จะเป็นแหล่งผลิตอวัยวะสำคัญๆ อย่างหัวใจ ไต และตับ ให้กับพวกเราในอนาคต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลอง
ขณะที่สมุนไพรถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ เพราะไทยมีความหลากหลายทางสมุนไพรเป็นอย่างมาก และควรได้รับการสนับสนุน เพื่อลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะผลักดันนโยบายเพิ่มการเบิกจ่ายสมุนไพรเพิ่มขึ้นอีก 10% ในปีนี้ และลดการเบิกจ่ายยาที่มีสรรพคุณด้านเดียวกันกับสมุนไพรลดลงอีก 5% เพื่อสนับสนุนให้คนมาใช้สมุนไพรมากขึ้น เช่น ขมิ้นชันที่มีสรรพคุณแก้ท้องอืดท้องเฟ้อได้ดี จากขมิ้นชันที่อาจมีมูลค่าราว 20 บาทต่อกิโลกรัม อาจเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 บาทต่อกิโลกรัมได้ ถ้านำไปสกัดเป็น Facial Oil และเวชสำอางที่สำคัญ โดยการศึกษาล่าสุดของศิริราชพบว่าขมิ้นชันยังมีคุณสมบัติชะลอการแตกของเม็ดเลือดแดงในคนไข้ที่เป็นธาลัสซีเมียได้ อีกทั้งพืชสมุนไพรอย่างพรมมิยังมีสรรพคุณช่วยรักษาสมองเสื่อม ขณะที่ใบบัวบกสายพันธุ์ศาลายา 1 มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการผิวหนังอักเสบได้
นอกจากนี้ ยังจัดตั้งองค์กรอย่าง Clinixir ซึ่งเป็นความร่วมมือของ Bualuang Ventures และโรงเรียนแพทย์อีก 8 แห่ง โดยองค์กรนี้จะทำหน้าที่เป็น ‘ผู้จัดการในการทำวิจัย’ ให้เกิดการขึ้นทะเบียน จะเป็น Game Changer ของไทยที่ทำให้มีวิธีการผลิตยาใหม่ได้ตลอดขั้นตอน
-
Wellness Center กับการแก้โจทย์ ‘สังคมผู้สูงอายุ’ ของไทย
ศาสตราจารย์ นพ.ปิยะมิตร ระบุว่าไทยต้องเน้นเรื่อง ‘ความเป็นอยู่ที่ดี’ (Wellness) ให้เพิ่มมากขึ้น เพราะในอีก 100 ปีข้างหน้า ประชากรไทยราว 66 ล้านคน ตัวเลขคาดการณ์จะเหลือเพียงแค่ราว 27 ล้านคนเท่านั้น
ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์อาเซียนในปี 2050 จะมีประชากรสูงอายุสูงถึง 21% แต่ถ้าดูเฉพาะประเทศไทยขณะนี้เรามีประชากร 20% ที่อายุเกิน 60 ปีแล้ว ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีประชากรสูงอายุสูงมาก โดยในอีก 20 ปีข้างหน้า 1 ใน 3 ของประชากรไทยจะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งจะตามมาด้วยค่ารักษาพยาบาลที่แพงมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนหรือซ่อมลิ้นหัวใจโดยไม่ผ่าตัด จึงทำให้แนวคิดที่อยากทำให้ผู้สูงอายุมาอยู่ร่วมกันหรือทำงานให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กลายเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างที่จะนำมาใช้แก้โจทย์สังคมผู้สูงอายุของไทย เช่น การสร้าง Wellness Center อย่างที่พักผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ รวมถึงส่งเสริมการอบรมและเสริมอาชีพ ‘นักบริบาล’ (Caregiver) และสนับสนุน Living Will ให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายเสียชีวิตที่บ้านแทนโรงพยาบาล
-
เทคโนโลยีล้ำสมัยปฏิวัติการรักษาพยาบาล
ศาสตราจารย์ นพ.ปิยะมิตร กล่าวว่าแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) กลายมาเป็นผู้ช่วยการรักษาทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีการใช้ LLM รวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่าง ChatGPT มาใช้ในการช่วยรักษาและให้คำปรึกษาคนไข้ ทั้งยังพยายามสนับสนุนการรักษาทางไกล (Telemedicine) ส่งยาทางไปรษณีย์ และเพิ่มศูนย์เจาะเลือดตามจุดต่างๆ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล
ศาสตราจารย์ นพ.ปิยะมิตร ยังระบุว่าในอนาคต Game Changer ที่สำคัญคงจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนการรักษาแบบที่ต้องไปโรงพยาบาล เอารองเท้าไปเข้าคิวแบบในภาพยนตร์ หลานม่า มาเป็นการรักษาแนวใหม่ที่มี AI มาช่วยหมอในเรื่องต่างๆ เช่น อ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ หรือแปลผลแล็บ