ในวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคมนี้ สำหรับใครหลายคนอาจเป็นเพียงวันหยุดปกติทั่วไป แต่สำหรับคอบอล โดยเฉพาะแฟนฟุตบอลที่เชียร์ทีมที่รักบนเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างทราบกันดีว่า การแข่งขันที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งหมด 10 คู่ ที่จะแข่งกันในเวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เป็นนัดปิดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019/20
THE STANDARD ขอพาผู้อ่านทุกท่านไปดูกันว่า ในการแข่งขันนัดปิดฤดูกาลที่จะมาถึง มีอะไรให้แฟนบอลได้ลุ้นและได้จับตารอเชียร์กันบ้าง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้ กับตั๋วแชมเปียนส์ลีก 2 ใบสุดท้าย
การแย่งชิงพื้นที่ท็อป 4 หรืออันดับที่ 3-4 ของตารางคะแนน น่าจะเป็นสิ่งที่ชวนให้แฟนบอลลุ้นที่สุดในบรรดาทุกการแข่งขันเกมสุดท้าย โดยคู่ที่ถูกจับจ้องมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการดวลกันระหว่างเลสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 5) ที่จะเปิดคิง เพาเวอร์ สเตเดียม รับมือกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ 3)
โดยผลการแข่งขันในคู่ข้างต้น หากต้องลงเอยด้วยการมีผล ‘ชนะ’ กับ ‘แพ้’ ก็มีโอกาสสูงสำหรับทีมที่เป็นฝ่ายปราชัยอาจต้องตกไปอยู่ในอันดับที่ 5 แต่ทั้งนี้ตัวแปรอีกอย่างที่สำคัญไม่น้อยคือ ผลการแข่งคู่ระหว่างเชลซี (อันดับ 4) กับวูลฟ์แฮมตัน (อันดับ 6) ที่ไม่ว่าจะออกมาหน้าไหน ก็ย่อมมีผลกับพื้นที่ท็อป 4 ไม่ต่างกัน
ดังนั้นแฟนบอลของทั้ง 3 ทีม ต้องร่วมส่งแรงใจและแรงเชียร์ไปถึงทีมรักของตัวเองเยอะๆ เพราะถ้าดูกันง่ายๆ ชนิดที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก คือ ใน 3 ทีมนี้ หากทีมใดชนะก็จะการันตีท็อป 4 ตีตั๋วไปเล่นถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้าทันทีแบบไม่ต้องสนใจใคร
เงื่อนไขของแต่ละทีม
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: หากบุกไปเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ จะการันตีอันดับ 3 ทันที กรณีที่เสมอหรือแพ้ ต้องลุ้นให้เชลซีไม่ชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน
– เชลซี: ถ้าชนะหรือเสมอ วูล์ฟแฮมป์ตันจะได้ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกทันที ส่วนกรณีที่แพ้ ต้องลุ้นผลระหว่างเลสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้จบลงที่ผลแพ้-ชนะเท่านั้น
– เลสเตอร์ ซิตี้: หากเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ จะได้ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกทันที ส่วนกรณีที่เสมอหรือแพ้ ต้องลุ้นให้เชลซีแพ้วูล์ฟแฮมป์ตันเท่านั้น
เก้าอี้ดนตรีตัวสุดท้ายของ 3 ทีมลุ้นหนีตกชั้น
หากเปรียบกับการละเล่นเก้าอี้ดนตรี พื้นที่ ‘อันดับ 17’ ของตารางคะแนน คงจะเป็นเก้าอี้ตัวสุดท้ายสำหรับ 3 ทีมจากโซนท้ายตาราง อย่างแอสตัน วิลลา, วัตฟอร์ด และบอร์นมัธ ที่จะต้องห้ำหั่นกันเพื่อโอกาสในการอยู่รอดบนเวทีพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
และนี่คือโปรแกรมนัดสุดท้ายของ 3 ทีมที่ลุ้นหนีตกชั้น
เวสต์แฮม – แอสตัน วิลลา
อาร์เซนอล – วัตฟอร์ด
เอฟเวอร์ตัน – บอร์นมัธ
เงื่อนไขการอยู่รอดของแต่ละทีม
– แอสตัน วิลลา: ต้องบุกไปชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด กรณีเสมอหรือแพ้ ต้องลุ้นให้วัตฟอร์ดและบอร์นมัธแพ้คู่แข่งทั้งคู่ และแอสตัน วิลลา ต้องมีลูกได้เสียที่ดีกว่า
– วัตฟอร์ด: ต้องบุกไปเอาชนะอาร์เซนอล กรณีเสมอหรือแพ้ ต้องลุ้นให้แอสตัน วิลลา และบอร์นมัธ แพ้คู่แข่งทั้งคู่ และวัตฟอร์ดต้องมีลูกได้เสียที่ดีกว่า
– บอร์นมัธ: อยู่ในสถานการณ์ลำบากกว่าทุกทีม เพราะต้องบุกไปเอาชนะเอฟเวอร์ตัน ควบคู่กับการลุ้นให้แอสตัน วิลลา และวัตฟอร์ด แพ้คู่แข่งเท่านั้น และบอร์นมัธต้องมีลูกได้เสียที่ดีกว่า
อาร์เซนอลอาจจบอันดับที่แย่ที่สุดในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่ฤดูกาล 1994/95
หากพูดกันตามเนื้อผ้า ฤดูกาล 2019/20 น่าจะเป็นปีที่อาร์เซนอลทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อวัดจากองค์ประกอบหลายอย่างของสโมสร เพราะ ณ ตอนนี้ อาร์เซนอลมี 53 คะแนน รั้งอันดับที่ 10 ของตารางคะแนนปัจจุบัน (แข่ง 37 นัด / ชนะ 13 / เสมอ 14 / แพ้ 10) ตามหลังอันดับ 9 อย่างเบิร์นลีย์ที่มี 54 คะแนน เพียง 1 แต้มเท่านั้น
หากมองเผินๆ อาจดูไม่มีอะไรที่ชวนมองเห็นความผิดปกติ แต่เมื่อคุ้ยลึกลงไปอีกนิด ในเชิงสถิติจะพบว่า ครั้งล่าสุดที่อาร์เซนอลจบฤดูกาลด้วยอันดับตัวเลข 2 หลักบนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1994/95 ที่จบในอันดับ 12
ดังนั้นในเกมนัดสุดท้ายของอาร์เซนอลที่มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมหนีตกชั้นอย่างวัตฟอร์ด น่าจะเป็นเกมที่สนุกและชวนลุ้นมากๆ เกมหนึ่งในนัดปิดท้ายฤดูกาลก็ว่าได้ เพราะถ้าพลพรรคเดอะ กันเนอร์ ไม่สามารถพาทีมจบอันดับเลขหลักเดียวได้ จะทำให้อาร์เซนอลจบอันดับที่แย่ที่สุดในรอบ 26 ปี นับจากฤดูกาล 1994/95 เลยทีเดียว
ดาวซัลโวปีนี้จะเป็นของ ‘วาร์ดี’ หรือของใคร?
อีกสิ่งที่เป็นธรรมเนียมของทุกฤดูกาลก็คือ ทำเนียบดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีก ซึ่งปีนี้ดาวยิงที่ขึ้นแท่นอยู่ในอันดับที่ 1 เวลานี้เป็น เจมี วาร์ดี ศูนย์หน้าชาวอังกฤษจากเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ตะบันไปแล้ว 23 ประตู จากการลงเล่น 34 นัด
ส่วนมือสังหารจากทีมอื่นๆ ที่ยังคงมีลุ้นคั่วรางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มีดังนี้
– อันดับ 2 คือ แดนนี่ อิงส์ ของเซาแธมป์ตัน ทำได้ 21 ประตู
– อันดับ 3 คือ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง จากอาร์เซนอล ทำได้ 20 ประตู
– อันดับ 4 มี 2 คน คือ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ของลิเวอร์พูล ร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำไปแล้ว 19 ประตู
นิค โป๊ป VS เอแดร์สัน ศึกชิงถุงมือทองคำ
รางวัลถุงมือทองคำ หรือผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก อาจจะเป็นประเด็นเล็กๆ ในสายตาคนทั่วไป แต่ไม่ใช่กับ นิค โป๊ป นายทวารจากเบิร์นลีย์ และ เอแดร์สัน มือกาวของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากทั้งสองผู้รักษาประตูที่ถูกเอ่ยถึงกำลังลุ้นเป็นเจ้าของรางวัลถุงมือทองคำ ซึ่งทั้งคู่ต้องลงสนามเฝ้าเสาให้ต้นสังกัด บนเดิมพันเกมสุดท้ายของฤดูกาล
และนี่คือสถิติตลอดฤดูกาลของผู้รักษาประตูทั้งสองคน
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล