วันนี้ (15 มีนาคม) ดร.พงศกร อรรณนพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่พรรคไทยสร้างไทย ยินดีอย่างยิ่งที่คนกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคนพัทยา จะได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และนายกเมืองพัทยา รวมถึงสมาชิกสภาท้องถิ่น ในวันที่ 22 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งคนกรุงเทพฯ ห่างหายการเลือกตั้งท้องถิ่นมานานถึง 9 ปี ส่วนคนพัทยาไม่ได้เลือกตั้งท้องถิ่นเกือบ 8 ปี หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง บั่นทอนกระบวนการสร้างประชาธิปไตยในทุกมิติ และได้แช่แข็งการเลือกตั้งมาอย่างยาวนาน โดยได้แต่งตั้งผู้ว่าฯ กทม. และนายกเมืองพัทยา ซึ่งเป็นพวกพ้องของตนเองเข้าไปทำหน้าที่ จึงไม่มีนโยบายที่ตอบสนองต่อประชาชนในพื้นที่
ในส่วนของพรรคไทยสร้างไทยเอง ยืนยันจะส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. อย่างแน่นอน รวมถึงจะส่งผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ลงทุกเขต โดยให้ความมั่นใจว่าผู้สมัครทุกคนที่พรรคไทยสร้างไทยได้คัดเลือกมามีคุณสมบัติที่ดี มีความพร้อม และเข้าใจเข้าถึงประชาชนในพื้นที่
.
ดร.พงศกรกล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงเวลาแล้วที่จังหวัดต่างๆ จะสามารถบริหารจัดการตนเอง มีการดำเนินการด้านการคลังท้องถิ่นได้ ไม่ต่างจากกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา การกระจายอำนาจของประเทศไทยยังมีข้อจำกัดอยู่มากมาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่มาจากการเลือกตั้ง จะทำโครงการอะไรต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากส่วนกลาง สะท้อนให้เห็นถึงความเป็น ‘รัฐราชการรวมศูนย์’ ซึ่งคนเหล่านี้มีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนจากส่วนกลาง มีอายุมาก และขาดแรงจูงใจที่จะพัฒนาท้องถิ่น เพราะต้องตอบสนองต่อ ‘รัฐราชการรวมศูนย์’
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ พรรคไทยสร้างไทยมีความพร้อมที่จะส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทุกเขต ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และมีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปหากได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน เพียงแต่ขอให้ผู้มีอำนาจดำเนินการตามที่ได้กล่าวอ้างอย่างตรงไปตรงมา อย่าใช้ไทม์ไลน์การเลือกตั้งมาเป็นเครื่องมือกล่อมพรรคเล็กให้สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ให้รอดพ้นช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้น แต่พอหลังจากนั้นก็เบี้ยวสัญญาอีกเหมือนเดิม