วันนี้ (16 ตุลาคม) วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นำตัวแทนผู้ขายที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่บริษัทตกเป็นข่าวและถูกร้อง ทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้ จึงมาขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี
ตัวแทนผู้ขายเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกระแสข่าวและการเผยแพร่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมีเดียที่ไปในทิศทางเดียว ทำให้ฝ่ายผู้ขายได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีลูกค้าขอยกเลิกออร์เดอร์กะทันหัน ทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้ และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
ส่วนตัวเพิ่งเข้ามาทำกับบริษัทในช่วงเดือนมิถุนายน กิจการเจริญเติบโต รุ่งเรือง ไม่มีผลเสีย ซึ่งตนได้ทำงานตามระบบที่บอสบอกและมีลูกค้าประจำ แต่เมื่อเกิดกระแสสังคมที่โจมตีบริษัท ทำให้ไม่สามารถขายของได้ เบิกสินค้าไม่ได้เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนที่บอกว่าส่งของไม่ทัน ขอยืนยันว่าบริษัทมีของส่งให้ตลอด และโอนเงินตรงตามเวลาตลอด ดังนั้นวันนี้ตนและผู้ขายบางส่วนจึงมาขอความเป็นธรรมในฐานะผู้เสียหายที่ขายสินค้าได้มาตลอด
ขณะที่ตัวแทนผู้ขายอีกรายกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของการขายสินค้าออนไลน์ มีทั้งบุคคลที่ขายสินค้าได้และไม่ได้ ซึ่งตนก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้เปิดบิล 250,000 บาท ตนรู้ว่ากำลังของตนอยู่แค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาครู โค้ช และพี่เลี้ยง บอกหมดว่าการเปิดบิลมีระดับแบบไหน อย่างไร เราต้องประเมินตัวเองว่าไหวแค่ไหน และเมื่อตนลงทุนไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกกลัว แต่รู้สึกว่าต้องทำด้วยกัน เรียนไปขายไป ซึ่งปัจจุบันก็ยังขายอยู่ วันนี้ที่พวกเรามาเพราะได้รับผลกระทบจากกระแสสังคม เราขายสินค้าได้ ซึ่งเป็นสินค้าที่เรากินและใช้ และไม่อยากให้โจมตีกันไปมา แต่อยากให้เปิดใจรับฟังความเห็นที่แตกต่าง หากสินค้าไม่ดีจริงก็คงขายไม่ได้ วันนี้ตนได้มาเรียนรู้และขายออนไลน์กับดิไอคอนกรุ๊ป จึงอยากให้ทุกคนเปิดใจ
เชื่อมั่นในตัวบอสพอล
นอกจากนี้ขอยืนยันว่าที่มาวันนี้ไม่มีใครจ้างมา กล้าสาบานต่อหน้าไฟว่าวันนี้มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มาเพื่ออะไรทั้งนั้น และไม่ต้องการแบ่งแยกกับใคร เข้าใจหัวอกผู้เสียหายทุกคน แต่พวกตนก็เสียหายจากกระแสสังคมเช่นกัน จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่าบุคคลที่บอกว่าเสียหายนั้นเสียหายเรื่องอะไร และได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง
เมื่อถามว่า มีการหลอกให้ลงทุนหรือบังคับให้ลงทุนเป็นขั้นบันไดหรือไม่ ผู้เสียหายที่มาร้องเรียนทุกคนต่างตะโกนพร้อมกันว่า “ไม่มีใครบังคับ เป็นการค้าปลีก ค้าส่ง และดีลเลอร์ ตามที่บอสได้แบ่งปัน” พร้อมตะโกนพร้อมกันอีกครั้งว่า “ยังเชื่อมั่นในตัวบอสพอล เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีคำพูดไหนของบอสพอลที่ไปส่อเสียดเบียดเบียนผู้อื่น มีแต่สอนและให้คุณธรรม”
ทนายหวังพ้น 90 วัน ปปง. คืนเงิน เอามาชดใช้ผู้เสียหาย
