ในยุคที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง บทบาทของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (Chief Financial Officer: CFO) ย่อมมีความสำคัญมากขึ้น โดยจะต้องสร้างสมดุลระหว่างการขับเคลื่อนผลการดำเนินงานในระยะสั้นกับการลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคต ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยี ด้านบุคลากร การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และการเข้าถึงลูกค้าด้วยวิธีการใหม่ๆ รวมไปถึงเสริมสร้างรากฐานทางการเงินอื่นๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
รายงานผลสำรวจ 2024 Pulse Survey ฉบับล่าสุดของ PwC ได้รวบรวมความคิดเห็นของผู้บริหารและ CFO จาก Fortune 1000 และบริษัทเอกชนกว่า 670 ราย ระหว่างวันที่ 15-22 พฤษภาคม 2567 เกี่ยวกับมุมมองของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญอยู่ รวมถึงแผนกลยุทธ์และลำดับความสำคัญของบริษัท โดยพบว่า:
1. CFO ให้เวลากับการวางพื้นฐานด้านการเงินและการลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น
รายงานของ PwC ระบุว่า 58% ของ CFO กล่าวว่า พวกเขากำลังทุ่มเทเวลาให้กับผลการดำเนินงานทางธุรกิจมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน CFO มากกว่าครึ่งให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินและการวิเคราะห์ (Financial Planning and Analysis: FP&A) และการจัดการผลประกอบการของธุรกิจ รวมไปปัจจัยพื้นฐานด้านการเงินอื่นๆ เช่น การรายงานทางการเงิน การจัดการความเสี่ยง และการจัดการต้นทุน เป็นต้น
นอกจากนี้พวกเขายังหันมามุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อให้องค์กรได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น โดย 58% ให้เวลามากขึ้นกับการลงทุนและการดำเนินการด้านเทคโนโลยีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ 44% กล่าวว่า การเพิ่มการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญมากในการจัดหาเงินทุนในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ แนวทางสำคัญของ CFO คือต้องมุ่งเน้นการลงทุนพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต เช่น การจัดการการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ การลดต้นทุน การลงทุนด้านเทคโนโลยี และการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาใช้เพื่อการวิเคราะห์ คาดการณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
2. CFO มีมุมมองเชิงบวกต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
แม้ว่าจะมีความท้าทายจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลก แต่รายงานกลับพบว่า มี CFO เพียง 8% เท่านั้นที่เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 6 เดือนข้างหน้า เทียบกับ 18% ของผู้บริหารที่ตอบแบบสำรวจทั้งหมด และเมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มช่วง 3-5 ปีข้างหน้า CFO ยังมองเห็นความท้าทายที่สำคัญน้อยลงที่เกี่ยวข้องกับต้นทุน (36%) และการแยกคุณค่าจากเทคโนโลยี (31%) เมื่อเทียบกับผู้บริหารคนอื่นๆ โดยรวม (42% และ 36% ตามลำดับ)
สิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือ CFO มากถึง 9 ใน 10 มองว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับความสามารถของฝ่ายการเงินเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอนาคตองค์กร ขณะที่ 44% กล่าวว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญมากในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
3. บุคลากรที่มีความสามารถเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของ CFO
ในภูมิทัศน์ที่การดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ (Talent) กลายเป็นหัวใจสำคัญสำหรับองค์กร รายงานผลสำรวจพบว่า 52% ของ CFO กล่าวว่า การจ้างพนักงานที่มีทักษะที่จำเป็นถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก นอกจากนี้ CFO ยังต้องร่วมมือกับผู้นำองค์กรและทีมผู้บริหารฝ่ายต่างๆ ในการวางแผนกลยุทธ์ขององค์กร และมุ่งเน้นการสรรหาทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถในทักษะที่จำเป็น ทั้งในด้านการเงิน และมองถึงปัจจัยด้านอื่นๆ ด้วย เช่น กฎระเบียบ และความเสี่ยงทางไซเบอร์ เป็นต้น
คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน CFO มีบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ และการมองหาวิธีใหม่ๆ ในการใช้เครื่องมือและการลงทุนเพื่อก้าวไปไกลกว่าการจัดการตัวเลขทางการเงินเพื่อดูแนวโน้มของตลาดและลูกค้า รวมถึงการสร้างผลกำไรจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่และผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยเหตุนี้ ผู้นำด้านการเงินที่ยังคงไม่ปรับตัวจึงควรต้องหันมาปรับโฟกัสการบริหารตั้งแต่วันนี้ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตและก้าวข้ามความท้าทาย รวมถึงแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงทีมากขึ้น
อ้างอิง: