วัน Black Friday หรือวันศุกร์ที่ถัดจากวันขอบคุณพระเจ้าถือเป็นวันช้อปปิ้งใหญ่ในสหรัฐฯ ที่คนจะออกมาจับจ่ายซื้อของรับช่วงคริสต์มาสที่จะถึง ซึ่งช่วงเวลานี้ของทุกปี ห้างสรรพสินค้า แบรนด์ต่างๆ จะออกโปรโมชันมาแข่งกันดึงดูดลูกค้า ทำให้หน้าร้านและย่านช้อปปิ้งคึกคักด้วยผู้คนจากหลากหลายพื้นที่
โดยปี 2562 แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะกังวลว่าสินค้าในสหรัฐฯ อาจราคาสูงขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมายังสหรัฐฯ แต่ปีนี้ห้างร้านและบริษัทค้าปลีกทั้งหลายยังออกโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้าเช่นเคย
แต่ Black Friday ในสหรัฐฯ ปีนี้ย้ายไปบูมบนโลกออนไลน์ ข้อมูลจาก Adobe Analytics พบว่า ธุรกรรมของผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ มียอดขายจาก Black Friday ออนไลน์ถึง 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 225,000 ล้านบาท ) เพิ่มขึ้น 20.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ขณะที่ข้อมูลจาก Salesforce ยอดขายออนไลน์วันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ อยู่ที่ 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 123,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 17% โดยรายได้ออนไลน์ทั่วโลกอยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 600,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 24%
ทั้งนี้เทรนด์ของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯ ทั้ง Walmart, Target, Costco, Best Buy มีบริการส่งสินค้า รวมถึงการเพิ่มจุดรับสินค้าที่ร้านสาขาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าบริษัทค้าปลีกหันมาทำโปรโมชันเร็วขึ้น เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลต่างๆ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: