×

วงเสวนา ‘เจาะลึกบทใหม่ ในโลกใบเดิม’ แนะไทยเตรียมรับมือ เผชิญความท้าทาย 4 มิติการเปลี่ยนแปลง

โดย THE STANDARD TEAM
25.04.2024
  • LOADING...
The Next Chapter

วันนี้ (25 เมษายน) ที่ Sasin school of Management คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานหลักสูตร Mission We ร่วมเสวนา The Next Chapter ‘เจาะลึกบทใหม่ ในโลกใบเดิม’ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ดร.สันติธาร เสถียรไทย นักเศรษฐศาสตร์ และคณะกรรมการนโยบายการเงิน ร่วมพูดคุยค้นหาทางออกของภาคธุรกิจในการรับมือดิสรัปชันที่เกิดขึ้นและกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

 

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกในมิติต่างๆ ไทยจำเป็นต้องรับมือความเปลี่ยนแปลง เช่น ปัญหาสังคมผู้สูงวัยที่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ 

 

เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ มีประชากรผู้สูงวัยอายุเกิน 60 ปี มากกว่า 13 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 19 ของประชากรไทย เป็นอันดับ 2 ในอาเซียนรองจากสิงคโปร์ และมีการคาดการณ์ว่าในทศวรรษนี้จะเพิ่มไปถึงร้อยละ 28 หรือประมาณ 20 ล้านคนภายใน 10 ปี 

 

ขณะที่สัดส่วนการเกิดน้อยลงเหลือ 500,000 คนต่อปีต่อเนื่อง นับเป็นอัตราการเกิดที่ต่ำที่สุดในรอบ 71 ปี หากไม่มีการเตรียมการรับมือ ในปี 2585 ประชากรไทยอาจเหลือเพียง 30 ล้านคนเท่านั้น อีกทั้งเด็กเกิดใหม่จนถึงอายุ 15 ปี จำนวนร้อยละ 57 เกิดในครอบครัวที่ยากจน กระทบต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งร่างกายและสมอง

 

ดังนั้นถึงเวลาที่ประเทศต้องแก้ปัญหาที่โครงสร้าง โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่เผชิญกับความยากจนและปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้ประเทศขาดกำลังซื้อ ขาดแรงงาน ขาดการศึกษาที่ดี มีผลต่อ GDP ของประเทศ จะเห็นได้จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยรั้งท้ายอาเซียน ซึ่งหากผู้มีอำนาจไม่แก้ไขปัญหา และเตรียมพร้อมรับมือการลงทุนใหม่ก็จะไม่เกิดขึ้น 

 

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุอีกว่า เราจึงเสนอบำนาญประชาชน 3,000 บาท ซึ่งไม่ใช่นโยบายแจกเงิน แต่เป็นนโยบายที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสังคมผู้สูงวัย ทำให้ผู้สูงวัยมีสุขภาพดี และกลับไปทำงานได้ เป็นกำลังสำคัญช่วยกันพัฒนาประเทศ เป็นกำลังแรงงานและกำลังซื้อที่สำคัญต่อไป

 

ด้าน ดร.สุรเกียรติ์ กล่าวถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ของโลก โดยเฉพาะสถานการณ์การสู้รบในภูมิภาคต่างๆ ทั้งรัสเซีย ยูเครน อิสราเอล ฮามาส อิสราเอล อิหร่านที่มีการตอบโต้กันไปมา หรือการสู้รบในเมียนมาระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยต่างๆ ที่ก่อตัวจนเกิดความเข้มแข็งมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม มีผลต่อประเทศไทยในมิติต่างๆ ไม่มากก็น้อย 

 

จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยต้องเข้าใจสถานการณ์และวางบทบาทของประเทศอย่างถูกต้อง โดยยกตัวอย่างว่าการต่อสู้ในเมียนมาว่าในอดีตอาจต้องพูดคุยกับผู้นำรัฐบาลทหาร แต่ปัจจุบันเราจะต้องคุยกับใครจึงจะได้ข้อยุติและบทสรุปในเรื่องต่างๆ ทั้งนี้ท่ามกลางความขัดแย้ง ไทยต้องมีจุดยืนบนหลักการที่ถูกต้อง พูดในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของใคร 

 

ขณะที่ ดร.สันติธาร ระบุว่า สถานะปัจจุบันของโลกมี 4 มิติที่ดุดันขึ้นคือ มิติของการเปลี่ยนแปลงด้าน AI ซึ่งนำมาสู่การขาดแคลนแรงงาน มิติด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งจะกระทบต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค เศรษฐกิจโดยภาพรวม มิติการท่องเที่ยว รวมถึงปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมิติสงครามการค้าที่ดุดันยิ่งขึ้น ล้วนเป็นปัญหาสำคัญที่ผู้มีอำนาจต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างจริงจัง 

 

The Next Chapter The Next Chapter

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising