วันนี้ (20 สิงหาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ ร.อ. ธรรมนัส เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องถามว่านักข่าวไปปลุกท่านขึ้นมาสัมภาษณ์หรือไม่ ท่านอาจจะหลับอยู่ก็ได้ พร้อมชี้แจงว่าตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากจังหวัดพะเยา ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ขอยืนยันว่าตนไม่ทะเลาะกับใคร และจากประสบการณ์ 6 ปีที่ผ่านมา ตนรับใช้บุคคลคนหนึ่งและพรรคหนึ่งมามากพอสมควรแล้ว มันจึงถึงเวลาที่ต้องเดินออกมาโดยไม่ทะเลาะกับใคร
ส่วนจะไปอยู่พรรคใหม่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ในชีวิตตนไม่จำเป็นต้องฝากไว้กับการเมือง ปี 2561 ตนเองเข้ามาสู่เวทีการเมืองด้วยความบังเอิญ โดยการเข้ามาสร้างพรรคพลังประชารัฐกับนักเรียนทหารนายร้อย จปร. แต่ทุกคนเกษียณไปหมดแล้ว เหลือตนคนเดียว ดังนั้น วันนี้ถึงเวลาที่ต้องประกาศความเป็นอิสรภาพของตัวเองแล้ว
เมื่อถามว่า การพูดแบบนี้จะไม่มีรายชื่อใน ครม. จริงหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส ระบุว่า เราต้องเคารพการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ใครจะเขียนเสนอชื่อใคร โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นกับ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี การเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะฉะนั้นการจะทำอะไรก็ตามต้องนึกถึงบ้านเมืองเป็นหลัก อย่าเหลิงอำนาจจนไม่ลืมหูลืมตา ความผิดชอบชั่วดี บ้านเมืองบอบช้ำมามากพอแล้ว อย่าให้เกิดความแตกแยกอีกเลย และตลอดระยะเวลาที่ตนทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พี่น้องประชาชนก็ต้องเห็นว่าใครทำงานให้บ้านเมืองและประชาชน
หลังจากนี้ตนและกลุ่มพี่น้องก็พร้อมจะไปไหนก็ได้ที่มีความสุข ไม่แสวงหาความทุกข์ให้กับตัวเอง
ร.อ. ธรรมนัส ยังกล่าวอีกว่า ไม่จำเป็นต้องคุยกับ พล.อ. ประวิตร ไม่รู้จะคุยทำไม เพราะท่านไม่ใช้ผมแล้ว
ส่วนจะออกไปจากพรรคอย่างไร จะต้องใช้มติพรรคขับออกหรือไม่นั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เราแยกออกมาให้ชัดเจนไปเลยว่าจะอยู่อย่างไรกัน แต่ตนเองจะไม่ทำลายบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่ใช่การแตกหัก ไม่เลือกที่จะทะเลาะกับใคร
“พี่น้องคงเห็นแล้วว่าสมัยรัฐบาลที่แล้ว ผมก็รักคนคนหนึ่งมาก ใช้ผมไปตาย ผมยังไปตายเลย แล้วท้ายที่สุดผมก็ประสบอุบัติเหตุทางการเมือง ผมว่าผมพอแล้ว และการที่ พล.อ. ประวิตร ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ก็ไม่ได้ถามผมและไม่ได้คุยอะไรกัน” ร.อ. ธรรมนัส กล่าว
พร้อมย้ำว่า ตนไม่ได้แตกหักกับ พล.อ. ประวิตร แต่อยากใช้ชีวิตที่สงบสุข ตนตัดสินใจและคุยกับครอบครัวแล้ว
ส่วนในกลุ่มของ ร.อ. ธรรมนัส จะเสนอคนเข้ามาร่วม ครม. เองหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ พรรคจะเสนอนาย ก. นาย ข. ไม่ใช่ว่าจะเอาทุกอย่าง และประเพณีปฏิบัติก็ไม่มีใครทำ ครั้งที่แล้วก็ไม่มีการเสนอชื่อใคร
ส่วนเรื่องคุณสมบัติของตนเอง ได้คุยกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตัวเราเองต้องรู้ตัวเราเองว่าเป็นนักการเมืองต้องพร้อมที่จะโดนตรวจสอบ อย่าไปคิดในมุมลบให้มากจนทำให้ตัวเองเป็นทุกข์
ส่วนกระแสข่าวว่า ร.อ. ธรรมนัส คุยตรงกับ ทักษิณ ชินวัตร ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ชีวิตทางการเมืองตนเองเกิดขึ้นจากพรรคไทยรักไทย และพี่น้องก็ยังอยู่กันเยอะในปัจจุบัน พร้อมถามว่า การที่ พล.อ. ประวิตร ออกมาให้ข่าวแบบนั้น ถามพรรคเพื่อไทยและแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วหรือยัง ส่วนตนนั้นคุยกับทุกคน
เมื่อถามต่อว่า กระแสข่าวที่ พล.อ. ประวิตร โทรศัพท์เคลียร์ใจโดยตรงกับทักษิณ ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนถึงถามนักข่าวว่าฝันไปหรือเปล่า
ส่วนรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอไปยังพรรคเพื่อไทยจะไม่ใช่ชุดเดียวใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ ในสัดส่วนของกลุ่มตนจะมี 1 รัฐมนตรีว่าการ และ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการใช่หรือไม่ ช่วงบ่ายนี้น่าจะได้ทราบ
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ช่วงบ่ายวันนี้กลุ่มของตนจะนัดกินข้าวกันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ยังไม่สามารถตอบเรื่องจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลุ่มของตนได้ว่ามีทั้งหมดกี่คน ส่วนกังวลกับคุณสมบัติตัวเองหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนต้องทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ
เมื่อถามว่า ไม่จำเป็นต้องรับตำแหน่งก็ได้ใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทำให้ใครเดือดร้อน บทเรียนชีวิตตน 6 ปี ตนพอแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า คำว่าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หมายความว่ามั่นใจในตนเองเรื่องคุณสมบัติใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจและไม่ต้องห่วง
ส่วนหากไม่ได้คุยกับ พล.อ. ประวิตร จะมีอะไรค้างคาใจกันหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มีอะไร สบายๆ
