×

‘ขอบคุณ’ เริ่มต้นพลังด้านบวกของหัวใจ

08.03.2024
  • LOADING...
การขอบคุณ

จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการขอบคุณไว้ว่า การเอ่ยคำ ‘ขอบคุณ’ เป็นกิริยาวาจาที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยสงวนปากสงวนคำ ไม่ยอมพูด หรือไม่ยอมแสดงกิริยาขอบคุณให้ปรากฏ ราวกับเกรงว่า ‘ดอกพิกุลจะร่วง’ อะไรทำนองนั้น

 

ใช่หรือไม่ว่าคนจำนวนหนึ่งนั้น

 

  1. ถือว่าการขอบคุณต้องเป็นเรื่องใหญ่เท่านั้น เช่น ได้รับของขวัญมูลค่ามาก ได้รับแต่งตั้งให้รับตำแหน่งใหญ่ ได้รับโอกาสทางธุรกิจหรือทางอื่นใดที่มีผลตอบแทนสูง

 

ถ้าเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ได้รับ เช่น ชงกาแฟให้ ช่วยกดลิฟต์ให้ ช่วยถือของให้ ก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำขอบคุณ

 

  1. ถือว่าการขอบคุณจะให้กับคนที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า เช่น เขาเป็นพ่อแม่ เป็นญาติผู้ใหญ่ เป็นครูบาอาจารย์ เป็นเจ้านาย ณ ที่ทำงาน เป็นคนฝากงานให้ ใครที่เด็กกว่า อ่อนวัยกว่า ไม่จำเป็นต้องรับคำขอบคุณจากเรา

 

  1. จะขอบคุณเฉพาะคนใกล้ตัวเท่านั้น เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ผู้บังคับบัญชา คนที่อยู่ห่างออกไปไม่มีความจำเป็นต้องไปขอบคุณอะไร โดยคิดเสียว่า ‘เขาไม่ได้มาทำอะไรให้เรา’

 

  1. จะขอบคุณผู้คนแต่เราละเลยที่จะรู้สึกขอบคุณธรรมชาติที่เอื้ออาทรต่อสรรพชีวิต ไม่มีลมเราจะหายใจดำรงชีวิตอย่างไร ไม่มีน้ำเพียงวันเดียวก็จะสิ้นลมหายใจแล้ว ไม่มีป่าก็จะไม่มีต้นน้ำ ไม่มีฟ้าน้ำฝนจะมาจากทางไหน ไม่มีดินจะมีข้าวพืชผักและผืนดินให้เราเหยียบยืนได้อย่างไร

 

  1. ละเลยการขอบคุณต่อสรรพสิ่งรายรอบตัว ราวบันไดบ้านที่ใช้เกาะขณะขึ้นลงคืออุปกรณ์ช่วยชีวิตไม่ให้ล้ม จานช้อนส้อม ตะหลิว เตา ช่วยให้เรามีอาหารการกิน ราวผ้าที่หลังบ้านทำให้เสื้อผ้าแห้ง เตารีดที่รีดเสื้อก็ช่วยการแต่งกายของเรา ถนนที่มีคนสร้างไว้ให้รถวิ่ง ให้คนเดิน สวนสาธารณะที่ให้ผู้คนได้ใช้ออกกำลัง สูดลมหายใจได้เต็มปอด รถสาธารณะ เครื่องบินโดยสาร ทั้งปวงทำให้เราถึงที่หมายตามต้องการ ทั้งหมดนี้มีบุญคุณต่อเรา

 

  1. มองข้ามสภาพสัปปายะ ‘สัปปายะ’ เป็นคำพระ หมายถึง สบาย สภาพที่เกื้อหนุน สภาพเอื้ออำนวย ที่มีคนสร้างคนทำขึ้นอย่างเป็นระบบเพื่อความสะดวกในขั้นตอนต่อไป เช่น ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (30 บาท) ซึ่งทำให้ผู้คนเข้าถึงการรักษาสุขภาพโดยสะดวก

 

ป้ายจราจรทำให้เราสบายใจว่าตรงแยกนี้เดี๋ยวไฟแดงก็จะเปลี่ยนเป็นเขียวให้เราไปได้

 

ใครที่ขึ้นรถไฟฟ้าจะรู้ดีว่า เมื่อเราขึ้นไปถึงชานชาลาที่รถเข้าเป็นจังหวะพอดีกับรถเพิ่งออกไป เราไม่เดือดเนื้อร้อนใจว่าตกรถ เพราะรู้ว่าอีก 3 นาทีรถไฟฟ้าอีกคันก็จะมาให้เราได้โดยสาร

 

ใครไปต่างจังหวัดจะต้องค้างคืน สิ่งแรกที่ถามหาคือการเช็กอินที่โรงแรม เมื่อเช็กอินได้กุญแจห้องแล้ว นั่นคือความสบายใจว่าคืนนั้นมีห้องให้นอนแล้ว

 

ไปเดินห้างที่ไหนมีบันไดเลื่อนขึ้นลง ช่วยผ่อนแรงขาให้เราได้มากมาย

 

  1. มองข้ามสิ่งที่อยู่ติดกับตัว ถ้าเราไม่มีตา ไม่มีมือ ไม่มีนิ้ว ไม่มีหู ไม่มีจมูก ไม่มีลิ้น ไม่มีใจสัมผัส ไม่มีแขน ไม่มีขา ไม่มีเข่า ไม่มีข้อศอก เราจะใช้ชีวิตอย่างไรได้  

 

มองลึกลงไปถึงอวัยวะภายใน เพียงระบบการไหลเวียนของเลือดที่แสนมหัศจรรย์ในร่างกายตั้งแต่ศีรษะไปจรดปลายเท้า ทำให้อวัยวะทุกส่วนคงอยู่และเคลื่อนไหวได้ 

 

ยิ่งการทำงานของสมองด้วยแล้ว ใครสร้างไว้ก็ไม่รู้ แต่มันทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงความจริง ความดี ความงาม อันเป็นเป้าหมายสูงส่งของมนุษย์

 

  1. ในยุคแห่งความก้าวหน้าและก้าวเร็วของระบบเทคโนโลยีการสื่อสาร มือถือหรือเครื่องมือออนไลน์ต่างๆ กลายเป็น ‘ยาเสพติดขนานใหม่’ ที่คนทั่วโลกยอมรับกัน และรู้คุณว่าเป็นสิ่งที่จะขาดเสียมิได้

 

อยากดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อยากเห็นโลกใต้น้ำ อยากเล่นเกมสารพัดแบบ อยากเล่นการพนันออนไลน์ อยากดูหนังยอดเยี่ยมของโลก อยากตรวจสุขภาพ อยากถามสิ่งที่ต้องการรู้ อยากเสาะหาร้านอาหารที่ถูกใจ อยากสั่งอาหารกิน อยากสั่งซื้อของทางออนไลน์ สารพัดอยาก บำบัดได้ด้วยแอปพลิเคชันสารพันอย่าง

 

แม้ว่า Google Maps จะพาเราหลงทางหลายครั้งหลายหน แต่ส่วนใหญ่เราถึงที่หมายได้มากครั้งกว่า

 

นี่คืออานุภาพอัศจรรย์ของจอไฟฟ้าที่ทั่วโลกต้องอาศัยมัน ทำให้คนอยู่ไกลมาใกล้กัน แต่สังคมก้มหน้าก็ทำให้คนอยู่ใกล้กลับห่างไกลกัน ประโยชน์กับโทษจึงเป็นเหมือนคู่แฝดที่เดินคู่ขนานกันไปในโลกของนวัตกรรม

 

  1. แล้วบูรพกษัตริย์และผู้คนในประวัติศาสตร์ล่ะ รู้สึกขอบคุณหรือไม่ พ่อขุนรามคำแหง ผู้ประดิษฐ์อักษรไทย ปรับเปลี่ยนและใช้กันมาจนทุกวันนี้ พระเจ้าตากสินที่รวบรวมกำลังสู้รบกับพม่ากอบกู้กรุงศรีอยุธยาได้ ชาวบ้านบางระจันที่ร่วมกันต้านยันทัพพม่าอย่างสุดชีวิต เพื่อรักษากรุงศรีอยุธยาเอาไว้ เป็นจิตใจสู้รบทั้งๆ ที่รู้ว่าจะรบแพ้ แต่ขอพลีชีพรักษาเมืองไว้ก่อน

 

ถ้าไม่มีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไทยจะเป็นเมืองขึ้นพม่าหรือไม่

 

ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าหลวงไทยอาจตกเป็นของฝรั่งเศส ล้านนาจะกลายเป็นอีกประเทศหนึ่งที่อยู่นอกอาณาจักรสยาม

 

ถ้าไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 ไฉนเลยประเทศไทยจะรอดพ้นจากทฤษฎีโดมิโนที่ประเทศใกล้เคียงอื่นๆ ต่างเผชิญกันมาแล้ว

 

ใช่หรือไม่ว่า บุคคลไกลตัวในประวัติศาสตร์ล้วนแล้วแต่ต้องได้รับคำขอบคุณเช่นกัน

 

ความจริงแล้ว ขอบคุณเป็นเรื่องของความรู้สึก เป็นภาษาของหัวใจ ที่ไม่จำเป็นต้องมีมาตรวัดว่าปริมาณมากน้อยแค่ไหนจึงควรค่าแก่การขอบคุณ

