วันนี้ (26 มีนาคม) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค, เอกราช ช่างเหลา สส. ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย และกัญจนา จังหวะ สส. ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงข่าวภายหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี
ร.อ. ธรรมนัส ยืนยันว่าพรรคกล้าธรรมได้เสียงมาเพิ่ม 10 เสียง แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใครบ้าง ขอให้ผู้สื่อข่าวไปหาเอาเอง และไม่อยากให้สื่อเรียกว่างูเห่า เนื่องจากเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัวของ สส. ซึ่งจากนี้ไป เมื่อลงพื้นที่จะเห็นทั้ง 10 สส. มาร่วมกิจกรรมกับพรรคกล้าธรรม
ส่วนถ้ามีการปรับคณะรัฐมนตรีจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่ เพราะได้ สส. เพิ่มมาอีก 10 เสียง ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เราไม่ได้ทำเพื่อตำแหน่งหรือโควตาคณะรัฐมนตรี แต่เพื่อทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง ส่วนจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่ ให้หัวหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ไปคุยเอง
ร.อ. ธรรมนัสยังกล่าวถึงเอกราชที่จะย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรมว่าได้พูดคุยกับอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าใจกันแล้ว ชัดเจนว่าเราไม่ชอบเป็นอีแอบ ยืนยันว่าการย้ายมาทำงานกับพรรคกล้าธรรมในการเลือกตั้งสมัยหน้าไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทยกับพรรคกล้าธรรมต้องทะเลาะกันเพราะเราคุยกันชัดเจน
“ดังนั้นใครก็ตามที่นั่งข้างผม ก็คือเขาให้ใจผม” ร.อ. ธรรมนัส กล่าว
ส่วนที่รัฐบาลมีเสียงมากพออยู่แล้ว เหตุใดจึงต้องหาเสียงมาเติม ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคกล้าธรรม ที่เราจะหาสมาชิกไว้สมาชิกและเครือข่าย สำหรับเตรียมการเลือกตั้ง ซึ่งการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน เจตนาเราพูดมาตลอดว่าเราจะเป็นสถาบันการเมืองที่เป็นทางเลือกของประชาชน และตนในฐานะที่ปรึกษา ก็คุยกับหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคมาตลอด ว่าเราจะลงพื้นที่เสาร์อาทิตย์ไม่มีวันหยุด เพื่อหาผู้สมัครโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ชุมพรถึงนราธิวาส ซึ่งตามความเป็นจริงขณะนี้เรามี สส. ทุกภาค และเชื่อว่าพรรคกล้าธรรมเป็นพรรคเดียวที่มี สส. ทุกภาค
เมื่อถามย้ำว่า จะทำอย่างไรไม่ให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลมี สส.งูเห่า ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ใช้คำว่า สส.งูเห่า ใช้คำว่า เพื่อนร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง โดยมีจุดยืนชัดเจน ว่าทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ในฐานะเป็นผู้แทนของประชาชน
ส่วนสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี ขณะนี้ทราบว่าไม่มี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะส่งผ่านหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ซึ่งตนไม่เคยร่วมการประชุมพรรคร่วมรัฐบาล แต่ได้คุยกับนายกฯทุกคน
ด้านนฤมลเปิดเผยว่า ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ยกมือหนุนนายกรัฐมนตรี และจะมาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมเร็วๆ นี้ และยอมรับว่าไชยามพวานได้ปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่แล้ว
คาดภูมิใจไทยขับออกพรรค ย้ายซบพรรคกล้าธรรม
ด้าน เอกราช ช่างเหลา สส. ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมย้ายออกจากพรรคภูมิใจไทยว่า ตอนนี้รอเวลาให้ผู้ใหญ่คุยกัน ตกลงกันได้เมื่อไรก็เมื่อนั้น ซึ่งตนได้พูดคุยกับอนุทินว่าเพื่อความสบายใจก็จะดำเนินการให้ออกจากพรรคตามต้องการ เพราะอย่างไรก็อยู่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน โดยอาจจะใช้วิธีการขับออกจากพรรค ด้วยเหตุผลเพื่อความเหมาะสมของพื้นที่ และอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวถ้าออกมาจากพรรคภูมิใจไทยแล้วจะทำงานได้คล่องตัวกว่า
“คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก” เอกราชกล่าว พร้อมปฏิเสธตอบคำถามกรณีการเป็น สส. ของพรรคภูมิใจไทยทำให้ทำงานไม่สะดวก แต่มีความเห็นไม่ตรงกันมากกว่า ดังนั้นจึงถอยออกมา เพื่อทำอะไรก็ได้ให้สบายใจต่อพี่น้องประชาชน ย้ำว่าไม่มีแตกหักกับพรรคภูมิใจไทย จากกันด้วยดี ซึ่งระหว่างการคุยอนุทินก็ไม่ได้มีการเหนี่ยวรั้ง ยืนยันว่า 2 ปีไม่น่าจะรอได้
เอกราชกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เพราะเรามีความมั่นใจ ที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น และจะสร้างมิติใหม่ให้กับจังหวัดขอนแก่น ขอให้สื่อมวลชนรอดูพฤติกรรม และบทบาทใหม่ได้ ส่วนวัฒนา ช่างเหลา นายก อบจ.ขอนแก่น บุตรชายจะย้ายตามไปด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัวที่คงตัดสินใจเองได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ส่วนที่จะย้ายไปพรรคกล้าธรรม ได้มีข้อเสนออะไรให้หรือไม่ เอกราชกล่าวว่า ตนกับ ร.อ. ธรรมนัส เป็นเพื่อนตายกันมา 10 กว่าปี และเป็นอะไรที่ผูกพันกันมานานมาก ฉะนั้นเมื่อจะหาพรรคที่ขับเคลื่อนทางการเมือง ก็ต้องหาเพื่อนที่เรามีความเชื่อมั่น ร.อ. ธรรมนัส ก็เป็นบุคคลที่เราเชื่อมั่น