*หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์ The Last of Us*
เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว สำหรับ The Last of Us ออริจินัลซีรีส์จาก HBO ที่หยิบนำวิดีโอเกมยอดฮิตในชื่อเดียวกันของค่ายผู้พัฒนา Naughty Dog มาดัดแปลงเป็นฉบับซีรีส์ไลฟ์แอ็กชัน โดยได้ Neil Druckmann หนึ่งในผู้กำกับเกม The Last of Us Part I-II และ Craig Mazin ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของซีรีส์ยอดฮิตอย่าง Chernobyl (2019) มารับหน้าที่เขียนบทและดูแลงานสร้าง
แม้ฉากหน้าของซีรีส์จะว่าด้วยเรื่องราวการเอาชีวิตรอดบนโลกที่ล่มสลายและเต็มไปด้วยเหล่าผู้ติดเชื้อ Cordyceps แต่ตลอดระยะเวลาร่วม 9 สัปดาห์ที่เราได้ออกเดินทางร่วมกับสองตัวละครหลักอย่าง Joel (Pedro Pascal) และ Ellie (Bella Ramsey) ก็ฉายภาพให้เราเห็นว่าหัวใจสำคัญที่ผู้สร้างต้องการนำเสนอ ไม่ใช่แค่การประโคมฉากเอาชีวิตรอดสุดระทึกหรือการฉายภาพความ ‘โหดร้าย’ ที่มนุษย์ทำกับมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น
แต่ยังพาผู้ชมไปสำรวจ ‘สายสัมพันธ์’ ของเหล่าตัวละครที่เริ่มเบ่งบานขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่แทบจะควานหา ‘ความหวัง’ ไม่พบ จนเหลือเพียงแค่ ‘สองเรา’ เท่านั้นที่จะต้องคอยประคับประคองและปกป้องชีวิตกันและกันไว้ แม้ว่าบางการตัดสินใจของพวกเขาจะไม่ถูกต้องนักก็ตาม
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- Pedro Pascal นักแสดงที่เรารัก จากบทเจ้าชายแห่งดอร์น, Din Djarin The Mando และล่าสุด The Last of Us
- ทำความรู้จักเชื้อรา Cordyceps จุดกำเนิดเชื้อรามรณะจากเกมและซีรีส์ The Last of Us
Bill-Frank: เมื่อ ‘ความรัก’ ค่อยๆ ทลายกำแพงแห่งความเกลียดชัง
หนึ่งในตอนที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้เห็นจะเป็น ตอนที่ 3 Long, Long Time ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวของ Bill (Nick Offerman) ผู้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง พร้อมกับการสร้างระบบป้องกันภัยไว้อย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อหรือใครก็ตามย่างกรายเข้ามา กระทั่ง Bill ได้โคจรมาพบกับ Frank (Murray Bartlett) ที่หลงทางเข้ามาติดกับดักโดยบังเอิญ ก็กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเขา
จากเดิมที่ Bill ยึดมั่นกับความโดดเดี่ยว ไม่เกรงกลัวกับภัยอันตราย มองทุกสิ่งอย่างเป็นศัตรู ไม่ไว้วางใจใครง่ายๆ และทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไป แต่ Frank ก็ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบของ Bill เขาเริ่มมองเห็นแง่งามของโลกใบนี้มากขึ้นผ่านแปลงสตรอว์เบอร์รีแปลงเล็กๆ เริ่มปล่อยวางจากสิ่งเดิมๆ และปล่อยให้ Frank ได้ซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนเก่าๆ ให้มีสีสันมากขึ้น เริ่มที่จะลองเชื่อใจคนแปลกหน้าอย่าง Joel และ Tess (Anna Torv) ให้เข้ามาเยี่ยมเยือน สำคัญที่สุด เขาไม่ได้ต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่เพื่อคอยปกป้องและอยู่เคียงข้าง Frank ต่อไป
ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นจาก ‘ความรัก’ ที่ Frank มอบให้กับ Bill ซึ่งค่อยๆ ทลายกำแพงแห่งความเกลียดชังของเขาลง จนทำให้เขาได้มองเห็นทิวทัศน์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยมองเห็น ได้สัมผัสกับความอบอุ่นที่มอบให้แก่กัน จนกลายเป็นความผูกพันที่เขาพร้อมจะมอบทั้งชีวิตให้กับคนที่เขารัก
“ผมแก่แล้ว ผมพอใจแล้ว และผมมีชีวิตอยู่เพื่อคุณ”
Joel-Tommy: สายสัมพันธ์พี่น้องที่แม้จะห่างไกลกันแต่ก็ไม่อาจตัดขาด
หากย้อนกลับไปในตอนที่ 1 เป้าหมายแรกเริ่มที่ผลักดันให้ Joel ตัดสินใจออกเดินทางคือการตามหาน้องชายอย่าง Tommy (Gabriel Luna) ที่หายตัวไปอย่างกะทันหัน เขาจึงตกลงรับภารกิจของ Marlene (Merle Dandridge) ในการพา Ellie ไปส่งให้กับกลุ่ม Fireflies เพื่อแลกกับแบตเตอรี่และสิ่งของจำเป็นสำหรับการออกตามหา Tommy
ซึ่งแม้ว่าเนื้อเรื่องหลักของซีรีส์จะพาเราไปโฟกัสกับความสัมพันธ์ของ Joel และ Ellie แต่กระทั่งเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่ 6 Kin ฉากการโคจรมาพบกันอีกครั้งของ Joel และ Tommy ก็สามารถอธิบายสายสัมพันธ์ที่ไม่อาจตัดขาดของสองพี่น้องให้เราได้สัมผัสอย่างแจ่มชัด ซึ่งเราต้องปรบมือให้กับการแสดงของ Pedro Pascal และ Gabriel Luna ที่ถ่ายทอดมวลความรู้สึกผ่านสีหน้าและแววตาออกมาได้อย่างลุ่มลึก จนทำให้เราต้องเสียน้ำตาไปพร้อมกับพวกเขา
ขณะเดียวกัน หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทีมสร้างพยายามสอดแทรกไว้ผ่านเรื่องราวของทั้งคู่คือ มันคงจะดีไม่น้อยหากเรามีพี่น้อง (หรือคนในครอบครัว) ที่เราจะสามารถเปิดเผยความอ่อนแอภายในจิตใจได้อย่างเต็มที่โดยไม่ถูก ‘ตัดสิน’ และพร้อมที่จะเอื้อมมือช่วยเหลือในยามที่ชีวิตเรากำลังตกอยู่ในหลุมดำอันมืดมิดและไร้ซึ่งทางออก
“นายคิดว่าฉันยังรับมือทุกอย่างได้ แต่ฉันไม่ใช่คนเดิมแล้ว ฉันอ่อนแอ”
Joel-Ellie: จากคนส่งของและสินค้า สู่สายสัมพันธ์ที่สำคัญยิ่งกว่าโลกทั้งใบ
Joel ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสูญเสียลูกสาวไปต่อหน้าต่อตาในวันแรกของการแพร่ระบาด ต้องพลัดพรากจากน้องชายที่ไม่รู้ว่าชะตากรรมเป็นอย่างไร ต้องสูญเสียเพื่อนร่วมทางอย่าง Tess ไปอย่างกะทันหัน ไปจนถึงการเฝ้ามองความสูญเสียที่เกิดขึ้นระหว่างทาง และบางครั้งก็เป็นเขาเองที่ลงมือสังหารผู้คนเพื่อเอาชีวิตรอด จึงไม่แปลกนักที่สภาพร่างกายและจิตใจของ Joel จะเต็มไปด้วยบาดแผลที่ค่อยๆ กัดกินจิตใจเขาอยู่ตลอดเวลา จนแทบจะกลายเป็นมนุษย์ที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง
แต่ดูเหมือนว่าจิตใจของ Joel ก็ค่อยๆ ได้รับการเยียวยาจากการเดินทางร่วมกับ Ellie ที่ ณ ตอนแรกทั้งคู่ก็ไม่ได้เชื่อใจกันเท่าไรนัก แต่เมื่อพวกเขาต้องช่วยเหลือกันเพื่อเอาชีวิตรอดจากวิกฤตมากมายที่ประดังเข้ามา และทำให้พวกเขาเริ่มเปิดใจให้กันทีละน้อย เริ่มแชร์เรื่องราวในอดีตให้กันฟัง เริ่มแบ่งปันความเศร้าและช่วยเติมเต็มเสียงหัวเราะให้กัน จนเกิดเป็นสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่พร้อมจะเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องกันและกันไว้
จึงไม่แปลกนักที่ในช่วงสุดท้ายของการเดินทาง เมื่อ Joel รู้ว่า Ellie กำลังจะเข้าห้องผ่าตัดเพื่อนำเชื้อ Cordyceps ในตัวของเธอไปทำเป็นยารักษาผู้คนทั่วโลก แต่ก็ต้องแลกมากับชีวิตของเธอ เขาจึงตัดสินใจบุกเดี่ยวเพื่อไปช่วย Ellie ออกมาโดยไม่สนใจชะตากรรมของโลก เพราะสำหรับเขาแล้วเด็กสาวคนนี้สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก
Ellie: เวลาคงช่วยเยียวยาทุกสิ่งมั้ง
Joel: ไม่ใช่เวลาหรอกที่เยียวยา
Ellie: ฉันดีใจนะที่คุณยิงพลาด
Joel: ฉันก็เหมือนกัน
สามารถรับชม The Last of Us ซีซันแรก ครบทั้ง 9 ตอนได้แล้วทาง HBO GO
รับชมตัวอย่างได้ที่:
ภาพ: HBO GO