×

The Creator ทิวทัศน์เมืองไทยในบรรยากาศไซไฟโลกอนาคต และฉากสงครามอันตึงเครียดชวนหมองหม่น

30.09.2023
  • LOADING...
The Creator

ในที่สุดก็เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ The Creator ภาพยนตร์ไซไฟ-ดราม่าสุดเข้มข้น ผลงานล่าสุดจากผู้กำกับ Gareth Edwards ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Godzilla (2014) และ Rogue One: A Star Wars Story (2016) ที่จะพาผู้ชมก้าวเท้าเข้าสู่สงครามระหว่างหุ่นยนต์ AI และมนุษย์ พร้อมได้ทัพนักแสดงมากฝีมือมาร่วมรับบทนำ ทั้ง John David Washington, Gemma Chan, Ken Watanabe, Sturgill Simpson, Allison Janney และ Madeleine Yuna Voyles

  

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 2060 เมื่อหุ่นยนต์ AI ที่ถูกสร้างมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและปกป้องมนุษย์ ตัดสินใจจุดระเบิดหัวรบนิวเคลียร์ลงใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลสหรัฐฯ จึงตัดสินใจเปิดฉากสงครามกับหุ่นยนต์ AI อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการสร้าง NOMAD ยานรบทรงประสิทธิภาพเพื่อโจมตีฐานที่มั่นของหุ่นยนต์ AI ที่ตั้งอยู่ ณ นิวเอเชีย พื้นที่ที่มนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกับหุ่นยนต์ AI อย่างเท่าเทียม  

 

สงครามดำเนินมายาวนานกว่า 10 ปี วันหนึ่ง Joshua (John David Washington) เจ้าหน้าที่พิเศษมากฝีมือ และทีมของเขาได้รับภารกิจสำคัญให้ออกตามหาและสังหาร The Creator ผู้ออกแบบ AI ระดับสูงที่กำลังอยู่ระหว่างการผลิตอาวุธสังหารลับ เพื่อยุติสงครามในครั้งนี้ และอาจนำมาสู่การสูญสิ้นของมนุษยชาติ แต่เมื่อ Joshua เดินทางไปถึง อาวุธสังหารที่พวกเขาค้นพบกลับกลายเป็นเด็กหญิงคนหนึ่ง   

 

 

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนตั้งตารอชม The Creator นั่นคือชื่อของผู้กำกับ Gareth Edwards เพราะส่วนตัวเราค่อนข้างชื่นชอบสองผลงานก่อนหน้าของเขาอย่าง Godzilla และ Rogue One: A Star Wars Story มากพอสมควร โดยเฉพาะ Rogue One ที่ผู้กำกับและทีมสร้างพาผู้ชมไปสัมผัสกับบรรยากาศอันตึงเครียด และกลุ่มตัวละครสีเทาๆ ในจักรวาล Star Wars ได้อย่างน่าสนใจ 

 

อีกทั้งเมื่อทราบข่าวว่า The Creator เดินทางมาถ่ายทำในสถานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศไทยใน 16 จังหวัด ก็ยิ่งชวนให้เราอยากติดตามมากขึ้นไปอีกขั้นว่า ผู้กำกับและทีมสร้าง ซึ่งมีทีมงานเบื้องหลังชาวไทยอยู่นับร้อยชีวิต จะรังสรรค์ทิวทัศน์ที่เราคุ้นตาออกมาในบรรยากาศของภาพยนตร์ไซไฟโลกอนาคตในรูปแบบไหน 

 

 

และดูเหมือนว่า The Creator จะเป็นภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่พิสูจน์ให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นว่า ทีมงานโปรดักชันชาวไทยเปี่ยมล้นไปด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยม ทั้งการสร้างสรรค์อาวุธประกอบฉากรูปแบบต่างๆ หรือการออกแบบเครื่องแต่งกายของชาวบ้านและหุ่นยนต์ AI ในนิวเอเชีย การเนรมิตสถานที่สำคัญๆ เช่น ปราสาทสัจธรรม ในจังหวัดชลบุรี, สะพานมอญ ในจังหวัดกาญจนบุรี หรือสถานีรถไฟแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มักกะสัน ฯลฯ ที่ผสมผสานโลกไซไฟไว้ได้อย่างลงตัว รวมถึงทีมนักแสดงสมทบชาวไทยที่ต่างก็เข้ามาช่วยเติมเต็มให้เรื่องราวและบรรยากาศของภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น 

 

ซึ่งหากใครที่มีแผนจะเดินทางไปรับชม The Creator ผู้เขียนก็ขอชวนให้คุณอย่าเพิ่งรีบลุกออกจากที่นั่ง และรอชมเครดิตในช่วงท้ายเรื่องกันสักหน่อย เพราะเราจะได้เห็นรายชื่อของทีมงานชาวไทยมากฝีมือที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องนี้มากมายจริงๆ 

 

 

ตัดสลับมาที่องค์ประกอบอื่นๆ ของเรื่อง ส่วนตัวผู้เขียนแอบรู้สึกว่า The Creator อาจไม่ได้มีฉากแอ็กชันที่ใหญ่โตมากนักเมื่อเทียบกับ Rogue One ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะด้วยทุนสร้างที่แตกต่างกัน (The Creator ใช้ทุนสร้างประมาณ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Rogue One ใช้ทุนสร้างสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) 

