ใครที่เติบโตมาในยุค 90 คงจำกันได้ดีว่าค่ายวอลต์ ดิสนีย์ ผลิตภาพยนตร์ฟีลกู๊ดออกมามากมาย และทำให้เด็กๆ ต้องไปยืมมาดูจากร้านเช่าวิดีโอ Blockbuster หรือ Tsutaya เป็นประจำ ไม่ว่าจะเรื่อง Air Bud, Flubber หรือ George of The Jungle ซึ่งอีกเรื่องหนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คงหนีไม่พ้น The Parent Trap ของผู้กำกับหญิงคนเก่ง แนนซี เมเยอรส์ เจ้าแม่ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่ต่อมาได้ทำภาพยนตร์ทั้ง Something’s Gotta Give, The Holiday และ The Intern
The Parent Trap ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์แจ้งเกิดให้นักแสดงสาว ลินด์เซย์ โลฮาน ที่ตอนนั้นเธอเพิ่งอายุ 12 ปี และกลายเป็นขวัญใจของเด็กยุค 90 ภายในชั่วข้ามคืน ก่อนที่เธอจะได้แสดงภาพยนตร์คลาสสิกอีกหลายเรื่อง เช่น Life-Size, Freaky Friday, Confessions of a Teenage Drama Queen และแน่นอน Mean Girls
The Parent Trap เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามีภรรยา นิก พาร์กเกอร์ (รับบทโดย เดนนิส เควด) และลิซ เจมส์ (รับบทโดย นาตาชา ริชาร์ดสัน) ที่หลงรักและแต่งงานกันบนเรือสำราญ Queen Elizabeth 2 แต่ตัดสินใจหย่ากันตอนเกิดลูกแฝด แอนนี เจมส์ และฮอลลี พาร์กเกอร์ (รับบทโดย ลินด์เซย์ โลฮาน ทั้งคู่) โดยลิซเลี้ยงแอนนีที่ลอนดอน ส่วนนิกเลี้ยงฮอลลีที่แคลิฟอร์เนีย แต่ 11 ปีต่อมาคู่แฝดบังเอิญถูกส่งไปแคมป์ Camp Walden ในรัฐเมน โดยทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อนว่าเป็นพี่น้องคู่แฝดและไม่ชอบหน้ากันทันที โดยทั้งคู่แกล้งกันจนโดนลงโทษให้ไปอยู่ด้วยกันในบ้านพักที่แยกจากเด็กคนอื่นๆ ในแคมป์
แต่ผ่านไปสักพักทั้งคู่ก็เริ่มเข้ากันได้และค้นพบว่าเป็นแฝด หลังได้นำภาพงานแต่งงานของพ่อแม่ที่โดนฉีกขาดเป็นสองชิ้นมาประกบกัน ซึ่งชิ้นส่วนของแอนนีเป็นรูปของคุณพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ส่วนฮอลลีเป็นรูปของคุณแม่ สิ่งนี้ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจจะสลับตัวหลังจบแคมป์ ให้แอนนีไปอยู่แคลิฟอร์เนีย และฮอลลีไปอยู่ลอนดอน เพื่อให้ได้รู้จักผู้ปกครองอีกฝั่งที่ไม่เคยเจอ และสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้ลิซและนิกต้องเจอกันตอนจะคืนลูกสาว และหวังว่าพ่อแม่พวกเขาจะหลงรักกันอีกครั้ง
ภาพยนตร์ The Parent Trap เปิดตัวเป็นอันดับ 2 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศในอเมริกา ตามหลังภาพยนตร์สงคราม Saving Private Ryan และทำเงินไปทั้งหมดกว่า 92 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายเยอรมันชื่อ Lottie and Lisa ของนักเขียน เอริช เคสต์เนอร์ ซึ่งดิสนีย์ก็เคยทำเป็นภาพยนตร์ในปี 1961 ที่กำกับโดย เดวิด สวิฟต์ และชิงออสการ์ 2 รางวัล ส่วนทางเน็ตฟลิกซ์ก็ได้นำมาฉายอีกครั้ง แต่สาวกภาพยนตร์เรื่องนี้อาจต้องรีบดูก่อนที่จะโดนถอดออกจากเน็ตฟลิกซ์ ทันทีที่ดิสนีย์เปิดตัวแพลตฟอร์มของตัวเอง