ขณะที่วิฑูรย์เปิดเผยถึงการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากดิไอคอนกรุ๊ปว่า ตอนนี้มีการประชุมกันอยู่ว่าจะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งคนที่ขายของไม่ได้ที่เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดของตัวแทนบางคนที่ให้ไปหาคนเพิ่ม และกลุ่มคนที่นำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเราโดยไม่ได้ประเมินตนเอง ซึ่งตามที่ตนเห็นในข่าวคนกลุ่มนี้สิ้นเนื้อประดาตัว บางคนโดนภรรยาไล่ออกจากบ้าน ทางดิไอคอนกรุ๊ปจะออกประกาศแบบมีเงื่อนไข ให้มาลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน ให้เราตรวจสอบว่าเสียหายจริงหรือไม่ ซื้อของแล้วได้รับสินค้าจริงหรือไม่ และจะมีการช่วยเหลือบรรเทาให้
เมื่อถามว่า แต่ในตอนนี้บอสพอลถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์ จะกระทบต่อเงินที่นำมาเยียวยาผู้เสียหายหรือไม่ วิฑูรย์กล่าวว่า หากพูดจริงๆ ก็กระทบ แต่คงจะต้องหาทางเพื่อนำทรัพย์สินตรงนี้มาจ่ายให้ผู้เสียหาย ซึ่ง ปปง. ได้อายัดทรัพย์ไว้ 90 วัน ตนก็มีความหวังว่าให้ผู้เสียหายลงชื่อไว้ก่อน อีก 90 วันเมื่อได้รับเงินกลับคืนมาอาจจะใช้เงินส่วนนี้มาจ่ายให้ก็ได้ ส่วนที่ ปปง. มองว่ามีการโยกย้ายทรัพย์สินแบบผิดปกติ เชื่อว่า ปปง. ก็ทำตามหน้าที่ ตนไม่ขอก้าวล่วง และเมื่อวานได้เจอกับบอสพอล เจ้าตัวก็พูดไม่ออก ซึ่งไม่ได้คุยกันในรายละเอียด
เมื่อถามว่า ดาราที่เป็นบอสต้องมีส่วนร่วมในการนำเงินมาชดใช้ให้ผู้เสียหายหรือไม่ วิฑูรย์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนว่าไม่เกี่ยวกับเขา ให้ทางบอสพอลรับจบดีกว่า ส่วนบอสที่เป็นดาราจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจ ตนไม่รู้ว่าตำรวจจะมองอย่างไร ให้ตำรวจทำหน้าที่ไปตามกระบวนการ
ส่วนกรณีที่ตัวแทนฆ่าตัวตายจากการขายสินค้าไม่ได้นั้น ทางบอสพอลจะมีการติดต่อไป ซึ่งได้ประสานงานเบื้องต้นไปแล้ว
ทนายรับ บอสพอลเครียด เชื่อมั่นธุรกิจเดินหน้าต่อได้
เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวบุคคลอักษรย่อ ธ ที่เป็นนักการเมือง มาเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป วิฑูรย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ มีแต่คนที่ออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ชื่อ ธเนตร วงษา อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ไม่น่าจะเป็น ธ ที่เป็นนักการเมือง ซึ่งตนที่เป็นทีมกฎหมายก็ไม่เคยเจอนักการเมืองเข้ามาวุ่นวาย
ส่วนกรณีที่บอสพอลบอกให้สื่อลบคลิปเสียงสนทนากับนักการเมือง ไม่เช่นนั้นจะฟ้อง มีการกำชับว่าจะฟ้องสื่อใดบ้าง วิฑูรย์กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ทราบและไม่ใช่ตน ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนั้นบอสพอลเป็นอย่างไร น่าจะกำลังเครียด และตอนนี้ได้ลบโพสต์ไปแล้ว พร้อมระบุว่า ตนจะไปฟ้องสื่อทำไม มันไม่มีประโยชน์
เมื่อถามว่า หลังจากที่บอสพอลไปออกรายการ 2 รายการมีความรู้สึกเครียดหรือไม่ วิฑูรย์กล่าวว่า กระแสออกมาขนาดนี้ก็ต้องเครียด พูดตรงๆ ก็ต้องเครียด เป็นตนตนก็เครียด ส่วนการเตรียมพร้อมเรื่องการถูกดำเนินคดียังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอดูข้อกล่าวหาจากตำรวจก่อน ตนถึงจะสามารถพยากรณ์ได้ แต่ขออนุญาตยังไม่พูด ขอให้เป็นความลับทางคดี
เมื่อถามว่า ยังเชื่อมั่นอยู่หรือไม่ว่าธุรกิจนี้จะยังสามารถดำเนินต่อไปได้ วิฑูรย์กล่าวว่า ตนยังมีความเชื่อมั่น และสงสารตัวแทนที่ขายของได้ อย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อ แต่รูปแบบธุรกิจตามที่พูดไว้ในรายการคือไม่รับตัวแทนใหม่
