วันนี้ (29 พฤษภาคม) ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, สมชาย แสวงการ, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, ภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และ นิติธร ล้ำเหลือ ร่วมกันยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อสนับสนุนคำร้องเดิมที่ร้องว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ป่วยหนักจริงตามที่อ้างไว้ในการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
ชาญชัยกล่าวว่า เอกสารที่ยื่นในวันนี้เป็นหลักฐานประกอบคำร้องเดิมที่ศาลฎีกาได้รับไว้ไต่สวนแล้ว ซึ่งรวมถึงรายงานผลการตรวจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, เอกสารจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา, มติแพทยสภาที่สอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รับรองการป่วยของทักษิณ, หนังสือจาก ป.ป.ช., และคำให้การของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ และ นพ.ตุลย์
แม้ก่อนหน้านี้ศาลเคยยกคำร้องของตนด้วยเหตุผลว่าเป็นบุคคลภายนอก แต่ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2563 ข้อ 62 อนุญาตให้บุคคลภายนอกยื่นเรื่องได้ และคดีของตนที่ร้องเป็นคดีหลัก โดยมีพยานหลักฐานจากอีกสามฝ่ายมาให้ถ้อยคำประกอบสำนวน
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ซึ่งเคยเข้าเยี่ยมทักษิณสองครั้ง ยืนยันว่าทักษิณมีสภาพร่างกายปกติ ไม่ได้ใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ใดๆ และสามารถพูดคุยเรื่องต่างๆ ได้เป็นปกติ ค่าออกซิเจนปลายนิ้วอยู่ที่ประมาณ 90% ซึ่งไม่ตรงกับอาการของผู้ป่วยหนัก ทั้งยังระบุว่าใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลมีเพียงค่าห้องพักเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าโรงพยาบาลถูกใช้เป็นสถานที่รับแขกมากกว่าการรักษาพยาบาล พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เชื่อว่าทักษิณจะไม่เดินทางมาศาลในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ หากมีคำพิพากษาที่ไม่เป็นคุณ
นิติธรเสริมว่า คำร้องของชาญชัยเป็นสำนวนหลักที่เชื่อมโยงเรื่องราวและไทม์ไลน์ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยจนถึงการพักโทษ ส่วนหลักฐานของสมชาย ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องนี้โดยตรง จะเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงกระบวนการรักษาและสภาพร่างกายของทักษิณ และหลักฐานของนายแพทย์ตุลย์จะเน้นเรื่องการพักโทษ โดยอาศัยประสบการณ์ความเป็นแพทย์ ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นประจักษ์พยานปากเดียวที่ยืนยันว่าการดูแลผู้ต้องขังของเจ้าหน้าที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน
นพ.ตุลย์ ย้ำว่า หากทักษิณป่วยจริงจะต้องมีใบเสร็จค่ายาจำนวนมาก ซึ่งในกรณีนี้มีเพียงค่าห้องพักเท่านั้น นอกจากนี้ นพ.ตุลย์ ยังยืนยันว่าจากการตรวจสอบห้องสนทนา (LINE Group) ของคณะกรรมการแพทยสภา ไม่มีการพิมพ์คำว่า ‘Yes’ ตอบรับมติการลงโทษกลุ่มแพทย์ที่รักษาทักษิณตามที่มีการกล่าวอ้าง ซึ่งแสดงว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหก
นพ.ตุลย์ เชื่อว่ามติของแพทยสภาจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการไต่สวนของศาลในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ เนื่องจากเป็นผลการทำงานอย่างมืออาชีพของแพทยสภา ซึ่งจะช่วยให้ศาลสามารถไต่สวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการป่วยของทักษิณได้อย่างละเอียดและเป็นธรรม