 

ท่ามกลางรถเนืองแน่นบนถนน เพียงรถคันหนึ่งหยุดรถเปิดพื้นที่ให้เราสามารถเคลื่อนออกจากปากซอยได้ ไม่เพียงแต่เราที่ดีใจ เขาก็ดีใจด้วย ขอบคุณจึงเป็นคุณค่าที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้รับ

 

เมื่อหลานของผู้เขียนถ่ายรูปกับปู่ คนเป็นปู่เห็นรูปแล้วระบายใจออกมาเป็นร้อยกรองว่า

 

“ใช่แต่เพียงมีปู่จึงมีหลาน

แต่เพราะการมีหลานจึงมีปู่

ต่างฝ่ายต่างรับและต่างรู้

หลานกับปู่ปู่กับหลานประสานใจ”

 

คนเป็นปู่นั้นจะมีสถานะเป็นปู่ไม่ได้เลยถ้าไม่มีหลานเกิดขึ้นมา ปู่จึงต้องขอบคุณหลานด้วย

 

นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ แพทย์ที่ศึกษาเรื่องจิตอย่างลึกซึ้ง เขียนไว้นานแล้วว่า 

 

“ขอบคุณเป็นการเริ่มต้นของการใช้พลังด้านบวกของหัวใจ ซึ่งเชื่อมโยงกับการทำงานของสมองชั้นกลางที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก เมื่อเราเริ่มต้นขอบคุณใครหรืออะไรสักอย่าง เราจะรู้สึกหัวใจพองโต อิ่มเอิบ อบอุ่นที่บริเวณทรวงอกของเรา 

อย่าเผลอคิดว่า ‘การขอบคุณต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เท่านั้น จะทำให้หัวใจของเราขาดการหล่อเลี้ยงไปอย่างน่าเสียดาย’ หัวใจของเราไม่จำเป็นต้อง ‘รอฝนห่าใหญ่’ เสมอไป การรดน้ำเพียงเล็กๆ น้อยๆ แต่บ่อยๆ และสม่ำเสมอ ทำให้หัวใจของเราชุ่มฉ่ำได้ไม่น้อยเลย”

 

เรามีตาไว้ดู เรามีหูไว้ได้ยิน มีลิ้นไว้รับรส เรามีสมองไว้ขบคิด และมีหัวใจไว้ตอบสนอง หัวใจที่ตอบสนองคือใจที่รู้คุณรู้ค่าของผู้คนและสรรพสิ่งที่มีอเนกนับคุณูปการ

 

บรมครูกวีอีกคนหนึ่งชี้ให้เห็นความยิ่งใหญ่ของสิ่งเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะไร้ค่าว่า

 

“โลกนี้มิอยู่ด้วย มณี เดียวนา

ทรายและสิ่งอื่นมี ส่วนสร้าง

ปวงธาตุต่ำกลางดี ดุลยภาพ

ภาคจักรพาลมิร้าง เพราะน้ำแรงไหน”

(อังคาร กัลยาณพงศ์)

 

คำขอบคุณจึงไม่ต้องตีราคา ไม่ต้องชั่งตวงวัด ไม่ต้องคำนึงถึงกำไรขาดทุน ไม่ต้องคิดถึงอายุขัย ไม่ต้องเกี่ยวกับระยะทาง ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นผู้คนเท่านั้น

 

ปี 2559 ผู้เขียนไปเที่ยวดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ได้ไปเดินเท้าที่กิ่วแม่ปาน ระยะทางราว 2.5 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ป่าที่มีคุณนานาประการ จึงเรียงร้อยกาพย์ยานี 11 ไว้ 3 บทว่า

 

ผืนดิน ใช่เพียงดิน  

ให้ชีวิน ได้เหยียบยืน

เลี้ยงป่า ทั้งแผ่นผืน  

บำรุงน้ำ ผ่องอำไพ

ผืนน้ำ ใช่เพียงน้ำ

อันชุ่มฉ่ำ เย็นชื่นใจ

เลี้ยงดิน และป่าใหญ่ 

รินไหลหลอม รวมสายชล

ผืนป่า ใช่เพียงป่า

สรรพพฤกษา อ่าอำพน

เลี้ยงโลก เลี้ยงผองชน

บันดาลดล โลกสมดุล

(ประสาร มฤคพิทักษ์)

 

เขียนคุณค่าของการขอบคุณ ผู้คน ธรรมชาติ สรรพสิ่ง มากมายก่ายกอง

 

แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมาในโสตประสาทว่า

 

“คนที่อยู่ข้างๆ ทุกเมื่อเชื่อวัน เอื้ออาทรสารพัดธุระต่อเรา คือคู่ครองนั้น ได้ขอบคุณเธอหรือยัง”

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising