บรรยากาศดี กลับมาอร่อยได้บ่อยๆ เนื้อแกล้มสปิริตที่ The Meatchop Butcher & Spirits

จุดกำเนิดของ The Meatchop Butcher & Spirits (เดอะมีทช็อป บุตเชอร์ แอนด์ สปิริต) อยู่ที่บรรดาหุ้นส่วนซึ่งเป็นพลพรรคคนรักเนื้อที่ต้องการทำร้านเนื้อดีๆ ในบรรยากาศสบายๆ ทั้งราคายังสมเหตุสมผล เพราะอยากให้ลูกค้าสามารถกลับมารับประทานของอร่อยกันได้บ่อยๆ ร้านสเต๊กเฮาส์น้องใหม่เพิ่งเปิดให้บริการในซอยศาลาแดง 1 จึงเป็นทั้งบุตเชอร์ ซึ่งนอกจากคุณจะสามารถเลือกเนื้อดีๆ กลับไปปรุงรับประทานเองที่บ้านแล้ว ทางร้านยังมีเมนูเสิร์ฟให้นั่งกินที่ร้านสบายๆ แบบเสร็จสรรพ

The Vibe

เมื่อเดินทางมาถึงหน้าร้าน สิ่งที่สะดุดตาก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปเสียอีกคือตู้โชว์เนื้อคัตต่างๆ ที่ช่างล่อตายั่วน้ำลาย บ่งบอกได้ถึงความรักในรสชาติของเนื้อ และจุดมุ่งหมายของทางร้านที่มุ่งจะเป็นบุตเชอร์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะรับประทานอาหารได้ที่ร้านแล้ว ลูกค้ายังสามารถแวะซื้อเนื้อคัตดีๆ กลับไปปรุงตามใจปากที่บ้านได้อีก

ภายในร้านบรรยากาศสบายๆ ผสมผสานระหว่างความเป็นเดลี่ช็อปและบิสโทรสไตล์ยุโรป แต่หากพิจารณารายละเอียดให้ดีก็จะรู้สึกได้ถึงความต่าง เพราะเลือกใช้วัสดุที่คนเอเชียคุ้นเคย เช่น พื้นลายก้างปลาที่ทำจากหินอ่อนขัดมัน บริเวณด้านขวามือหน้าร้านเป็นที่ตั้งของ The Spirits Bars ซึ่งเสิร์ฟค็อกเทลที่คิดสูตรมาอย่างดีว่าเข้ากันกับการจิบกินแกล้มเนื้อ ส่วนถัดเข้าไปด้านในเป็นครัวเปิดโล่ง โชว์ให้เห็นการปรุงอาหาร

The Dishes

(ซ้าย) Thai-style Beef Tartare (ขวา) Jamon Iberico

เมนูของที่นี่โดดเด่นที่เนื้อเป็นหลัก แต่ก่อนที่จะไปถึงจานเด็ดไฮไลต์ เราขอสั่งจานเบาๆ มาเรียกน้ำย่อยกันเสียก่อน ได้แก่ Thai-style Beef Tartare (270 บาท) พล่าเนื้อคุณภาพดีหอมกลิ่นสมุนไพรรสจัด ช่วยเรียกความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี จานต่อมาเป็นทาปาส Jamon Iberico (250 บาท) แฮมหมูดำวัย 36 เดือน เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงผลไม้สดกับถั่วพิสตาชิโอ จานนี้กินแกล้มไวน์ได้อร่อยนัก

Colombian Eggs

Ribeye Prime Cut Steak

จานหลักคือ Ribeye Prime Cut Steak (300 กรัม / 1,350 บาท) สเต๊กเนื้อส่วนติดกระดูกของวัวพันธุ์แบล็กแองกัสอายุ 270 วัน จากฟาร์มในออสเตรเลีย มาร์เบิลสกอร์ระดับ 3 เสิร์ฟเคียงหน่อไม้ฝรั่งและมันฝรั่งย่าง มีซอสให้เลือกจิ้มเสริมความอร่อยถึง 4 ชนิด ได้แก่ ซอสโรเมสโก (Romesco), เมดิเตอร์เรเนียน เพสโต (Mediterranean Pesto), สไปซี่ ชิมิชูรี (Spicy Chimichurri) และน้ำจิ้มแจ่ว สำหรับเราเห็นว่าโรเมสโกและน้ำจิ้มแจ่วนั้นเด็ดสุด ด้านตัวเนื้อย่างมาระดับมีเดียมเวลล์กำลังดี แต่ถ้าคุณชอบความสุกระดับอื่นก็แจ้งกับทางร้านได้

Greixonera ทำจากครัวซองต์และคัสตาร์ด

ก่อนที่จะสิ้นสุดของคาว เรายังได้ลองเมนูบรันช์ของทางร้านกันด้วย Colombian Eggs (250 บาท) เสิร์ฟมาพร้อมกับไส้กรอกโชริโซและอะโวคาโด ซึ่งเมนูบรันช์ของที่นี่ยังมีให้เลือกอีกหลายจาน แต่จะเสิร์ฟเฉพาะช่วงเวลา ตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 น. เท่านั้น หากใครกำลังมองหาที่รับประทานบรันช์ดีๆ เราถือโอกาสแนะนำ

ตบท้ายมื้อนี้กันด้วยของหวานจานที่เราหลงรักคือ Greixonera (220 บาท) ขนมของทางสเปนซึ่งทำจากครัวซองต์และคัสตาร์ด เนื้อหอมหวานเนียนนุ่ม ท็อปอัพด้านบนด้วยไอศกรีมคาราเมล ผลไม้สด และถั่วพิสตาชิโอ

The Drinks

(ซ้าย) The Pickle Surfer (ขวา) Classic Old Fashioned

บาร์สปิริตมีดริงก์ลิสต์ที่ได้รับการคิดค้นสูตรเครื่องดื่มโดยมีโจทย์ว่าต้องจิบแกล้มเนื้อได้เข้ากันเป็นอย่างดี ทางร้านได้มิกโซโลจิสต์มือดีคือ วัชรพงษ์ สุริยะพันธุ์ แห่งบาร์ชื่อดังในย่านทองหล่อเป็นผู้คิดสูตรค็อกเทลให้ แก้วแนะนำซึ่งเป็นซิกเนเจอร์คือ The Pickle Surfer (340 บาท) ใช้น้ำแตงดองเป็นส่วนผสม แก้วนี้รสออกเค็มและเปรี้ยวนิดๆ ช่วยชูรสให้กับเนื้อได้อย่างคาดไม่ถึง ส่วนอีกแก้วคือ Classic Old Fashioned (340 บาท) ซึ่งตอนนี้ทางร้านเพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน ยังเป็นช่วงซอฟต์โอเพนนิ่งอยู่ จึงได้จัดโปรโมชันพิเศษ เมื่อสั่งอาหารจานเล็กแล้วสามารถสั่งค็อกเทลได้ในราคาพิเศษเพียง 280 บาท นอกจากนี้ยังมีคราฟต์เบียร์ทั้งไทยและเทศให้เลือกจิบอีกหลายรายการ