การที่วิดีโอสั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สร้างความท้าทายให้กับ Meta ถึงขั้นที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ออกมายอมรับว่า TikTok คือคู่แข่งสำคัญที่กำลังเข้ามาดึงเวลาจากผู้ใช้ไป
แน่นอน Meta ย่อมไม่มีทางอยู่เฉยๆ เพราะผู้ใช้ที่หายไปย่อมหมายถึงรายได้ที่หายไป ดังนั้น Meta จึงเปิดตัวฟีเจอร์ที่เข้ามาท้าชน หรือจะเรียกว่าเหมือนกันอย่างกับแกะก็ได้อย่าง Reels
ดูท่า Reels เป็นอีกหนึ่งอาวุธที่เข้ามาช่วยเหลือ Meta ได้ไม่น้อย เพราะ แพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย จาก Meta บอกว่า Reels เติบโตอย่างก้าวกระโดด และกลายมาเป็นประเภทคอนเทนต์ที่เป็นที่นิยมและถูกบริโภคมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้ของ Meta และเป็นประเภทของคอนเทนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมไปถึงในประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ของปลอมย่อมสู้ของแท้ไม่ได้! เอกสารภายในเผย Reels ของ Instagram ยิ่งสู้ยิ่งแพ้ TikTok
- ปรับกลยุทธ์ใหม่! ‘Meta’ ประกาศหยุดให้บริการเกี่ยวกับ ‘NFT’ ใน ‘Instagram’ และ ‘Facebook’ กลับมาเน้นที่ ‘Reels’ มากขึ้น
- คนขายของออนไลน์ต้องปรับตัว! Facebook จะปิดฟีเจอร์ Live Video Shopping โดยจะหันไปมุ่งที่ Reels แทน
อ้างอิงจากรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ของ Meta ยอดการดู Reels ต่อวันพุ่งสูงขึ้นถึง 2 แสนล้านครั้งต่อวัน และมียอดการรีแชร์คอนเทนต์ Reels ทั้งทาง Facebook และ Instagram สูงขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2022
สำหรับประเทศไทย ผู้คนใช้เวลากว่า 50% บนแพลตฟอร์มของ Meta ไปกับการดูวิดีโอ นอกจากนี้ กว่า 40% ของคนไทยระบุว่า คอนเทนต์วิดีโอเป็น 1 ใน 3 สื่อหลักที่ช่วยให้พวกเขาค้นพบและพิจารณาซื้อสินค้าต่างๆ
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ปัจจุบัน ผู้ลงโฆษณาของ Meta เกินกว่า 75% เลือกลงโฆษณาผ่าน Reels นอกจากนี้ รายได้ทั่วโลกจาก Reels ยังทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.5 แสนล้านบาท พุ่งสูงขึ้นจากเดิมที่ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้า
Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย อธิบายว่า AI เป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาผลักดันการเติบโตของ Reels ซึ่งส่งผลให้การบริโภคคอนเทนต์ Reels บน Instagram สูงขึ้นถึง 24%
ผลการวิจัย Culture Rising โดย Meta ระบุว่า มีการพูดถึงเทคโนโลยี AI บน Facebook และ Instagram สูงขึ้นถึง 173% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในปี 2022 มีการเปิดตัว Meta Advantage Suite
ปัจจุบัน ผู้ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Meta เกือบทั้งหมดได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ AI จาก Meta อย่างน้อยหนึ่งแบบ ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ต้นทุนราคา Cost Per Acquisition (CPA) โดยรวมลดลง และมีอัตราผลตอบแทนจากการใช้จ่ายในการทำโฆษณา (Return on Ad Spend) มากกว่า 32% เมื่อใช้งานแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+
ขณะเดียวกันมีการย้ำว่า มีผู้คนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกที่เชื่อมต่อกับธุรกิจต่างๆ ผ่านแอปส่งข้อความของ Meta ในทุกๆ สัปดาห์
โดยงานวิจัยที่จัดทำโดย Forrester Consulting และ Meta ในเดือนธันวาคม 2022 แสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์การส่งข้อความทางธุรกิจสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่า 61% เมื่อเทียบกับช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ที่ใช้ก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่น ในแง่ของการขาย มูลค่าการสั่งซื้อของลูกค้าสูงขึ้น 22.1% สืบเนื่องจากการสื่อสารระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ทำผ่านการส่งข้อความทางธุรกิจ
“การส่งข้อความทางธุรกิจเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่แบรนด์ต่างๆ ควรพิจารณา โดยผู้ลงโฆษณามากกว่า 65% ของเราในไทยได้เลือกใช้โฆษณาแบบคลิกไปยังการส่งข้อความ (Click-to-Message) ในอนาคตเรายังมีแผนที่จะสนับสนุนธุรกิจให้สามารถใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันส่งข้อความของเรา เพื่อผลักดันให้เกิดอัตราการพิจารณาซื้อสูงสุด” แพรกล่าว
นอกจากนี้ Meta ยังได้เปิดตัวแอปข้อความอย่าง Threads ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีนี้ ภายในเวลาเพียง 5 วันหลังเปิดตัว Threads มีผู้สมัครใช้งานมากกว่า 100 ล้านบัญชี ส่งผลให้ Threads กลายเป็นแอปที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งยังมียอดการใช้งานประจำวันกว่า 10 ล้านครั้งทั่วโลก
ตามการเปิดเผยของ Meta ตอนนี้มีผู้คนกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลกที่ใช้งานแอปของ Meta ในทุกๆ วัน หรือกว่า 3.88 พันล้านคนในแต่ละเดือน