 

แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนความเข้มข้นของฉากแอ็กชันลงแม้แต่น้อย เพราะจุดเด่นสำคัญของ The Creator คือผู้กำกับและทีมสร้างสามารถถ่ายทอดบรรยากาศอันตึงเครียดท่ามกลางสงครามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ AI ให้เราได้สัมผัสอย่างเด่นชัด ผ่านงานภาพสุดประณีตจาก Greig Fraser และ Oren Soffer ดนตรีประกอบจากปลายปากกาของ Hans Zimmer รวมถึงการแสดงของทีมนักแสดงนำ ทั้งผู้รับบทมนุษย์จริงๆ หรือผู้ที่แสดงเป็นหุ่นยนต์ AI ที่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ ‘ปกป้อง’ พวกพ้องและ ‘เอาชีวิตรอด’ จากสนามรบครั้งนี้ไปให้ได้ จนส่งให้ฉากแอ็กชันต่างๆ ภายในเรื่องนั้นอันแน่นไปด้วยความกดดัน มืดหม่น ในแบบฉบับของภาพยนตร์สงครามที่สมจริงสมจัง แม้ว่าฉากหลังของเรื่องจะเป็นไซไฟโลกอนาคตก็ตาม 

 

 

ขณะเดียวกัน เรื่องราวของตัวละครหลักอย่าง Joshua ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ส่งให้ The Creator เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่เปี่ยมไปด้วยมวลอารมณ์ของตัวละคร กับการวิ่งฝ่าดงกระสุน หลบหนีจากการตามล่าของทั้งฝ่ายหุ่นยนต์ AI และฝ่ายมนุษย์ และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อขอให้ได้พบหน้ากับ Maya (Gemma Chan) ภรรยาที่หายตัวไปนานหลายปีอีกครั้ง 

   

หรือจะเป็นเรื่องราวจากฝั่งหุ่นยนต์ AI ที่นำโดย Harun (Ken Watanabe) ที่ภาพยนตร์พาเราเข้าไปสำรวจแง่มุมของพวกเขาที่ต่างก็มีสายสัมพันธ์ ความรัก ความห่วงใยให้แก่กัน ทั้งหุ่นยนต์ต่อหุ่นยนต์ หรือหุ่นยนต์ต่อมนุษย์ จนทำให้เรามีความรู้สึกร่วมทุกครั้งเมื่อเห็นหุ่นยนต์ต่างๆ ถูกทำลายท่ามกลางสนามรบ 

 

อย่างไรก็ตาม The Creator ก็มีจุดที่เราแอบเสียดายอยู่เช่นเดียวกัน นั้นคือพาร์ตของตัวละคร Joshua และ Alphie (Madeleine Yuna Voyles) ที่ผู้กำกับและทีมสร้างนำเสนอการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ออกมาไม่ลึกซึ้งกินใจเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะภาพยนตร์นำเสนอพาร์ตความสัมพันธ์รวดเร็วไปสักหน่อย ไม่ได้มีฉากที่ปล่อยให้เราซึมซับไปกับเรื่องราวและมวลความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกัน จึงส่งผลให้เราไม่รู้สึกผูกพันกับเรื่องราวของทั้งคู่อย่างที่ควรจะเป็น  

 

 

ในภาพรวมแล้ว The Creator คือภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์จากผู้กำกับ Gareth Edwards ที่สมการรอคอยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานโปรดักชันสุดตื่นตา การถ่ายทอดบรรยากาศของสงครามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ AI ที่ตึงเครียดชวนหมองหม่น ไปจนถึงเรื่องราวของตัวละครทั้งฝั่งของมนุษย์และฝั่งหุ่นยนต์ AI ที่เปี่ยมไปด้วยหัวใจ 

 

อีกทั้งภาพยนตร์ก็มีประเด็นสำคัญอีกหลายเรื่องที่ถูกสอดแทรกไว้ผ่านบทสนทนาของตัวละครและเหตุการณ์น้อยใหญ่ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เราได้ลองตีความอย่างอิสระอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่มุมของการตั้งคำถามต่อรัฐหรือผู้มีอำนาจ ที่หลายครั้งพวกเขาก็เสริมแต่งเรื่องราวบนหน้าประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการตัดสินใจของตัวเอง พร้อมหลอกลวงผู้คนให้ ‘เชื่อ’ ในสิ่งที่พวกเขาอยากให้เชื่อ และ ‘เกลียดชัง’ ผู้คนที่พวกเขาอยากให้เกลียด จนนำมาสู่ความสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่บางทีฝ่ายตรงข้ามอาจไม่ได้มีพิษภัยอย่างที่รัฐหรือผู้มีอำนาจกล่าวอ้างเสียด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็คือมนุษย์ที่มีจิตใจ มีคนที่รักและห่วงใยเช่นเดียวกับเรา 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่:

 

 

ภาพ: 20th Century Studios

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising