ในวันนี้ (11 ตุลาคม) ทัพ ‘ช้างศึก’ ฟุตบอลทีมชาติไทยมีคิวลงสนามศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 รอบรองชนะเลิศ พบกับทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา แข่งขันในเวลา 20.00 น. ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32, YouTube: Changsuek Official และ Facebook: Changsuek Official ในเวลา 20.00 น.
และเช่นเคย THE STANDARD รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งไทยและฟิลิปปินส์ รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้
อิชิอิวางเป้าหมายคว้าชัย 2 เกม เพื่อไปถึงแชมป์
มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยืนยันว่า ฟุตบอลคิงส์คัพ คือรายการที่เขาต้องการพาทีมเอาชนะให้ได้ทั้งสองเกม เพื่อไปให้ถึงแชมป์ ซึ่งเกมแรกกับฟิลิปปินส์ต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดี แต่ทีมไทยของเราก็ซ้อมอย่างหนักและทำการบ้านมาดีไม่แพ้กัน
อิชิอิยังบอกอีกว่า หลังจบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ทีมไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจำนวนหนึ่ง นั่นทำให้เขาไม่สามารถพูดได้ว่า 11 ตัวจริงที่จะลงสนามในเกมนี้จะเป็นใครบ้าง ซึ่งเขาจะพยายามจัดทีมและทำผลงานให้ดีที่สุด
ขณะที่ เอเลียส ดอเลาะ กองหลังทีมชาติไทยวัย 31 ปี มองว่าแม้ทีมชุดนี้จะอุดมไปด้วยดาวรุ่งหลายคน แต่ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นในทีมชุดนี้ และเชื่อว่าทีมจะสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
🇹🇭 ความพร้อมทีมชาติไทย (อันดับ 100 ของโลก)
ทีมชาติไทยในมือของ มาซาทาดะ อิชิอิ เริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ไปไม่ถึงฝั่งฝันในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่ก็เป็นโอกาสดีที่กุนซือชาวญี่ปุ่นได้เรียกนักเตะหน้าใหม่ในตำแหน่งต่างๆ เข้าสู่ทีมมากขึ้นในระยะหลัง และผลงาน 2 นัดหลังสุดสามารถรักษามาตรฐาน เอาชนะเพื่อนร่วมชาติอาเซียนอย่างสิงคโปร์และเวียดนามมาได้ทั้ง 2 เกม
สำหรับการแข่งคิงส์คัพครั้งนี้ อิชิอิตั้งเป้าเก็บชัยชนะ 2 แมตช์เพื่อไปให้ถึงแชมป์ให้ได้ ท่ามกลางสภาพความพร้อมของนักเตะที่ฟิตเต็มที่ ทุกคนต่างเตรียมตัวและซ้อมตามแผนการเล่นของอิชิอิอย่างเต็มที่ เพื่อลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้โดยเฉพาะ
คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ปฏิวัติ คำไหม (ผู้รักษาประตู), นิโคลัส มิคเกลสัน, โจนาธาน เข็มดี, เอเลียส ดอเลาะ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, วิลเลียม เวเดอร์เฌอ, เอกนิษฐ์ ปัญญา, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ศุภชัย ใจเด็ด
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1
- ชนะ เวียดนาม 2-1
- ชนะ สิงคโปร์ 3-1
- เสมอ จีน 1-1
- แพ้ เกาหลีใต้ 0-3
- เสมอ เกาหลีใต้ 1-1
🇵🇭 ความพร้อมทีมชาติฟิลิปปินส์ (อันดับ 148 ของโลก)
สำหรับทีมชาติฟิลิปปินส์ยังไม่ชนะใครเลยตลอด 10 นัดหลังสุด มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตำแหน่งกุนซือของทีม ที่เปลี่ยนมาใช้งาน อัลเบิร์ต คาเปญาส โค้ชชาวสเปนวัย 57 ปี ที่จะได้คุมทีมเป็นนัดแรกในเกมนี้
โดยหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า เกมกับทีมชาติไทยทางฟิลิปปินส์ได้มีการเตรียมทีมเป็นอย่างดี รวมถึงมีการวิเคราะห์ทีมชาติไทยมาเช่นกัน และในฐานะโค้ช เขาจะพยายามเรียนรู้วิธีการเล่นฟุตบอลแบบเอเชียให้มากที่สุด
ส่วนเรื่องการเรียกตัวนักเตะภาพรวมยังเน้นผู้เล่นหลักจากชุดฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย แต่จะมีการเรียกหน้าใหม่บางตำแหน่งผสานกำลังหลักเพื่อลงแข่งรายการนี้โดยเฉพาะ
คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
เควิน เรย์ เมนโดซา (ผู้รักษาประตู), ซานติอาโก รูบลิโก, เยสเปอร์ นีโฮล์ม, เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส, สก็อตต์ วู๊ดส์, เควิน อินเกรโซ, จอห์น-แพทริก สเตร้าสส์, ซิโก้ ไบลีย์, อเล็กซ์ โมนิส, ดีแลน เดมุย์น และ พาทริค ไรเชลท์
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | แพ้ 5 นัดรวด
- แพ้ ทาจิกิสถาน 0-0 (จุดโทษ 3-4)
- แพ้ มาเลเซีย 1-2
- แพ้ อินโดนีเซีย 0-2
- แพ้ เวียดนาม 2-3
- แพ้ อิรัก 0-5
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด
เมื่อมองตามสถิติหน้ากระดาน ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกัน เป็นทีมชาติไทยมีสถิติที่เหนือกว่าชัดเจน หลังเป็นฝ่ายเอาชนะได้ 4 นัดจาก 5 นัดที่พบกัน
โดยชัยชนะของทีมฟิลิปปินส์ที่มีเหนือทัพช้างศึกต้องย้อนกลับไปในปี 1972 หรือ 52 ปีที่แล้ว ซึ่งเกมนัดนั้นทีมไทยแพ้ 0-1 ในเกมกระชับมิตร Jakarta Trophy
และนี่คือผลการแข่งขันที่ดวลกัน 5 นัดหลังสุด
- ไทย 4-0 ฟิลิปปินส์ (2022)
- ฟิลิปปินส์ 1-2 ไทย (2021)
- ฟิลิปปินส์ 1-1 ไทย (2018)
- ฟิลิปปินส์ 0-1 ไทย (2016)
- ไทย 3-0 ฟิลิปปินส์ (2014)