×

MINI เปิดตัว The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW ครั้งแรกในเอเชีย และอีก 3 รุ่น Limited ในงาน Motor Expo 2021 [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
07.12.2021
  • LOADING...
The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW

HIGHLIGHTS

  • มินิ ประเทศไทย ยกทัพยนตรกรรมรุ่นใหม่ อวดโฉมในงาน Motor Expo 2021 ภายในบูธจัดแสดงที่มาในคอนเซปต์ ‘Big Love’ สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการเปิดรับทุกความคิดด้วยทัศนคติที่เป็นบวก นำไปสู่พลังบวกในการร่วมสร้างโลก  
  • 4 รุ่นไฮไลต์ที่แฟน MINI ต้องห้ามพลาด นำทัพโดย ‘The MINI Electric Pacesetter’ เซฟตี้คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกขับขี่สนุกเร้าใจสไตล์โกคาร์ตตามแบบฉบับ MINI, ‘The MINI Clubman Jermyn Edition’ แรงบันดาลใจจาก Jermyn Street ลอนดอน, ‘The MINI John Cooper Works Hatch launched by CARNIVAL’ ตำนานของรถ Racing Spirit ตีความใหม่ในนิยามของ Street Fashion และ ‘The MINI Electric launched by Pomme Chan’ จากลายเส้นของศิลปินไทยถ่ายทอดบนหลังคา MINI Electric 
  • ยกระดับโปรแกรมบำรุงรักษา MSI พร้อมของที่ระลึกสุดพรีเมียมสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน

นอกจากแฟน MINI จะได้ยลโฉมและสัมผัส ‘The MINI Electric Pacesetter by JCW’ เซฟตี้คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก MINI ในงาน Motor Expo 2021 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 12 ธันวาคม 2564 ก่อนจะถูกส่งกลับไปยังประเทศเยอรมนี (ไม่มีเหตุผลที่คุณจะพลาด) ยังมีอีก 3 ยนตรกรรมแห่งปีที่เปิดตัวในงานเป็นครั้งแรกและมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ รวมถึงแรงบันดาลใจของสีสันและข้อความ ‘Big Love’ ที่คุณจะได้เห็นในบูธ ไปจนถึงเรื่องน่าสนใจที่ THE STANDARD อยากให้คุณรู้ก่อนไปสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเอง  



The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW

 

ตัวอักษร ‘Big Love’ และสีสันของสายรุ้ง ตัวแทนแนวคิด ‘ความแตกต่างสามารถอยู่ด้วยกันได้’ ของ MINI

สิ่งแรกที่จะปะทะสายตาคุณเมื่อเดินพ้นประตู 3 ของชาเลนเจอร์ฮอลล์ คือแถบสีรุ้งสดใสที่โดดเด่นของบูธมินิ ไทยแลนด์ โดยปีนี้ MINI ต้องการมอบความสนุกอย่างเต็มที่และเปิดพื้นที่รองรับความแตกต่างของทุกคน สะท้อนแนวคิดของ MINI ที่ว่า “We’re all different, but pretty good together” ความแตกต่างสามารถอยู่ด้วยกันได้ จึงสนับสนุนความแตกต่างหลากหลาย (Diversity) ของผู้คนไปพร้อมๆ กับผลักดันแนวคิดการสัญจรอย่างยั่งยืน (Sustainable Mobility) จึงหยิบเอาแนวคิดการออกแบบจากมหกรรมยานยนต์ IAA Mobility 2021 เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี มาถ่ายทอดภายใต้คอนเซปต์ ‘Big Love’ สร้างสรรค์โดยศิลปินชื่อดังระดับโลก Lakwena Maciver  

 

 

ประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ มินิ ประเทศไทย

 

ประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “มินิ ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่อย่างต่อเนื่องด้วยการนำเสนอความก้าวล้ำของยนตรกรรมแห่งยุคที่มาพร้อมกับการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ MINI รุ่นใหม่ให้ผู้ชมได้สัมผัสกับรถพลังงานไฟฟ้า ผสมผสานกับสมรรถนะที่มีความแรงในแบบฉบับ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ไว้ได้อย่างลงตัว เป็นโอกาสที่ดีสำหรับลูกค้าปัจจุบันและผู้สนใจในรถยนต์ MINI ที่จะได้มาสัมผัสกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด และยังได้พบกับรถยนต์ MINI อีกหลายรุ่นในงานนี้ รวมถึงรูปแบบการจัดบูธของเราในปีนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ MINI ในการผลักดันแนวคิดการสัญจรอย่างยั่งยืน และการสนับสนุนความแตกต่างหลากหลายของผู้คนภายใต้คอนเซปต์ ‘Big Love’ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานเกิดมุมมองและประสบการณ์ใหม่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” 


และนี้คือ 4 ยนตกรรมไฮไลต์ของงานในครั้งนี้ที่เราอยากให้คุณทำความรู้จักก่อนไปสัมผัสตัวจริง 

 

‘The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW’ รถเซฟตี้คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก MINI

 



 

โอกาสเดียวที่คุณจะได้สัมผัสตัวจริงของ The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW รถ MINI พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับบทบาทให้เป็น Safety Car บนสนามแข่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลกแบบใกล้ชิดก่อนที่จะถูกส่งกลับไปที่ประเทศเยอรมนีหลังจบงาน

ว่ากันว่านี่เป็นรถไฟฟ้า 100% ที่สะท้อนจุดยืนและวิสัยทัศน์ของ MINI ได้อย่างชัดเจน บทพิสูจน์ของสมรรถนะเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจสไตล์โกคาร์ตตามแบบฉบับ MINI เป็นการผสานโลกอนาคตกับตำนานในสนามแข่งของ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ได้อย่างลงตัวที่สุด

ครั้งแรกของทีมออกแบบของ MINI และ BMW Motorsport ที่ร่วมกันออกแบบ The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW ภายนอกจึงออกแบบมาเพื่อใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะ โดยนำจุดประสงค์การใช้งานมากำหนดรูปทรงของรถ และปรับองค์ประกอบการออกแบบตามดีไซน์ทางเทคนิค ทั้งการพัฒนารูปทรงของซุ้มล้อใหม่ที่ปรับให้พอดีกับความกว้างของล้อ เสริมด้วยสเกิร์ตด้านหน้า และติดตั้งสปลิตเตอร์เพิ่มเติมด้านซ้ายและขวาเพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น ส่วนโลโก้ MINI Electric ก็แสดงออกถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นหัวใจของรถเซฟตี้คาร์รุ่นนี้ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการลดน้ำหนักวัสดุให้น้อยที่สุด ทำให้รุ่นนี้มีน้ำเบากว่ารุ่นมาตรฐาน 130 กิโลกรัม เพื่อให้สามารถปลดปล่อยพลังทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.7 วินาที พร้อมโลดแล่นและรับทุกความท้าทายในสนามแข่ง 

 

 

ตัวรถสีเงินด้านตัดด้วยสี High Speed Orange และตกแต่งด้านท้ายเป็นสี Curbside Red ซึ่งเป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของ MINI Electric และ MINI John Cooper Works อย่างชัดเจน ในขณะที่ด้านหน้ายังคงแบบฉบับ MINI สุดคลาสสิก ทั้งไฟหน้าทรงกลม และกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมที่คุ้นตา ไฟสีขาวกะพริบของรถนั้นถูกรวมเข้ากับฝากระโปรงหน้าไว้ได้อย่างกลมกลืน พร้อมถ่ายทอด​ DNA ของ MINI ผ่านลวดลาย Bonnet Stripes ตั้งแต่หลังคาจนถึงท้ายรถ ส่วนหน้าของรถยนต์ออกแบบให้ปิดทึบเพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกส์ และเพิ่มดีไซน์ให้คล้ายช่องดักอากาศเพื่อระบายความร้อนให้ชุดเบรกบริเวณด้านล่างกระจังหน้าและชุดกันชนหน้าสุด

 

ด้านข้างมีชุดแอโรไดนามิกส์ที่ดุดัน สอดประสานไปกับลวดลายเรขาคณิต โดดเด่นด้วยสเกิร์ตด้านข้างทรงสปอร์ต เสริมให้เกิดภาพลักษณ์ของการพุ่งทะยานไปไปข้างหน้า สปอยเลอร์หลังออกแบบมาให้รีดลม เพิ่มความสวยงามให้กับแผ่นเบนอากาศและขอบแอโรไดนามิกส์ เพิ่มความเร้าใจด้วยล้อฟอร์จขนาด 18 นิ้วแบบ 4 ก้าน ในโทนสีดำสลับสีส้มนีออนสะดุดตา

 

ภายในติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นของรถเซฟตี้คาร์ โดยเบาะฝั่งคนขับมาพร้อมเข็มขัดนิรภัย 6 จุดที่ได้รับการรับรองสำหรับทั้งการแข่งรถและการใช้งานบนท้องถนน พวงมาลัยทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวซับแรงกระแทกของพวงมาลัยและแผงควบคุมด้านขวามือผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและทำมาเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ คอนโซลกลางคงเหลือแต่ด้ามเกียร์ เบรกมือ และสวิตช์ควบคุมไฟ ส่วนมือเปิดประตูใช้สายผ้าดึง และโรลเคจนิรภัยแบบเต็มลำ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

 

มาพร้อมพลังขับเคลื่อน 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และด้วยน้ำหนักรถที่เบากว่ารุ่นมาตรฐาน 130 กิโลกรัม จึงปลดปล่อยพลังทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.7 วินาที พร้อมโลดแล่นและรับทุกความท้าทายในสนามแข่ง

 

‘The MINI Clubman Jermyn Edition’ พิถีพิถันในแบบ Gentleman Style ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Jermyn Street ประเทศอังกฤษ

 

 

 

แฟน MINI ที่หลงใหลในเสน่ห์ความพิถีพิถันแบบ Gentleman Style และแสวงหาการใช้ชีวิตในแบบฉบับของตนเองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่น่าค้นหา คงไม่สามารถละสายตาจาก The MINI Clubman Jermyn Edition รุ่นนี้ไปได้ และบอกก่อนเลยว่ารุ่นนี้จะเข้าไทยเพียง 10 คันเท่านั้น 

 

Jermyn Street เป็นแหล่งกำเนิดเสื้อผ้าสุภาพบุรุษในลอนดอน ประเทศอังกฤษ นั่นทำให้ MINI Cooper S Clubman ถูกแต่งตัวใหม่ยกระดับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ MINI Clubman ขึ้นไปอีกขั้น ส่งเสริมภาพลักษณ์สุดประณีตให้กับ MINI รุ่นพิเศษรุ่นนี้ สง่างามด้วยสีดำ MINI Yours Enigmatic Black พร้อมด้วยดีคอลลายก้างปลา สีเงิน Melting Silver อันเป็นเอกลักษณ์ และแถบลายเส้นหนาบนฝากระโปรงหน้าที่พาดผ่านไปยังกระจังหน้า ขนานกับตรา S สีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของ Cooper S ให้กลิ่นอายของย่านแฟชั่นในอังกฤษ รวมไปถึงสัญลักษณ์พิเศษที่เสา C ที่มีลวดลายก้างปลาประทับตรา Jermyn และแถบกาบประตูด้านหน้าก็มีการออกแบบรูปแฉกแนวตั้ง เมื่อเปิดประตูจะฉายโลโก้ MINI อันเป็นเอกลักษณ์ลงบนพื้น ห้ามละสายตาจากคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างล้อ 18 นิ้ว ลาย Multiray Spoke เข้ากันได้ดีกับไฟท้าย LED ลายธงยูเนียนแจ็ก เติมเต็มสัมผัสสไตล์อังกฤษอย่างแท้จริง

 

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังลาย Leather Cross ในสีดำ Carbon Black ส่วนดีคอลที่มีชื่อ Jermyn จะอยู่บนแผงหน้าปัดด้านผู้โดยสาร อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันความบันเทิงเต็มรูปแบบ เช่น หน้าจอแสดงผลรุ่นใหม่ เพิ่มตัวเลือกของระบบควบคุมการทำงานของรถยนต์ ทั้งระบบเสียง ระบบโทรศัพท์ ระบบนำทาง และแอปพลิเคชัน มาพร้อมกับซิมการ์ด 4G ซึ่งใช้สำหรับการโทรฉุกเฉินที่เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสามารถตรวจจับตำแหน่งรถอัตโนมัติและประเมินความรุนแรงของอุบัติเหตุได้ และบริการ MINI Teleservices และข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจว่าได้เลือกใช้เส้นทางที่ดีและเหมาะสมที่สุด รองรับระบบ Apple CarPlay และการชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และยังติดตั้งระบบ Comfort Access แบบไม่ต้องใช้กุญแจ ช่วยให้ผู้ขับขี่ปลดล็อกประตูและกระโปรงหลังได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจออกจากกระเป๋า

 

ส่วนเรื่องสมรรถนะ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo และเทคโนโลยีการควบคุมการปล่อยไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยมลพิษ Euro 6 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1,998 ซีซี ให้พละกำลังที่ 192 แรงม้า เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.2 วินาที ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะแบบ Steptronic Sport 

 

‘The MINI John Cooper Works Hatch launched by CARNIVAL’ ตำนานรถ Racing Spirit ถูกตีความใหม่ในนิยามของแฟชั่นสตรีท

 

 


การจับมือกันครั้งแรกระหว่าง MINI และ CARNIVAL แบรนด์แฟชั่นสตรี ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ใหม่จากจิตวิญญาณแห่งการแข่งรถ ผสมผสานให้เกิดกลิ่นอายใหม่แห่งการขับขี่บนท้องถนน ส่ง MINI John Cooper Works Hatch รุ่นเรือธง ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณความกล้า อะดรีนาลีนความท้าทาย มาผสานกับเอกลักษณ์ดีไซน์แนวสตรีทของ CARNIVAL กลายเป็น ‘MINI John Cooper Works Hatch launched by CARNIVAL’ 

 

ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นผ่านทุกรายละเอียดการออกแบบที่โดดเด่น ตั้งแต่เฉดสีเขียวเข้มสุดคลาสสิกของตัวรถ ตัดกับเฉดสีแดงบนหลังคา เพิ่มความโดดเด่นให้กับกระจกมองข้าง กระจังหน้ารถ และสปอยเลอร์หลัง ด้วยแถบ Bonnet Stripes ในขณะที่ฝากระโปรงและด้านข้างรถได้แรงบันดาลใจจากลวดลาย CARNIVAL Warp Checkerboard พร้อมด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ของแบรนด์ CARNIVAL ทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นสปอยเลอร์ กระจังหน้ารถ ประตูหลัง ฝาถังน้ำมัน พวงมาลัย เบาะคู่หน้า เบรกมือ พรม และตัวล็อกข้างประตู

 

‘The MINI Electric launched by Pomme Chan’ สะท้อนความแตกต่าง บนเฉดที่หลากหลายจากลายเส้นของศิลปินไทยบนหลังคา MINI Electric

 

The MINI Electric Pacesetter Inspired by JCW

 


การร่วมงานกันระหว่าง MINI และ Pomme Chan ศิลปินไทยผู้เคยร่วมออกแบบโปสเตอร์งานประกาศรางวัลออสการ์ ที่ต้องการสะท้อนความแตกต่างบนเฉดที่หลากหลายไปกับ Big Love From The Rooftops ภายใต้คอนเซปต์ ‘Love is infinity’ ความรักที่มีความหลากหลาย ไม่มีข้อจำกัด บนหลังคาของ The new all-electric MINI

 

และพลาดไม่ได้เฉพาะเมื่อออกรถ MINI John Cooper Works Hatch launched by CARNIVAL ในงาน Motor Expo รับเพิ่ม MINI X CARNIVAL Lifestyle Collection ไอเท็มสุดคูลที่ดึงไอคอนิกของโลโก้ MINI และ CARNIVAL เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวทั้ง Camping Folding Wagon, XL Tote Bag, Tissue Case และ Keychain รูป CARNIVAL Bear และโลโก้ MINI ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เข้ากับไลฟ์สไตล์แนวสตรีท รวมมูลค่า 9,770 บาท* พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่า 2,000 บาท 

 

และข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายภายเมื่อออกรถ MINI รุ่นอื่นๆ ในงานไม่ว่าจะเป็น ดาวน์เริ่มต้น 0%*, รับฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี*, MSI อีก 4 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ MINI Electric จำนวน 1 คัน และข้อเสนออื่นๆ อีกเพียบ

 

แฟน MINI ช้าไม่ได้ พบกันที่ Motor Expo 2021 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธ A 16 ตั้งแต่วันนี้ – 12 ธันวาคม 2564

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X