พลเอก พงศ์เทพ แก้วไชโย ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กล่าวเปิดงาน Thailand Security Dialogue 2025 อย่างเป็นทางการในวันนี้ (30 สิงหาคม) ซึ่งครั้งนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว โดย พลเอก พงศ์เทพระบุว่า การพูดคุยในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่สันติภาพและความมั่นคงท่ามกลางความปั่นป่วนของโลก พร้อมชี้ว่า ภูมิทัศน์ด้านความมั่นคง ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างมาก ประชาคมโลกกำลังมองเห็น ‘ความท้าทายด้านความมั่นคง’ ที่ซับซ้อนและเร่งด่วนเกิดขึ้นจากการจัดระเบียบทางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างมหาอำนาจต่างๆ
พลวัตเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วทั้งโลก รวมถึงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การแบ่งขั้วอำนาจที่ลึกซึ้งขึ้น และความไม่เท่าเทียมกันที่ยังคงอยู่ ล้วนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมส่งผลกระทบที่เป็นวงกว้างต่อทุกประเทศในภูมิภาคของเรา
ในยุคของการเปลี่ยนแปลงที่พลิกโฉมนี้ การแสวงหาสันติภาพและความมั่นคง ‘ไม่เคยเป็นเรื่องเร่งด่วน’ เท่านี้มาก่อน โลกที่สงบสุขจึงไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดเท่านั้น แต่เป็นแรงบันดาลใจที่เรียกร้องความร่วมมือ การเจรจา และการปรองดองระหว่างกัน
พลเอก พงศ์เทพยังกล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมา อาเซียนได้ทำหน้าที่เป็น ‘หลักยึดแห่งสันติภาพและเสถียรภาพ’ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยในฐานะสมาชิกอาเซียนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่าย ประเทศไทยมีจุดยืนที่โดดเด่นในการทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ไกล่เกลี่ย’ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเจรจาและส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
กองบัญชาการกองทัพไทย รวมถึงสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของกองทัพในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมแห่งความไว้วางใจท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเหล่านี้
เวที Thailand Security Dialogue 2025 ได้รวบรวมบุคลากรชั้นนำ สถาบัน และองค์กรที่อุทิศตนเพื่อความมั่นคงของโลก เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง รวมถึงแนวคิดใหม่ๆ และสำรวจหาแนวทางแก้ไขปัญหาความมั่นคงต่างๆ โดยทุกฝ่ายล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยจุดประสงค์ร่วมกันคือ ‘การแสวงหาสันติภาพและความมั่นคง’
พลเอก พงศ์เทพระบุว่า นวัตกรรมที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อนานาชาติมารวมตัวกันเพื่อทำงานร่วมกัน พร้อมกับมุ่งหวังว่า การแลกเปลี่ยนมุมมองที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพในเวทีแห่งนี้จะปูทางไปสู่การสร้างสังคมที่สงบสุขและเท่าเทียมกันมากขึ้น
ภาพ: THE STANDARD
