แจ้งจริง จับจริง แบบเจ้าย่าบาหยันก็ยั้งไม่อยู่ หลัง GDH ประสบปัญหาถูกละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ร่างทรง ในประเทศไทยกว่า 800 เคส ก่อนที่ภาพยนตร์จะเข้าฉายจริงวันที่ 28 ตุลาคมนี้
ร่างทรง เป็นภาพยนตร์ร่วมทุนระหว่างไทยและเกาหลีที่กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่เคยพาหนังผีไทยไปสู่สายตาชาวโลกมาแล้วจากเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547) ร่วมสร้างสรรค์ความหลอนข้ามประเทศด้วยฝีมือโปรดิวเซอร์อย่าง นาฮงจิน ผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์มือรางวัลชาวเกาหลีใต้
ด้วยความที่เนื้อหาของภาพยนตร์ล้อไปกับความเชื่อท้องถิ่นของทั้งไทยและเกาหลี ทำให้ในตอนแรก ร่างทรง มีแพลนออกฉายในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับทางเกาหลี แต่ด้วยสถานการณ์โควิดของประเทศไทย แพลนการฉายจึงต้องเลื่อนตามมาตรการของรัฐ ด้วยระยะเวลาการเลื่อนฉายนี้บวกกับการปล่อยภาพยนตร์ในระบบสตรีมมิงของฝั่งเกาหลี ทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในประเทศไทยเป็นจำนวนมากผ่านทั้งทางเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์
ทาง GDH จึงได้จัดตั้ง War Room มาดูแลในเรื่องนี้โดยเฉพาะ พร้อมทีมงานกว่า 30 คน คอยตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจากการตรวจสอบพบการละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 800 เคส และหลายเคสเป็นเยาวชน ทางบริษัทจึงได้มีการแจ้งเตือนและไกล่เกลี่ยจนได้รับความร่วมมือหยุดการกระทำดังกล่าวกว่า 70% และส่วนที่เหลือทางบริษัทได้ยื่นเอกสารเตือนจากสำนักงานกฎหมาย ก่อนดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดไปแล้ว และกำลังประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการจับกุมต่อไป โดยมีการร่วมมือกับทางบริษัท Showbox และ Northern Cross ประเทศเกาหลี ในแง่การมอบอำนาจให้สิทธิ์การดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย รวมถึงยังได้ประสานกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อประสานหาทางปิดกั้นเว็บไซต์และลิงก์ URL ที่ละเมิดลิขสิทธิ์อีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับ ได้พูดถึงประเด็นนี้ว่า “การที่มีภาพยนตร์หลุดสปอยล์ออกมา ผมรู้สึกกังวลนะ ในฐานะของคนที่อยู่กับภาพยนตร์เรื่องนี้มาอย่างยาวนานและอยู่ในทุกขั้นตอนของภาพยนตร์ ร่างทรง เราออกแบบภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อให้เหมาะกับการดูในโรงภาพยนตร์ ทั้งระบบเสียงและภาพ ผมเชื่อว่าประสบการณ์การดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด และยังเชื่อเสมอว่าคนไทยพร้อมที่จะสนับสนุนภาพยนตร์ไทยครับ”
มีการพูดถึงกันมาเสมอว่า ศักยภาพของภาพยนตร์ไทยสามารถไปไกลถึงระดับโลกได้ และความสำเร็จของภาพยนตร์ ร่างทรง ก็ถือเป็นเครื่องยืนยันชั้นดี แต่อย่างไรก็ตาม การจะไปถึงระดับโลกได้นั้นต้องเกิดจากความเคารพในผลงานและผู้ผลิตผลงานของคนในประเทศก่อน ดังนั้นหากความฝันของวงการบันเทิงไทยคือการได้ไปโดดเด่นบนเวทีโลกแล้ว ผู้ชมทุกคนก็ควรจะสนับสนุนผลงานที่ถูกลิขสิทธิ์ และไม่ควรมีผลงานชิ้นไหนถูกนำไปฉายแบบผิดกฎหมายอีก
ชมตัวอย่างภาพยนตร์ ร่างทรง ได้ที่
