“ต้องแยกระหว่าง ‘รีบไป’ กับ ‘อย่ารีรอ’ เพราะหลายปัญหาที่เกิดตรงหน้าแล้วเราจะทำเป็นมองไม่เห็น หรือไม่เช่นนั้นปัญหามันก็จะวนและค้างไว้แบบนี้เรื่อยๆ…
“คนในรุ่นเราถูกกดทับด้วยความกลัวมานาน แต่เมื่อถึงวันนี้มีคนเห็นแล้วว่าความกลัวเป็นมายาที่ถูกสร้าง และเราทำลายมันได้ การวิพากษ์ด้วยเหตุผลเป็นทางออกของการช่วยให้ออกจากปัญหา”
มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล สมาชิกกลุ่มราษฎร
“ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ผมเห็นด้วย แต่ว่าเราต้องมีความอดทน ต้องออร์แกไนซ์ให้มันเกิดจริง แต่ถ้ามันแตกหักไปถึงขั้นสงครามกลางเมืองนั้นคือเลวร้ายที่สุด ใช่ครับ สงครามกลางเมืองมันไม่เกิดจากฝั่งน้องหรอก แต่เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอย่าให้มันเกิดขึ้น”
บรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)
“คนรุ่นเก่ามีความสุขกับอดีต ซึ่งคนพวกนี้มักจะมีความสุขกับปัจจุบันเพราะชีวิตสุขสบายแล้ว ส่วนคนที่ไม่มีฐานะก็เหนื่อยกว่าที่จะพูดแล้ว ถ้าคนในวัยนี้อยากเห็นอนาคตที่เปลี่ยนแปลงก็เหนื่อย หมดแรงจนเสียงแผ่วเบาแล้ว”
ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“สิ่งที่แย่ที่สุดหากเราไม่ปฏิรูปอะไรเลย คือจะไม่มีการชุมนุมอีกแล้ว ทุกคนเชื่อเหมือนกันว่าไม่ต้องเปลี่ยนแปลง พลังของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงจะไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป คนรุ่นใหม่เหล่านี้จะกลายเป็น Lost Generation และเราจะไปสู่ยุคที่ไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้เลย”
กนกรัตน์ เลิศชูสกุล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย