The Gray Man คือภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องล่าสุดของสองผู้กำกับ Anthony และ Joe Russo ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Captain America: The Winter Soldier (2014) ที่นำซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจมหาชนมาปรุงแต่งด้วยรสชาติของภาพยนตร์สายลับ หักเหลี่ยม เฉือนคม โดยภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีในชื่อเดียวกันของ Mark Greaney และได้สองนักแสดงระดับแถวหน้าอย่าง Ryan Gosling และ Chris Evans มาร่วมประชันบทบาท
The Gray Man ว่าด้วยเรื่องราวของ Court Gentry (Ryan Gosling) โค้ดเนม SIX มือสังหารมากฝีมือจากโครงการเซียล่าของซีไอเอ ได้รับภารกิจลับสุดยอดให้มาลอบสังหารอาชญากรตัวเป้ง แต่เมื่อภารกิจสิ้นสุด SIX กลับค้นพบข้อมูลลับที่เต็มไปด้วยความดำมืดของหัวหน้าซีไอเอเสียอย่างนั้น SIX จึงต้องหลบหนีจากการตามล่าของ Lloyd Hansen (Chris Evans) ทหารรับจ้างที่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อปิดปากเขา แม้จะต้องแลกกับชีวิตของผู้บริสุทธิ์ก็ตาม เรื่องราวการเผชิญหน้าระหว่างสองมือสังหารมากฝีมือจึงเริ่มต้นขึ้น
Ryan Gosling และ Chris Evans นับว่าเป็นสองนักแสดงที่ต่างเคยสวมบทบาทเป็นตัวละครสำคัญที่เป็นที่จดจำของผู้ชมมาแล้วหลายเรื่อง ทั้ง Ryan Gosling กับภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าเรื่อง The Notebook (2004), La La Land (2016) หรือภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์อย่าง Blade Runner 2049 (2017) ส่วน Chris Evans ก็นับว่าเป็นนักแสดงที่ผู้ชมทั่วโลกจดจำได้เป็นอย่างดีในบทบาทของ Captain America แห่งจักรวาล MCU ดังนั้นแล้วการได้เห็นชื่อของทั้งคู่ที่จะมาดวลปืนชนหมัดกันใน The Gray Man จึงทำให้เราตัดสินใจกดเข้าไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่ลังเล
ซึ่งแม้ว่าภาพยนตร์จะได้คะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก (ได้คะแนนจากเว็บ Rotten Tomatoes ไปเพียง 49%) แต่ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า The Gray Man เป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยฉากแอ็กชันอันดุเด็ดเผ็ดมันสมการรอคอยทีเดียว ตั้งแต่ฉากไล่ล่าบนถนน สาดกระสุนใส่กันแบบไม่ยั้งกลางเมืองใหญ่ หนีตายบนเครื่องบินกลางเวหา ไปจนถึงการดวลหมัดตัวต่อตัวที่ดุดัน เรียกได้ว่าสองพี่น้อง Russo สร้างสรรค์ฉากแอ็กชันมาให้เราชมกันแบบไม่ได้พักหายใจตลอด 2 ชั่วโมง และสร้างความสนุกสนานลุ้นระทึกให้กับเราได้ตลอดทั้งเรื่องจริงๆ
และจุดที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของภาพยนตร์จริงๆ เห็นจะเป็นการแสดงของ Ryan Gosling และ Chris Evans ที่ไม่มีใครโดดเด่นมากน้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะ Chris Evans กับบทบาทของ Lloyd ทหารรับจ้างจอมโหดที่มาพร้อมกับสีหน้า แววตา และรอยยิ้มที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความอันตราย และไม่น่าไว้วางใจของตัวละครตัวนี้อย่างแจ่มชัด
ขณะที่ Ryan Gosling กับบทบาทของสายลับฝีมือฉกาจอย่าง SIX ก็คงจะไม่มีคำไหนที่นิยามตัวละครนี้ได้ไปดีกว่าคำว่า ‘เท่’ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม บทพูดกวนๆ ฉากหลบหนีจากดงกระสุนปืน ไปจนถึงการดวลหมัดกับ Chris Evans ในฉากสุดท้าย เขาก็นำเสนอบทบาทนี้ออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ไม่แพ้ Chris Evans จริงๆ
ส่วนจุดด้อยสำคัญที่ทำให้กราฟความสนุกของภาพยนตร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด น่าจะเป็นเรื่องของการปูความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครภายในเรื่องที่ดูเบาบางไปสักหน่อย ทั้ง Claire (Julia Butters) เด็กสาวที่ SIX เคยได้รับภารกิจคุ้มครองเธอมาก่อน แต่ภาพยนตร์กลับเลือกที่จะเล่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้เราทำความรู้จักแค่พอสังเขปเท่านั้น รวมถึง Dani Miranda (Ana de Armas) ที่บทบาทของเธอดูจะยังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก ว่าปมปัญหาของเธอคืออะไร หรือมีจุดยืนแบบไหน ทั้งหมดนี้มันจึงทำให้การคลี่คลายปมปัญหาในช่วงท้ายของเรื่องยังดูคลุมเครือ และไม่สามารถทำให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็น
ในภาพรวมแล้ว The Gray Man ถือเป็นภาพยนตร์แอ็กชันจากฝีมือการกำกับของ Anthony และ Joe Russo ที่สร้างสรรค์ฉากไล่ล่าต่างๆ ออกมาได้อย่างดุเดือดและสนุกสนาน ชวนให้เรารู้สึกลุ้นระทึกไปกับการเอาตัวรอดของ SIX ได้ตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงการแสดงของสองนักแสดงนำอย่าง Ryan Gosling และ Chris Evans ที่มีเสน่ห์ชวนติดตามไม่แพ้กัน แต่ตัวผู้เขียนอาจจะรู้สึกติดขัดในแง่เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง SIX และตัวละครรอบข้างที่ดูไม่ชัดเจน จนทำให้เราไม่ได้รู้สึกอินไปกับประเด็นต่างๆ ที่ภาพยนตร์พยายามนำเสนอ
The Gray Man เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ทาง Netflix
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
ภาพ: Netflix